เพื่อฉลองการเดบิวต์เป็นระยะเวลา 1 เดือน BOYNEXTDOOR ได้พา NME ไปเจาะลึกถึงขั้นตอนการทำอัลบั้มของพวกเขาและตอบคำถามเกี่ยวกับบุคลิกนิสัยบางคำถามที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน
บอยแบนด์ K-pop วงแรกของ KOZ Entertainment ที่ซิโค่เป็นผู้ก่อตั้งในช่วงท้ายปี 2022, ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ BOYNEXTDOOR แม้ว่าจะไม่รู้จักชื่อพวกเขาเลยก็ตาม หลังจากระยะเวลามากกว่าหนึ่งปีที่วงเกิร์ลกรุ๊ปครอบครองวงการเพลง K-pop วงรุกกี้ภายใต้สังกัด HYBE ก็ปรากฏตัวในวันที่ 30 พ.ค. พร้อมกับ Single album แรกที่ชื่อว่า ‘WHO!’ แต่แฟน ๆ ก็ได้แอบส่องเมมเบอร์ซองโฮ รีอู แจฮยอน แทซาน อีฮัน และอุนฮักก่อนหน้านั้นแล้ว
โดยในระยะเวลาหนึ่งเดือนกว่า ในที่สุดชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์ที่ประกอบเป็น BOYNEXTDOOR ก็ถูกเปิดเผยออกมาทีละนิด ๆ อย่างแรกคือ การเคาท์ดาวน์ที่ไม่สะดุดตา จากนั้นก็มีวิดิโอที่โชว์โลโก้ออฟฟิเชียล 3D ของวงและวันเดบิวต์ ไม่กี่วันหลังจากนั้นก็มีภาพวาดประตู 6 บานตามมาซึ่งตอบคำถามเรื่องชื่อเมมเบอร์ที่คนสงสัย ประตูแต่ละบานเปิดเผยชื่อเมมเบอร์และใส่คำใบ้เป็นสิ่งที่พวกเขาชอบในนั้น ทั้งโปสเตอร์ศิลปะ, เครื่องเล่นเทป, ชามอาหารน้องหมา, คีย์บอร์ด, อ่างปลา, บาสเก็ตบอล แต่ละ element มีความชัดเจนในตัวเอง และพวกเขาทำให้ความน่าดึงดูดที่เป็นปริศนาของวงเพิ่มมากขึ้น
ในที่สุดอัลบั้ม ‘WHO!’ ก็ปล่อยออกมาด้วยไตเติ้ล 3 เพลงคือ ‘Serenade’, ‘But I Like You’ และ ‘One and Only’ และมีเมมเบอร์มากกว่า 1 คนที่ร่วมแต่ง 2 ใน 3 ของเพลงไตเติ้ล ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก และมีความคล้ายกับเพื่อนร่วมสังกัด HYBE อย่าง NewJeans เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า BOYNEXTDOOR คงจะเป็นอะไรก็ตามที่น่าจะพอคาดเดาได้ เพื่อคลี่คลายความลึกลับของพวกเขา NME เลยคว้าตัว BOYNEXTDOOR มาเพื่อตอบคำถาม 30 คำถาม พูดคุยทุกเรื่องราวตั้งแต่การพุ่งเข้าสู่เส้นทางดนตรีครั้งแรก ความทะเยอทะยานในปี 2023 และพวกเขามองภาพตัวเองเป็นยังไงในปี 2030
Q.1 ก่อนอื่น วันนี้รู้สึกยังไงบ้างคะ? ทำอะไรกันบ้าง?
ซองโฮ: วันนี้ผมรู้สึกดีครับ! ผ่านมาแล้ว 3 สัปดาห์นับจากวันที่เราเดบิวต์ แล้วมันก็สนุกมากครับ
รีอู: รู้สึกสุดยอดไปเลยครับ!
