เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รวมเรื่องเกี่ยวกับรถและประกันรถยนต์Gobear Thailand
รู้จักประกันภัยรถยนต์ให้มากขึ้นก่อนสมัครกันเถอะ
  • ประกันภัยรถยนต์ คืออะไร แล้วมีกี่ประเภท

    ประกันภัยรถยนต์ ก็คือ ประกันภัยชนิดหนึ่งที่ผู้เอาประกันภัยทำไว้เพื่อคุ้มครองรถ รวมถึงทรัพย์สินและบุคคลในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ซึ่งการคุ้มครองจะแตกต่างกันออกไปตามแผนประกันภัยรถยนต์ ว่าแผนๆ นั้นจะคุ้มครองรถของผู้เอาประกัน และ/หรือคู่กรณีหรือไม่ แผนประกันภัยจะคุ้มครองบุคคลที่สาม และทรัพย์สินของบุคคลที่สามหรือไม่ แผนประกันภัยนั้นจะคุ้มครองเหตุน้ำท่วม ไฟไหม้ ขโมยรถหรือไม่

    ถ้าให้แบ่งคร่าวๆ แล้ว ประกันภัยรถยนต์จะมีหลักๆ อยู่เพียง 2 แบบคือ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า ประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ ที่เน้นคุ้มครองขั้นพื้นฐาน และบังคับให้เจ้าของรถยนต์ทุกคันทำ โดยประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ.รถยนต์ จะให้ความคุ้มครองเฉพาะชีวิต ร่างกายหรืออนามัยของผู้ประสบภัย อันเกิดจากรถที่ทำพ.ร.บ.รถยนต์ไว้ โดยจะจ่ายสินไหมทดแทน 2 ส่วนคือ

    1. ส่วนแรกคือค่าเสียหายเบื้องต้น ที่สามารถจ่ายได้เลยตามค่ารักษาพยาบาลจริง (ไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน) และหากเกิดกรณีเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพถาวร ก็จะชดเชยให้เบื้องต้น 35,000 บาทต่อคน และจ่ายชดเชยให้เบื้อต้น 35,000 บาทในกรณีเสียชีวิต เพื่อเป็นค่าปลงศพครับ
    2. ส่วนที่สองที่พ.ร.บ.รถยนต์คุ้มครอง จะเป็นสินไหมทดแทน ที่จะต้องรอพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าฝ่ายใดถูกฝ่ายใดผิดก่อน โดยสินไหมทดแทนจะถูกเรียกเก็บจากฝ่ายผิดครับ ทั้งนี้ ค่ารักษาพยาบาลจะชดเชยสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาทต่อคน และหากเกิดกรณีทุพลภาพถาวรหรือเสียชีวิต พ.ร.บ.รถยนต์จะชดเชยให้เต็มจำนวนคือ 300,000 บาทต่อหนึ่งคน

    นอกจากนั้น ยังมีประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ที่เจ้าของรถยนต์นิยมทำเพิ่มเติมเพื่อให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจเองก็สามารถแบ่งแยกย่อยได้อีก 5 แบบดังนี้

    ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1

    ประกันรถยนต์ชั้น 1 คือ ประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองครอบคลุมที่สุดครับ คุ้มครองทั้งผู้เอาประกัน บุคคลภายนอก คู่กรณี ทั้งบุคคลและทรัพย์สินครับ ไม่ว่าผู้เอาประกันจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก นอกจากนี้ยังคุ้มครองครบถ้วนทั้งในกรณีของไฟไหม้ รถยนต์สูญหาย หรือน้ำท่วมนั่นเองครับ ซึ่งถ้าเพื่อนๆ สนใจประกันรถยนต์ชั้น 1 บน GoBear เพื่อนๆ สามารถให้พี่หมีช่วยเลือกได้เลยครับ

    ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+

    ประกันรถยนต์ชั้น 2+ มีความคล้ายคลึงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 มากครับ เพียงแค่ว่ามีความคุ้มครองที่ลดลงมา และเบี้ยประกันที่ถูกลงมา โดยความแตกต่างของประกันชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็คือ ชั้น 2+ จะคุ้มครองรถยนต์ผู้เอาประกันหากเกิดการเฉี่ยวชนในกรณีที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้นครับ นั่นหมายความว่าหากเพื่อนๆ ขับรถเฉี่ยวชนต้นไม้ ชนรั้ว หรือไม่มีคู่กรณี จะไม่คุ้มครองนั่นเอง

    ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2

    ประกันชั้น 2 นั้นจะคล้ายๆ กับประกันชั้น 1 เพียงแค่มีความต่างตรงที่จะไม่คุ้มครองรถยนต์ของผู้เอาประกันในกรณีเฉี่ยวชน จะคุ้มครองเฉพาะกรณีไฟไหม้ และสูญหายเท่านั้น ส่วนความรับผิดต่อบุคคลภายนอกยังคงเหมือนกับประกันชั้น 1

    ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+

    ส่วนประกันรถยนต์ชั้น 3+ นั้น จะไม่คุ้มครองในกรณีรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วมนะครับ ส่วนในกรณีเฉี่ยวชน จะคุ้มครองทรัพย์สินของผู้เอาประกันเฉพาะกรณีที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น จะไม่คุ้มครองการเฉี่ยวชนในกรณีอื่นๆ ครับ และยังคุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และคู่กรณีอีกด้วยครับ

    ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3

    ประกันรถยนต์ชั้น 3 นั้น เหมาะกับคนใช้รถน้อย และต้องการเบี้ยประกันรถยนต์ที่เน้นราคาถูกเข้าว่าครับ ส่วนในเรื่องของความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 3 นั้นจะไม่คุ้มครองรถยนต์และทรัพย์สินของผู้เอาประกันเลย ไม่ว่าจะเป็นกรณีของเหตุไฟไหม้ รถยนต์สูญหาย น้ำท่วม หรืออุบัติเหตุเฉี่ยวชน แต่จะรับผิดชอบทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และตัวบุคคลภายนอกเท่านั้น
     

    เวลาเกิดอุบัติเหตุ ต้องทำอะไรเพื่อเคลมประกันบ้าง?

    เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาว่าไม่รู้กันแน่ว่าใครผิด หรือหากเกิดความเสียหายมาก และไม่สามารถตกลงกับคู่กรณีได้ คุณควรโทรแจ้งเบอร์ฉุกเฉินของบริษัทประกันของคุณ และให้พนักงานของประกันเป็นผู้เคลียร์ปัญหาทุกอย่างแทนคุณ คุณเพียงกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มของประกันเท่านั้น และทางที่ดีควรถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย

    อยากจ่ายเบี้ยประกันถูกๆ ทำอย่างไรได้บ้าง?

    ถ้าคุณอยากได้ประกันรถชั้น 1 ราคาถูก มีหลายวิธีที่คุณจะได้ราคาเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 ของคุณถูกลง มาดูกันเลยว่ามีวิธีอะไรกันบ้างครับ

    ซ่อมห้าง หรือ ซ่อมอู่

    การซ่อมรถยนต์ของคุณกรณีเกิดเหตุรถชนนั้น สามารถซ่อมได้สองที่ ตามแต่คุณเลือกตั้งแต่ตอนซื้อประกัน หากคุณเลือกซ่อมห้าง นั่นคือ “ซ่อมศูนย์” ซึ่งคุณสามารถนำเข้าซ่อมศูนย์ที่คุณออกรถได้เลย ถ้าหากคุณเลือกซ่อมอู่ นั่นหมายความว่า คุณต้องเอารถไปเข้าอู่ที่อยู่ในเครือข่ายของบริษัทประกันของคุณ ซึ่งผู้ที่เลือกซ่อมอู่ เบี้ยประกันมักจะถูกกว่าซ่อมห้างราว 20% แถมคุณภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก

    ระบุผู้ขับขี่

    หากคุณระบุผู้ขับขี่รถยนต์ของคุณ จะช่วยลดเบี้ยประกันรถยนต์ได้ ซึ่งระบุได้มากสุดเพียง 2 ชื่อเท่านั้น โดยจะยึดเอาจากคนที่อายุน้อยกว่า เป็นตัวคิดเบี้ยประกันรถยนต์เสมอ โดยมันเป็นการประหยัดมาก หากคุณไม่เคยให้ใครยืมรถไปขับ หรือถ้ายืมไปขับ และคนคนนั้นนำรถไปชน และเป็นฝ่ายผิด ประกันยังคุ้มครอง แต่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเป็นเงิน 6,000 บาท

    ค่าเสียหายส่วนแรก

    สำหรับใครที่ขับมากี่ปีๆ ไม่เคยเคลมเลยซักนิด การเลือกแบบมีค่าเสียหายส่วนแรก ดูเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ เพราะหากคุณเลือกค่าเสียหายส่วนแรก 3,000 บาท คุณจะได้ลดราคาเบี้ยประกันไปราว 2-3,000 บาท แต่หากคุณเป็นฝ่ายผิดในอุบัติเหตุ คุณต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกที่ 3,000 บาท และประกันจะเป็นฝ่ายออกส่วนที่เหลือนั่นเอง

    อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องราวอีกมากมายเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ที่เพื่อนๆ ควรทราบ โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บล็อกของพี่หมีตามแบนเนอร์ด้านล่างนี้เลยนะครับ หรือถ้าอยากหาข้อมูลประกันภัยรถยนต์ ทางเว็บไซต์ GoBear Thailand ก็มีบริการให้เพื่อนๆ โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมเช่นกันครับ

    ขอบคุณบทความจาก GoBear Thailand โกแบร์ ประเทศไทย

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in