เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
FICTIONmaeday
Next morning after wedding ceremony.
  • Title : Next morning after wedding ceremony.
    Paring : Yoongi x Jungkook
    Genre : One shot
    Rating : PG
    Note : สุขสันต์วันเกิดน้องกุกค่ะ วันเกิดน้องกุกจริงๆ ค่ะ มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มาเลยนะคะ
    _____________________________________________________________________________________________________

    จอน จองกุกลืมตาตื่นตามความเคยชินของร่างกาย นาฬิกาบนหัวนอนบอกเวลาเจ็ดโมงเช้า เขาได้นอนไปเพียงสี่ชั่วโมงเท่านั้น ทั้งที่เมื่อวานเป็นวันที่จองกุกใช้พลังล้นเหลือของเขาไปจนเกือบหมด 


    งานแต่งงานของเขากับมิน ยุนกิ ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ในวงสังคม ทั้งสองเป็นโอเมก้าและอัลฟ่าที่มาจากตระกูลใหญ่เทียบเท่ากัน ลูกชายคนเดียวของท่านนายกเทศมนตรีเมืองโซลและลูกชายเจ้าของธนาคารใหญ่ในเกาหลีใต้ ท่ามกลางข่าวเม้าท์ว่าเป็นงานแต่งตามคำสั่ง เพื่อความราบรื่นในการประกอบกิจการธนาคาร แลกกับสภาพคล่องทางการเงินในฝั่งราชการ 


    จองกุกได้ยินเสียงซุบซิบมาบ้าง แต่เขาทำเป็นไม่สนใจ การเตรียมพิธีการฝั่งตะวันตกและตะวันออกก็สับสนวุ่นวายมากพอแล้ว อีกทั้งต้องรับแขกผู้ใหญ่ระดับสูง ญาติพี่น้อง เพื่อนพ่อกับแม่ จองกุกปั้นยิ้มจนเมื่อยหน้าไปหมด


    หลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน เขาก็แทบสลบเมื่อถึงเรือนหอ อันที่จริงมันคือเรือนหลังเล็กที่แยกออกมาจากบ้านใหญ่ของตระกูลมิน คุณแม่ของยุนกิตกแต่งให้ใหม่ เพื่อต้อนรับเขาเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัว


    จองกุกคิดว่ายุนกิเองก็คงจะเหนื่อยกับพิธีในวันนี้เหมือนกัน หลังจากที่ชำระร่างกายแล้วเขาจึงปิดสวิชต์ตัวเองทันที แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจผิดไปมากโข 


    เช้านี้ ร่างผอมบางพบว่าตัวเองมีเพียงเสื้อยืดตัวใหญ่บนร่างกายเท่านั้น ทันทีที่ขยับ อาการระบมไปทั้งตัวย้ำเตือนเขาว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง จองกุกเม้มปากจนแก้มพอง การกระทำนั้นถือว่าเขาและยุนกิได้เป็นคู่ชีวิตกันทั้งนิตินัยและพฤตินัย เขายินยอมและยุนกิก็ใจเย็นพอ ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ควรเป็น ทั้งที่รอคอยมาตลอด แต่เจ้าของตากลมๆ กลับไม่ได้ดีใจเลยซักนิด


    ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเก็บข่าวซุบซิบพวกนั้นมาใส่ใจ ถึงแม้ว่าครอบครัวจอนและครอบครัวมินจะรู้จักกันมานาน ถึงแม้ว่าทั้งคู่รู้ตัวล่วงหน้าหลายเดือนถึงงานแต่งที่กำลังจะมีขึ้น แต่มิน ยุนกิก็ไม่เคยแสดงอาการสนใจในตัวเขาแต่อย่างใด จองกุกกลืนก้อนขมๆ ลงคอ ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆ ผ่อนลมหายใจเมื่ออาการปวดที่สะโพกและอาการเจ็บแปลบที่คอเกิดขึ้นพร้อมกัน มือขาวยกขึ้นแตะบริเวณไหล่เบาๆ ยุนกิกัดเขาแล้ว ถือว่าคนทั้งคู่ได้ผูกพันธะกันตามกฎของอัลฟ่าและโอเมก้าโดยสมบูรณ์