แจฮยอน: เราเพิ่งไปรายการวิทยุกันมาครับ ทุกอย่างที่พวกเราทำตั้งแต่เดบิวต์เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับพวกเรา เลยตื่นเต้นมากเท่าที่เราจะตื่นเต้นได้เลยครับ! ฝนเพิ่งจะเริ่มตก มันเลยยิ่งเพิ่มมู้ดอารมณ์ดี ๆ ในวันนี้ครับ
แทซาน: ช่วงนี้ผมมีความสุขมากตลอดเวลาเลยครับ
อีฮัน: ผมตื่นเต้นครับ
อุนฮัก: วันนี้เราไปรายการวิทยุกันครั้งแรกครับ เราได้เจอกับแฟน ๆ แล้วก็เจอโฮสท์ของรายการที่เราเคยเห็นแค่ในสื่อต่าง ๆ รู้สึกทึ่งมาก เราตื่นเต้นกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ทุกวันเลยครับ
Q.2 ถึงแม้ว่าพวกคุณจะมี single album แค่ 1 อัลบั้ม แต่ก็ชัดเจนแล้วว่าการเข้าถึงดนตรีของพวกคุณแสดงถึงประสบการณ์มากมายที่มีร่วมกับดนตรี ช่วยเล่าสักนิดได้ไหมคะว่าคุณค้นพบดนตรีเมื่อไหร่และทำไมคุณถึงอยากทำอาชีพนี้?
ซองโฮ: ผมเริ่มคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ผมชอบมากจริง ๆ จนเอามาเป็นอาชีพได้ตอนช่วงท้ายของม.ต้นครับ แล้วผมก็รู้ตัวว่าการเป็นศิลปินน่าจะเป็นอะไรที่ใช่สำหรับผมที่สุด เพราะผมรักดนตรี การแสดง และการเต้นครับ
รีอู: ผมมีโอกาสได้ขึ้นไปแสดงบนเวทีในงานโรงเรียน และผมยังจดจำความตื่นเต้นและความรู้สึกตอนที่อยู่บนเวทีได้ครับ ผมเริ่มเอาดนตรีมาเป็นอาชีพเพื่อที่จะย้อนกลับไปคิดถึงความรู้สึกตอนนั้นในทุก ๆ ครับ
แจฮยอน: แม่ของผมที่ทำงานในวงการดนตรีจะเปิดเพลงอยู่เสมอตั้งแต่ผมยังเด็ก เรนจ์ของดนตรีและความสนใจทางด้านดนตรีของผมที่เพิ่มมากขึ้นมันเลยเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติครับ
แทซาน: พ่อของผมเป็นแฟนตัวยงของ The Beatles แล้วผมก็ตกหลุมรักเพลงของพวกเขา แล้วผมจะไม่ใฝ่ฝันถึงการทำเพลงได้ไงล่ะครับ?
อีฮัน: ตั้งแต่ที่จำความได้ ผมอินกับการร้องเพลงและเต้นมาตลอด ศิลปินเป็นอาชีพที่ถ่ายทอดและแชร์ความรู้สึกที่หลากหลายให้กับผู้ชมผ่านเสียงเพลงและการแสดง มันมีสเน่ห์มากสำหรับผม ผมอยากจะสะท้อนตัวตนของผมให้กับผู้คนผ่านสไตล์และดนตรีที่มีเอกลักษณ์ของผมครับ
อุนฮัก: มีช่วงเวลาที่ผมได้ขึ้นไปแสดงบนเวทีที่งานโรงเรียน ผมตกหลุมรักเสียงเชียร์ที่มาจากทั่วโรงเรียน ผมรู้แล้วว่านี่เป็นสิ่งที่ผมอยากฟังไปจนวันตาย นั่นเป็นตอนที่ผมรู้ตัวครับ
Q.3 ก่อนที่จะเข้ามาในเส้นทางดนตรี พวกคุณอยากเป็นอะไรกันคะ หรือในอีกโลกคู่ขนาน คุณคิดว่าจะทำอะไรถ้าไม่ใช่สายดนตรี?
ซองโฮ: ข้อนี้ยากนะครับ เพราะผมเป็นคนที่ชอบหลายด้านหลายสาขามาก ๆ ถ้าผมต้องเหลือแค่ 1 อย่าง ผมคิดว่าผมจะเป็นนักฟุตบอลครับ
รีอู: ถ้ามีรีอูอีกเวอร์ชั่นนึง ผมจะแนะนำให้เขาเป็นโปรเกมเมอร์ครับ ผมชอบเล่นเกมมากตั้งแต่เด็ก เพราะงั้นผมจะทำดนตรีในโลกนี้ ส่วนรีอูอีกคนในโลกคู่ขนานก็เล่นเกมในฐานะมือโปร
แจฮยอน: ก่อนที่ผมเริ่มเลือกจะทำอาชีพในด้านดนตรี ผมชอบกีฬากับแฟชั่นมากครับ เพราะงั้นนอกจากดนตรี ก็คงเป็นอะไรที่เกี่ยวกับแฟชั่นครับ
แทซาน: ผมใฝ่ฝันที่จะเป็นศิลปินมาตลอดครับ แต่ถ้าผมต้องเลือกอาชีพอื่น ผมคงอยากเป็นนักกีฬาเทควันโดครับ
อีฮัน: ถึงจะเป็นโลกคู่ขนานแต่ผมจะเลือกเป็นศิลปินอีกแน่นอนครับ ผมรู้สึกขอบคุณและมีความสุขที่ผมได้รับความรักและกำลังใจจากผู้คนมากมายครับ
อุนฮัก: ครั้งแรกที่ผมค้นหาว่าตัวเองอยากทำอะไรในชีวิต สำหรับผมมันเป็นด้านดนตรีมาตลอดครับ แต่ถ้าต้องเลือกอาชีพอื่น คงต้องเป็นอาชีพที่ได้รับสปอตไลท์เยอะ ๆ แน่นอนครับ ผมชอบการได้รับความรักและกำลังใจในสิ่งที่ผมทำ
Q.4 บางคนเคยเป็นเด็กฝึกค่ายอื่นมาก่อน แล้วมาลงเอยกับ KOZ ได้ยังไงคะ?
แจฮยอน: ตอนที่ผมได้ประชุมกับพีดีซิโค่ของพวกเรา เขาสอนผมและทำให้ผมเห็นสเน่ห์และความน่าดึงดูดของการอยู่ในทีม และเขายังพูดว่าถ้าเราได้ทำงานด้วยกัน KOZ จะคอยสนับสนุนและช่วยให้ผมเติบโตในฐานะศิลปิน คำพูดเหล่านี้เป็นอะไรที่จริงใจและน่าเชื่อถือมาก ๆ ครับ ซึ่งทำให้ผมเชื่อว่าถ้าอยู่กับ KOZ ผมจะสามารถทำตามเส้นทางดนตรีของตัวเองอย่างมีความสุขพร้อมกับคนดี ๆ รอบตัวครับ
อุนฮัก: ตอนที่ผมตัดสินใจเรื่องความฝันของตัวเองว่าจะเป็นศิลปิน K-pop ความคิดของผมก็แน่วแน่ว่าอยากจะเข้าค่ายที่ไว้ใจได้ มีวิสัยทัศน์ของตัวค่ายเองที่ชัดเจน
ซองโฮ: ผมเข้ามาในค่าย KOZ ตอนค่ายเพิ่งก่อตั้งขึ้นมา ในช่วงที่ผมเป็นเด็กฝึก ผมรู้สึกว่าทุกคนในค่ายใส่ใจมาก ๆ ในการดูแลพวกเราและช่วยให้เราเติบโตในฐานะศิลปิน ผมเลยอยากเดบิวต์ในฐานะของศิลปิน KOZ จริง ๆ ครับ
Q.5 ใครเป็นเมมเบอร์คนแรกที่คุณเจอหลังจากเข้ามาอยู่ในค่าย และพวกคุณรวมตัวเป็น BOYNEXTDOOR อย่างเป็นทางการเมื่อไหร่คะ?