    เมื่อคิดว่าระหว่างเขากับยุนกิต้องเกี่ยวพันกันไปตลอดชีวิต จองกุกก็ถอนหายใจออกมา สำหรับตัวเขาที่หลงรักคนนั้นมานาน ไม่ใช่เรื่องที่ต้องฝืนใจเลยซักนิด แต่กับคนๆนั้น ที่ต้องแต่งงานกับเขาเพราะเหตุผลเรื่องความเหมาะสม ต้องผูกพันธะเพราะหน้าที่ ยุนกิคงจะอึดอัดใจน่าดู ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้เกิดจากความรัก จองกุกสูดหายใจลึกๆ กล้ำกลืนความรู้สึกโหวงวูบในอกก่อนจะย่างเท้าลงบนพื้น


    ร่างเล็กเสียการทรงตัวก่อนจะล้มปุลงบนเตียง จองกุกนิ่วหน้าเมื่อกระเทือนไปทั้งตัว ขาสั่นระริก เม็ดเหงื่อซึมบนหน้าผาก ไอร้อนในร่างกายคล้ายจะสูงขึ้น นั่นยิ่งทำให้กลิ่นน้ำตาลมะพร้าวของตัวเองฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง จองกุกพยายามฝืนยืนอีกครั้ง อย่างน้อยเขาก็ควรจะไปหายาลดไข้มากิน


    แต่กว่าจะลุกขึ้นได้ ประตูห้องน้ำบานใหญ่ก็เปิดออกมา ยุนกิในชุดคลุมสีขาวดูแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเขาตื่นแล้ว สายตาคมไล่ไปทั้งเนื้อตัวยิ่งตอกย้ำเหตุการณ์เมื่อคืน โอเมก้าตัวน้อยหน้าซีดก่อนจะดึงชายเสื้อมาปิดขาเอาไว้ ยุนกิเห็นปฏิกิริยาแบบนั้นแล้วรีบเสมองไปทางอื่น 


    "ตื่นแล้วหรอ"


    "ค--ครับ"


    น้ำเสียงของเขาแหบแห้งเหมือนคนป่วย จองกุกกระแอมในคอก่อนจะลุกขึ้นอีกครั้ง เขากัดฟันทำหน้านิ่งทั้งที่มึนหัวจนจะล้มอยู่มะรอมมะร่อ เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ออกมา 


    "เดี๋ยว รอตรงนี้ก่อน"


    ยุนกิสบตาเขาก่อนจะหายเข้าไปในห้องแต่งตัว เสียงกุกกักดังมาจากในห้องนั้น จองกุกผ่อนลมหายใจ ถ้าเป็นช่วงที่เขาปกติดี อาจจะเดินไปแอบดูว่ายุนกิกำลังทำอะไร แต่ตอนนี้ร่างกายของเขากำลังประท้วงอย่างหนัก เหมือนระบบทุกอย่างมันรวนไปหมด จองกุกยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว รู้สึกหนักๆ เหมือนมีใครเอาหินมาใส่ในหัว


    "กินนี่ซะหน่อย พวกยาลดไข้ ยาแก้อักเสบน่ะ" 


    "ผ--ผมไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ"


    "ไม่เป็นได้ไง หน้าซีดมาก รู้ตัวรึเปล่า ตัวร้อนด้วยล่ะสิ ไม่อย่างนั้นกลิ่นนายคงไม่รุนแรงขนาดนี้"


    ไม่พูดเปล่า ยุนกิสาวเท้าเข้ามาใกล้ มือใหญ่โตผิดกับขนาดตัวยังเอื้อมมาจับๆ ลูบๆ บริเวณใบหน้าและลำคอของเขา จองกุกยื่นตัวแข็งให้อีกคนทำตามใจ กลิ่นดินหลังฝนตกของอัลฟ่าคู่ชีวิตคล้ายจะโอบอุ้มความไม่สบายกายของเขาให้ลดลง โดยที่ไม่รู้ตัว จองกุกหลับตาพริ้มปล่อยให้ยุนกิสัมผัสโดยไม่ต่อต้าน ผิวเนื้อนุ่มนิ่มกระตุ้นสัญชาติญาณอัลฟ่าอย่างไม่ตั้งใจ ยุนกิดึงมือหนีราวกับโดนของร้อน โชคดีที่จองกุกไม่ทันเห็นปฏิกิริยานั้น


    "กินยานี่ก่อนเถอะ" เขารีบยื่นยาและขวดน้ำให้ จองกุกช้อนตามองก่อนจะกินตามคำสั่ง ดวงตากลมใสทำเอาพื้นดินที่ยุนกิยืนอยู่สั่นคลอน เขาหันหน้าหนี หางตาเห็นว่าโอเมก้ากลิ่นน้ำตาลมะพร้าวทำตามอย่างไม่อิดออดจึงเบาใจ 


    "อาบน้ำไหวรึเปล่า จะให้พี่-- หมายถึงแม่บ้านมาช่วยอาบมั้ย"


    "ไม่ ไม่เป็นไรครับ ผมไหว"


    จองกุกฝืนยิ้มออกมาก่อนจะเซไปเล็กน้อย ขาเจ้ากรรมดันหมดแรงเอาดื้อๆ โชคดีที่ยุนกิช่วยประคองไว้ทัน ไม่อย่างนั้นได้ล้มกระแทกพื้นรับเช้าหลังแต่งงานแน่


    "ยังจะดื้ออีก มานี่ เดี๋ยวพี่อาบให้"


    จองกุกดิ้นขลุกขลักพลางปฏิเสธข้อเสนอนั้น แต่อัลฟ่าคู่ชีวิตก็ไม่ได้สนใจฟัง เพียงแค่ทิ้งสายตาดุๆ คนเด็กกว่าก็คอหด ยอมนั่งนิ่งตัวแดงแจ๋อยู่ในอ่าง ปล่อยให้เขาปลดเสื้อออกโดยไม่พูดอะไรซักคำ ยุนกิรองน้ำจากฝักบัว เขากะอุณหภูมิให้อุ่นกว่าปกตินิดหน่อย กลัวคนตรงหน้าจะสะดุ้งโหยงเพราะน้ำเย็น 


    จองกุกนั่งกอดเข่าปล่อยให้ยุนกิราดน้ำลงบนตัวเขา กลิ่นสดชื่นของผืนดินจากตัวอัลฟ่า น้ำอุ่นๆ และฟองสบู่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น ฝ่ามือใหญ่ลูบเนื้อตัวเขาเบาๆ บางครั้งจองกุกจั๊กจี้จนหัวเราะคิกคักออกมา


    ยุนกิไม่แน่ใจว่าไอเดียอาบน้ำด้วยกันในเช้าหลังงานแต่งเป็นไอเดียของนัมจุนหรือโฮซอก จะบอกว่าไม่ดี ก็พูดไม่เต็มปาก เพราะได้เห็นรอยยิ้มสดใสของจองกุกหลังจากผ่านพิธีการวุ่นวายมา แต่จะบอกว่าดี ก็พูดไม่เต็มปากอีกเหมือนกัน เพราะรอยจ้ำแดงบนผิวขาวๆ อีกนั่นแหละที่กระตุ้นให้เขาคิดถึงรื่องเมื่อคืน 


    ยุนกิล้างเนื้อตัวอีกคนโดยที่พยายามไม่แตะต้องอีกฝ่ายมาเกินจำเป็น เหมือนจองกุกเองจะรู้สึกได้ โอเมก้ากลิ่นหอมหวานจึงรีบลูบสบู่ออกจากผิว ยุนกิเอาผ้าขนหนูผืนใหญ่ห่อตัวจองกุกเอาไว้ แล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวมาให้