ซองโฮ: ในบรรดาเมมเบอร์ทั้งหมดผมเป็นคนแรกที่เข้ามาในค่าย KOZ แต่รีอูก็เข้ามาในค่ายแค่ 1 เดือนหลังจากตอนนั้น ผมฝึกซ้อม ร้อง เต้น กับเขานานที่สุด เมมเบอร์ทุกคนเริ่มฝึกด้วยกันเป็นทีมประมาณปีกว่า ๆ ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่นานขนาดนั้น แต่ผมคิดว่าพวกเราทำให้เกิดทีมที่ดีขึ้นมา มีความคิดตรงกันในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องดนตรีและการแสดงบนเวที
รีอู: ผมเจอซองโฮคนแรกครับ ซองโฮเป็นเพื่อนที่มีนิสัยต่างกับผมแบบสุดขั้ว ผมจะค่อนข้างขี้อายเวลาผมเจอใครครั้งแรก แต่ซองโฮเข้าหาผมก่อนและพูดว่าสวัสดีกับผมแบบสดใสสุด ๆ ครับ
แจฮยอน: ผมเข้ามาในค่ายตอนที่เมมเบอร์คนอื่น ๆ รวมกันเป็นทีมแล้ว ผมเลยได้เจอทุกคนพร้อมกันหมด แค่ดูพวกเขาผมก็สามารถบอกได้เลยว่าแต่ละคนเป็นยังไง อีฮัน รีอู แทซานจะเป็นคนที่ระวังตัว และขี้อายมากกว่า ส่วนซองโฮและอุนฮักจะเห็นชัดเลยว่าพวกเขาตื่นเต้นตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน
แทซาน: ตอนเข้ามาในค่ายผมเจอซองโฮฮยองคนแรกครับ เขาคิดว่าผมแก่กว่าเขา เขาเลยสุภาพกับผมมากแต่ก็อบอุ่นแล้วก็ตลก เขาทำให้ผมมั่นใจว่าผมได้รับการต้อนรับอย่างดี เราทั้งหมดอยู่ด้วยกันช่วงปีที่แล้วครับ และเราก็สนิทกันสุด ๆ เพราะเรามีความคิดตรงกันเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเรารัก
อีฮัน: ผมเจอรีอูฮยองคนแรกครับ ผมพยายามปรับตัวให้คุ้นเคยกับค่ายเพราะเป็นสภาพแวดล้อมใหม่สำหรับผม รีอูฮยองทำให้ผมรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนและสอนผมเกี่ยวกับสิ่งที่คาดหวัง เมมเบอร์ทุกคนเฟรนลี่มาก ผมเลยปรับตัวได้เร็วครับ
อุนฮัก: ผมก็เจอรีอูฮยองคนแรกครับ แต่ผมคิดว่าเขาเป็นเมมเบอร์ที่มีคาริสม่ากว่าตอนนี้ ผมจำได้เลยว่าผมกลัวเขา แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วครับว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นยังไง (ขำ)
Q.6 แจฮยอน คุณดูตื้นตันกับที่คำถามก่อนหน้านี้ ความประทับใจแรกกับการเจอกับ CEO ซิโค่เป็นยังไงบ้างคะ แล้วตอนนี้คุณมีความคิดอะไรบ้างเกี่ยวกับเขา?
แจฮยอน: พีดีซิโค่ทำให้เรามั่นใจว่าเขาคอยซัพพอร์ตตัวพวกเราและดนตรีของพวกเราอยู่เสมอครับ ผมมั่นใจว่าทุกคำที่เขาพูดกับพวกเราตั้งแต่แรก เขาหมายถึงแบบนั้นจริง ๆ เพราะงั้นในฐานะนักดนตรีและเป็นผู้นำค่ายของพวกเรา ผมพึ่งพาเขาเยอะมากและรู้ว่าผมทำตามเส้นทางดนตรีและเติบโตในฐานะศิลปินได้ด้วยความช่วยเหลือจากเขาครับ
Q.7 เขาได้ให้คำแนะนำอะไรเป็นพิเศษที่ทัชใจคุณไหมคะ? หรือประโยคไหนของคำแนะนำทั่วไปที่เป็นประโยคที่ดีที่สุดที่คุณเคยได้รับ?