    ปากที่เริ่มกลับมามีสีเลือดบอกขอบคุณก่อนจะขอแต่งตัวเอง ยุนกิจึงแยกตัวออกมา เปลี่ยนเสื้อผ้าตัวเองให้อยู่ในชุดลำลองขายาว แล้วจึงโทรไปสั่งครัวในบ้านใหญ่ให้เตรียมข้าวต้มสำหรับสองที่เสิร์ฟที่บ้านเรือนหอ 


    เขาต่อสายโทรศัพท์อีกครั้ง แต่คราวนี้โทรไปหาซอกจิน ผู้ที่เป็นทั้งรุ่นพี่มหาลัยฯ เพื่อนร่วมงานและเพื่อนในชีวิตจริง


    'ว่าไง เจ้าบ่าว ตกลงว่ากูจะได้หลานผู้หญิงหรือผู้ชาย'

    "ประสาท!"

    'แหม คนอย่างมึงไม่มีทางนอนมองตาจองกุกทั้งคืนหรอก'

    "ไร้สาระพอยัง? วันนี้กูไม่เข้าออฟฟิสนะ"

    'เฮ้ย! เดี๋ยว ไม่เข้าได้ไง วันนี้มิสเตอร์ลีบินมาคุยเรื่องสัญญาไงวะ กูบอกมึงไปแล้ว'

    "มึงคุยไปคนเดียวได้มั้ย หรือเอานัมจุนไปอีกคนก็ได้"

    'ไม่! กูเหม็นกลิ่นหมีของมัน กูจะไปพบมิสเตอร์ลีกับมึงคนเดียวเท่านั้น!!'  
    ยุนกิยกนิ้วนวดขมับเบาๆ เสียงสูงๆ ของซอกจินทำเอาเช้าที่แสนสงบของเขาพังยับ

    "เรื่องมากจังวะ กูเพิ่งแต่งงานเมื่อวานนะโว้ย"

    'ไหนขอเหตุผลดีๆ ในการเบี้ยวนัดกูหน่อยซิ'

    "จองกุกเพิ่งโดนกัดเมื่อคืน เช้านี้เลยมีไข้"

    'เหยดดดดด เบามือหน่อยเพื่อน น้องมันยังเด็ก ทำอย่างกับไม่เคยได้โอเมก้ามาก่อน'

    "กูเบาแล้วโว้ยยย!!!" 
    ยุนกิกดขมับแรงขึ้นเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะแหลมสูงดังมาตามสาย

    'อ่ะๆ กูยอม เห็นแก่จองกุก มึงไม่ต้องเข้ามาแล้ว เดี๋ยวกูไปกับไอ้กลิ่นหมีสองคนก็ได้'

    "ขอบใจ แต่นัมจุนมันกลิ่นน้ำผึ้ง ไม่ใช่กลิ่นหมี"

    'เรื่องของมัน ไม่ใช่เรื่องของกู ว่าแต่...ยุนกิ มึงบอกว่าเบามือ แล้วมึงทำอีท่าไหนวะน้องมันถึงจับไข้ได้'

    "ก็ทำเกือบทุกท่านั่นแหละไอ้ห่า!!" 


    ยุนกิโวยใส่โทรศัพท์ก่อนจะกดวางแล้วโยนลงบนโซฟา พอหมุนตัวกลับไปอีกทาง ก็เจอกับจองกุกที่ยืนแก้มแดงก่ำอยู่ไม่ไกล อัลฟ่าหนุ่มสบถด่าเพื่อนอยู่ในใจ ไม่รู้ว่าคนข้างหลังมายืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่


    "แต่งตัวเสร็จแล้วหรอ" ยุนกิถามพลางยกมือเกาแก้มแก้เขิน จองกุกผงกหัวหงึกๆ ใบหน้าที่โผล่พ้นออกมาจากฮู้ดสีเทาของเขานั้นดูน่ารักน่าเอ็นดู ยุนกินึกถึงข้อความที่อ่านเจอในเว็ปเพจเมื่อสองวันก่อน 