ซองโฮ: มีประโยคนึงที่เป็นประโยคที่ผมชอบที่สุดครับ ‘คนที่ถือไมโครโฟนจำเป็นต้องมีไหวพริบกว่านี้’ มันเป็นคำแนะนำที่ไม่มีใครเคยพูดตรง ๆ กับผมมาก่อน แต่มันจึ้กมากครับ ผมคิดว่าตัวเองจำเป็นต้องมีมายด์เซทที่ดูโปร เพราะผมอยู่ในจุดที่สามารถสร้างอิมแพคให้กับคนอื่นได้ครับ
รีอู: พีดีซิโค่กับพีดี Pop Time ของพวกเราเคารพในสิ่งที่พวกเราต้องการถ่ายทอดผ่านเพลงและความรู้สึกเกี่ยวกับสิ่งที่เราเชื่อมั่นอยู่เสมอครับ และพวกเราสามารถแสดงตัวตนในแบบที่ใช่ออกมาได้ ส่วนที่ดีที่สุดของคำแนะนำที่ผมเคยได้รับคือคำพูดที่ทำให้ผมกังวลน้อยลง เขาเคยบอกว่า ‘นายเก่งแล้ว หลาย ๆ คนหลงรักเสียง การเคลื่อนไหว และการปรากฏตัวของนายแล้ว ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น และมั่นใจว่าจะมีคนอีกมากมายที่รู้สึกเหมือนกัน’
แจฮยอน: เขาเคยพูดกับผมว่า ‘ไม่มีผลลัพธ์ไหนที่เลวร้ายจากการพยายามอย่างเต็มที่’ และผมก็ใช้ชีวิตตามคำพูดนี้คร้บ
แทซาน: พ่อของผมพูดอยู่เสมอว่า ‘มองภาพผืนป่าสิ ไม่ใช่มองต้นไม้’
อีฮัน: เขาเคยบอกผมครั้งนึงว่า ‘ถ้ามี 90 จาก 100 คนที่เกลียดนาย แต่ 10 คนที่เหลือรักและซัพพอร์ตทุกสิ่งที่นายทำ นายจะมีชีวิตเพื่อใคร?’ อาจจะมีคนที่ไม่ได้รักผม แต่ผมรู้สึกขอบคุณคนที่รักผมอยู่เสมอและจะตอบแทนการซัพพอร์ตที่ผมได้รับด้วยเพลงดี ๆ ครับ
อุนฮัก: ตอนที่ผมขาดความมั่นใจช่วงที่เตรียมอัลบั้มเดบิวต์ พีดี Poptime บอกกับผมว่า ‘ให้มั่นใจอยู่เสมอนะเพราะมันจะทำให้มีความเป็นไปได้และโอกาสที่ไม่สิ้นสุด’
Q.8 เป็นคติที่ดีในการใช้ชีวิตทั้งหมดเลยนะคะ มาพูดถึง ‘WHO!’ single album แรกกันสักนิดนะคะ คุณเริ่มทำอัลบั้มนี้เมื่อไหร่คะ แล้วใช้เวลานานเท่าไหร่ในการทำอัลบั้มนี้จนเสร็จ?
ซองโฮ: เราเริ่มทำอัลบั้ม ‘WHO!’ ประมาณช่วงฤดูร้อนปีที่แล้วครับ เมมเบอร์ทุกคนพูดคุยกับพีดีซิโค่ Kaho และ Pop Time ของพวกเราอย่างต่อเนื่อง และเรียนรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติที่มีเอกลักษณ์และการทำงานร่วมกันเป็นทีมของพวกเราอย่างถี่ถ่วนตั้งแต่เรื่องใหญ่ที่สุดไปจนถึงเรื่องเล็กที่สุด พวกเขารับฟังในสิ่งที่เราอยากทำครับ ในฐานะ BOYNEXTDOOR ผมคิดว่า ‘WHO!’ single album ของพวกเราแสดงถึงตัวตนของพวกเราทั้งเรื่องดนตรีและเนื้อเพลง ต้องขอบคุณกระบวนการต่าง ๆ ในการทำเพลงครับ
รีอู: เราทำโปรเจคนี้ตั้งแต่สิงหาคมปีที่แล้วครับ แต่จริง ๆ แล้วการอัดเพลง ฝึกซ้อมท่าเต้น และการถ่าย MV ก็ยาวต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมกราคมปีนี้ครับ ผมยังเห็นการเติบโตของพวกเราชัดเจนทุกครั้งที่ฝึกซ้อมและขึ้นไปแสดงบนเวที ผมเลยคิดว่าอัลบั้มของพวกเราเป็นงานที่เติบโตไปข้างหน้า แม้กระทั่งหลังจากปล่อยอัลบั้มออกมาแล้ว
Q.9 อัลบั้ม ‘WHO!’ มีแค่ 3 เพลง แต่ทุกเพลงเป็นเพลงไตเติ้ล ทำให้ทั้ง 3 เพลงได้รับความสนใจเท่า ๆ กัน พวกคุณแชร์สักนิดได้มั้ยคะว่าเพลงไหนเป็นเพลงโปรดของพวกคุณและทำไมถึงเลือกเดบิวต์ด้วย 3 เพลงนี้? มีเพลงไหนไหมที่ไม่เข้ารอบแล้วอยากเอามาใส่ในอัลบั้มนี้?
ซองโฮ: ผมรักทั้ง 3 เพลงเลยครับ สตอรี่และข้อความของแต่ละเพลงมันเชื่อมโยงกัน ผมเลยแนะนำให้ฟังตามลำดับครับ แต่ถ้าให้เลือกหนึ่งเพลง คงเป็น ‘One and Only’ ครับ เพลงนี้แสดงตัวตนของ BOYNEXTDOOR ออกมาจริง ๆ ครับ
อีฮัน: ‘Serenade’ ครับ ในการแสดงของพวกเรามีการแสดงสีหน้า ท่าทาง และการแอคติ้งรวมอยู่ในท่าเต้น ซึ่งทำให้แฟน ๆ สนุกในการดูการแสดงเพลงนี้ครับ
แทซาน: ‘But I Like You’ ครับ เป็นเพลงอัพบีทที่ไฮป์คนฟัง ผมชอบที่คาแรกเตอร์และนิสัยในชีวิตจริงของเมมเบอร์อยู่ในเนื้อเพลงครับ
Q.10 เป็นเวลาแค่ 1 เดือนนับตั้งแต่ที่พวกคุณเดบิวต์อย่างเป็นทางการ แฟน ๆ ต่างอยากรู้มากขึ้นเกี่ยวกับเทสต์และนิสัยของพวกคุณ เอาแบบง่าย ๆ มาพักสักแปปกับคำถามทั่วไปที่ยังไม่เคยตอบ ช่วยแชร์หน่อยได้มั้ยคะว่าสีโปรดของพวกคุณคือสีอะไร และทำไมสีนี้ถึงเป็นสีโปรด?
ซองโฮ: สีฟ้ากับสีม่วงของท้องฟ้าครับ ผมชอบที่ 2 สีนี้เป็นสีอ่อน ๆ ที่ไม่มีพิษเป็นภัยครับ
รีอู: ผมว่าเมมเบอร์ทุกคนอินกับสีฟ้าซึ่งเป็นสีที่ทำให้นึกถึงพวกเราตั้งแต่ตอนที่ถ่ายเอ็มวีและคอนเทนต์ข้างนอกตอนที่สภาพอากาศเพอร์เฟกต์
แจฮยอน: ผมไม่มีสีที่ชอบที่สุดครับ ผมอินกับพวกเสื้อผ้ามาก และทุกครั้งที่ผมเจอเสื้อผ้าที่ผมชอบ สีของเสื้อผ้าจะกลายเป็นสีโปรดของผมในวันนั้นครับ(ขำ)
แทซาน: ชอบสีแดง มันเป็นสีที่ทำให้รู้สึกถึงความประทับใจที่ดูมีพลัง
อีฮัน: ผมชอบสีดำเพราะมันเป็นสีให้อารมณ์ที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับมุมมอง ผมอยากจะเป็นคนที่มีด้านยูนีคซึ่งมีเรนจ์ที่หลากหลาย
อุนฮัก: ผมชอบสีที่เห็นได้ตามธรรมชาติ เช่นเขียว เหลือง และฟ้า เพราะมันมองเห็นและเข้าถึงง่าย แต่ก็มีความยูนีคของตัวมันเอง
Q.11 ถ้ากินได้แค่อย่างเดียวตลอดชีวิตที่เหลือ จะเลือกกินอะไรคะ?