    หลังจากโดนกัด 6-8 ชั่วโมง เคมีในร่างกายของโอเมก้าจะปรับตัวให้เข้ากับเคมีในร่างกายอัลฟ่า ผลข้างเคียงคือโอเมก้าบางตัวอาจจะมีไข้ต่ำๆ ปวดหัว ปวดเมื่อย แต่อาการพวกนี้แก้ง่ายๆ อาจจะทานยาแก้ปวด,สวมเสื้อผ้าของอัลฟ่าหรืออยู่ใกล้ชิดกัน เพื่อให้กลิ่นช่วยเยียวยา จนโอเมก้ารู้สึกดีขึ้น


    "พี่ยุนกิไม่ต้องไปทำงานหรอครับ"


    "วันนี้พี่ลางานแล้วล่ะ"


    "ผมโอเคขึ้นแล้วครับ ได้ใส่เสื้อพี่ก็รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย" จองกุกยิ้มน้อยๆ ชี้นิ้วมาที่เสื้อฮู้ดที่ใส่อยู่


    "..."


    "ถ้างานนั้นสำคัญกว่า พี่ไปเถอะครับ"


    "..."


    "พี่ไม่ต้องฝืนทำหน้าที่ดูแลผมตลอดเวลาก็ได้ ผมรู้ดีว่าเราไม่ได้เริ่มจากความรัก ผมก็ไม่อยากให้พี่ต้องอึดอัดใจ"

    "คุณป้า เอ่อ...คุณแม่ชอบบอกว่าพี่ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ"

    "เรื่องอะไรที่พี่เคยทำตอนก่อนแต่ง หลังจากแต่งแล้วพี่ก็ทำเหมือนเดิมเถอะนะครับ"

    "คือ...ผมหมายถึงเรื่องคู่ด้วย ถ้าพี่พอใจจะคบเบต้าหรือโอเมก้าคนอื่นบ้าง ผมก็เข้าใจนะครับ"


    จองกุกยิ้มเจื่อนๆ ปิดท้ายประโยคแม้จะรู้สึกเหมือนโดนบีบในอก แต่เขาคิดว่ามันน่าจะดีกว่าถ้าคุยให้เข้าใจตั้งแต่ช่วงแรกของการใช้ชีวิตร่วมกัน อีกฝ่ายควรได้อิสระบ้าง ไม่ใช่ว่าต้องเอาตัวเองมาผูกติดกับเขาตลอดเวลา 


    ยุนกิกระพริบตาปริบๆ หลายวินาที กว่าจะเข้าใจคำพูดของโอเมก้าคู่ชีวิต นึกอยู่ว่าตัวเองไป 'ฝืนทำหน้าที่ดูแล' ตอนไหน


    "ใครบอกว่..." 


    ก๊อก ก๊อก ก๊อก


    แต่พอจะแก้ตัวก็ดันผิดจังหวะไปหมด แม่บ้านยกข้าวต้มมาเสิร์ฟตามคำสั่ง จองกุกกุลีกุจอเข้าไปช่วย มันควรจะเป็นช่วงเวลาที่เขาและจองกุกได้ทานข้าวด้วยกัน แต่โอเมก้าตัวหอมกลับยิ้มแย้มกับแม่บ้านจนเขาไม่มีโอกาสได้เข้าไปแทรก ปากจิ้มลิ้มชมเปาะว่าข้าวต้มที่บ้านนี้อร่อย แถมเล่าไปเรื่อยว่าชอบกินไข่คนเป็นอาหารเช้า ไข่คนที่ดีที่สุดต้องใส่เห็ด,มอสซาเรลล่าชีส แล้วก็พริกหวาน จนเขาและแม่บ้านหัวเราะออกมาเบาๆ นั่นแหละถึงจะรู้ตัว จองกุกงับปากฉับ ไม่ได้จ้ออะไรอีกนอกจากตักข้าวต้มอย่างอายๆ


    เมื่อทานกันจนอิ่ม แม่บ้านจึงยกสำรับกลับไปที่บ้านใหญ่ จองกุกโดนไล่ให้ไปนอนพัก เตียงที่ยับยู่ยี่จากกิจกรรมเมื่อคืน ถูกถอดเปลี่ยนและจัดให้อยู่ในสภาพใหม่เอี่ยม จองกุกสะบัดหัวไล่ภาพยามที่ยุนกิขยับโยกอยู่บนตัวเขาก่อนจะสอดตัวเข้าไปในผ้าห่ม ยุนกิไม่ได้ตามเข้ามา เขาเดาว่าอีกฝ่ายคงจะเตรียมตัวไปทำงาน ปากอิ่มเม้มแน่นแล้วสูดกลิ่นจากฮู้ด ย้ำกับตัวเองว่ามีเสื้อแล้วก็ไม่เห็นจะเป็นไร จองกุกตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่น 


    พอเช็คโซเชี่ยลแอพลิเคชั่นต่างๆ จึงเห็นว่ามีเพื่อนมากมายเขียนคำอวยพร อีกทั้งแท็กรูปเขาจากงานแต่งเมื่อวาน ไล่ตอบคอมเม้นต์อยู่พักหนึ่ง อาการมึนหัวก็กลับมาอีกครั้ง สงสัยว่าจะใช้สายตามากไป จองกุกฝืนอีกแต่ก็ไม่ไหว วางโทรศัพท์ไว้ที่หัวเตียงแล้วพักสายตา ไม่นานก็เข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว


    ทันทีที่วางสายจากวีดีโอคอลของมิสเตอร์ลีที่โทรมาแสดงความยินดี ยุนกิจึงรีบตามมาดูโอเมก้าของเขาในห้องนอน ใบหน้าอ่อนเยาว์ผล็อยหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อน ยุนกิไล่ข้อนิ้วไปตามผิวแก้มอย่างสบายใจ เขาหันไปดึงผ้าม่านปิด ไม่ให้แม้แต่แสงเข้ามารบกวน 


    ยุนกิสอดตัวเข้าไปอีกฝั่งของเตียง รวบเอาโอเมก้าตัวหอมเข้ามากอด ริมฝีปากสัมผัสเบาๆ ไปทั่วกรอบหน้า 


    "จองกุกอ่า.."


    เขากระซิบเรียก แต่น้องคงง่วงเกินจะลืมตาไหว ได้แต่ส่งเสียงงึมงำในคอ ยุนกิยิ้มออกมาเล็กๆ แล้วจึงจัดปอยผมไม่ให้บดบังใบหน้าจิ้มลิ้ม 


    "พี่ไม่ได้ฝืนซักหน่อย..."
    "แม่พี่บอกว่าพี่ไม่ชอบให้ใครบังคับใช่มั้ย"


    แม้ว่าจองกุกจะไม่ตอบ แต่ยุนกิก็ยังกระซิบอยู่ข้างใบหูนั้น ริมฝีปากไล่ลงมาตรงลำคอ ศูนย์กลางของกลิ่นน้ำตาลมะพร้าว เขากดจูบเบาๆ 


    "ก็จริงนะ ถ้าพี่ไม่เต็มใจเนี่ย พี่ไม่ทำหรอก แต่ที่พี่ยอมแต่ง...."
    "ก็เพราะเต็มใจไง"


    ริมฝีปากเดิมไล่กลับขึ้นมา ก่อนจะประทับลงไปบนอวัยวะเดียวกันของคนขี้เซา


    "เฮ้..ใจคอจะไม่ตื่นมาฟังจริงๆ หรอ"


    คำตอบคือเสียงงึมงำในลำคอเหมือนเดิม ยุนกิยิ้มกว้างออกมา เขาส่ายหัวน้อยๆ กอดโอเมก้าจนจมหายไปในอก ยุนกิขยับตัวจนได้ท่าที่สบายแล้วหลับตา เอาไว้จองกุกตื่นเมื่อไหร่แล้วค่อยบอกก็ยังทัน 


    พวกเขายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกเยอะ ตลอดชีวิตนั่นแหละน่า


    จบ.


    maeday.
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in