ซองโฮ: เบอร์เกอร์ครับ ถ้าผมควบคุมขนาดและปริมาณที่ผมกินได้ ผมคิดว่ามันก็เป็นตัวเลือกที่เฮลตี้นะครับ
รีอู: ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีโดนัท!
แจฮยอน: ผมว่าน่าจะเบอร์เกอร์นะครับ ตามที่ซองโฮแนะนำ
แทซาน: ผมเลือกซูชิครับ!
อีฮัน: เยลลี่!
อุนฮัก: ขนมปัง! เพราะมันมีขนมปังหลายแบบ ผมคิดว่าผมจะไม่เบื่อครับ
Q.12 ในทำนองเดียวกัน ถ้าดูหนังได้แค่เรื่องเดียวตลอดชีวิตที่เหลือ จะเลือกเรื่องอะไรคะ?
ซองโฮ: อืมม..เป็นคำถามที่ยากเหมือนกันนะ เพราะผมชอบดูหนังมาก ถ้าผมต้องเลือก ผมจะดูหนังของ Christopher Nolan ครับ ผมขอโกงนิดนึง ผมคงจะผิดหวังและรู้สึกพลาดถ้าผมดูได้แค่เรื่องเดียวตลอดชีวิตที่เหลือ
รีอู: Spider-Man series!
แจฮยอน: Twilight saga! เป็นภาพยนตร์ซีรีส์ที่ทำให้ผมคิดว่ารักนิรันดร์โรแมนติกครับ
แทซาน: Titanic
อีฮัน: About Time!
อุนฮัก: ผมชอบ The Notebook มากครับ ผมไม่ได้ดูบ่อยขนาดนั้นแต่ผมไม่เคยรู้สึกเบื่อหรือเข้าใกล้กับความรู้สึกเบื่อเรื่องนี้เลยครับ เพราะงั้นถ้าผมต้องดูแล้วดูอีก ก็คงเป็นเรื่อง The Notebook ครับ
Q.13 ไอเท็มหรือเสื้อผ้าชิ้นไหนที่ชีวิตขาดไม่ได้?
ซองโฮ: เสื้อผ้าโดยทั่วไปครับ!! ผมชอบบบบบเสื้อผ้า
รีอู: เครื่องประดับเป็นสิ่งที่ต้องมีครับ
แจฮยอน: แว่นตากับยีนส์ครับ สองอย่างนี้เป็นไอเท็มที่ผมเลือกใส่เป็นประจำครับ เพราะงั้นผมอยู่ไม่ได้ถ้าขาดสองสิ่งนี้
แทซาน: หมวกกับแว่นตา สองอย่างนี้เป็นไอเท็มฟินิชลุคและทำให้ดูมีสไตล์
อีฮัน: รองเท้า!
อุนฮัก: ผมชอบแบรนด์ที่น่ารักและฮิปในเวลาเดียวกัน แบรนด์พวกนี้มีสเน่ห์และดึงดูดสายตามากครับ
Q.14 แล้ว beauty item ที่ชีวิตขาดไม่ได้คือ?
ซองโฮ: ผมขอตอบว่าโฟมล้างหน้าครับ ผมเหงื่อออกเยอะครับ เพราะงั้นผมเลยต้องทำให้ตัวเองมั่นใจว่าล้างหน้าสะอาดดีแล้ว
รีอู: ลิปบาล์ม! ปากผมแห้งตลอดเวลา เลยเป็นไอเท็มที่ต้องมีครับ
แจฮยอน: eye cream ครับ ผมยิ้มอยู่ตลอด ผมเลยจำเป็นต้องใช้ครับ
แทซาน: อืมมม…ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมอยู่ได้โดยไม่ต้องมี beauty item ครับ
อีฮัน: ลิปบาล์มครับ
อุนฮัก: ผิวผมแห้งบ่อย ผมเลยไม่อยากใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีแผ่นมาสก์หน้าครับ
Q.15 ถ้าแต่ละคนต้องอธิบาย BOYNEXTDOOR ด้วยคำวิเศษณ์ หรืออีโมจิ 3 อย่าง จะเลือกอะไรคะ?
ซองโฮ: สนุกสนาน, แปลกใหม่ และรอคอยมานาน ผมคิดว่าคนหวังจะเจอกับสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ แต่ในขณะเดียวกันเราก็จะตามหาสิ่งที่สบายใจจากสิ่งที่เราคุ้นเคย เพราะงั้นเราเลยอยากจะทำทั้ง 2 อย่าง เราอยากจะเป็นวงที่มีเอกลักษณ์และแปลกใหม่แต่ก็เป็นวงที่ทำให้คนนึกถึงความทรงจำที่พวกเขาอยากระลึกถึงและอยากกลับไปเจออีกครับ
รีอู: 😌😛🥰
แจฮยอน: เป็นกันเอง, สบายใจ, น่ารัก
แทซาน: 😵💫👕💍 คนที่ฟังเพลงของพวกเราจะเข้าใจความหมายของอีโมจินี้ครับ
อีฮัน: 🖤🥰🥺
อุนฮัก: 😍😎😘 อีโมจิ 3 อันนี้สื่อถึงภาพรวมเรื่องราวการตกหลุมรัก, เตรียมตัวไปสารภาพรัก และสารภาพกับคนคนนึงในอัลบั้มของพวกเราครับ
Q.16 จากตำแหน่งในวงของพวกคุณ บทบาทหน้าที่อะไรที่คิดว่าใช่? เช่น: ใครเป็นคนสร้างบรรยากาศ, ใครดูแลเมมเบอร์ดีที่สุด, ใครทำตัวเหมือนคนที่โตกว่า
ซองโฮ: ผมคอยดูแลระดับเอเนอจี้ในวงครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ผมรู้สึกว่าพวกเราดูเหนื่อยหรือหมดแรง ผมพยายามจะเป็น energiser เพื่อดึงทุกคนให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันครับ
รีอู: ผมคิดว่าพวกเราทุกคนทำงานด้วยกันเพื่อหาสิ่งที่จำเป็นต้องทำให้สำเร็จในเวลานั้น ๆ มากกว่ายึดติดกับบทบาทที่กำหนดไว้ครับ
แจฮยอน: ผมอยากเป็นเขื่อนครับ ผมอยากให้เมมเบอร์ได้รับฟี้ดแบคดี ๆ จากสาธารณะชนอยู่เสมอ ผมเลยพยายามไปอยู่ตรงนั้นเพื่อซัพพอร์ตเมมเบอร์เบื้องหลัง ผมอยากจะแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องวงและรักษาวงไว้จากสิ่งที่มากระทบหรือคลื่นที่อาจจะปรากฏขึ้นมาตลอดเส้นทางของพวกเราครับ
ถ้าให้ผมผมพูดถึงเมมเบอร์: แทซานเป็นคนน่ารักอย่างคาดไม่ถึง, รีอูเป็นคนใจเย็น ประเมินสถานการณ์ได้ไว, ซองโฮเป็นคนฉลาด เขารู้อะไรหลายอย่าง, อีฮันเป็นคนกลางที่คอยตัดสินของวง และอุนฮักเป็นมังเน่ที่น่ารักที่สุดของวงครับ
แทซาน: ผมจะเอาความคิดเห็นและตัวเลือกจากมุมมองที่มีประสิทธิภาพมาเสนอเพื่อช่วยเมมเบอร์ครับ
อีฮัน: ผมคอยเป็นที่ปรึกษาให้เมมเบอร์ครับ
อุนฮัก: ผมเด็กที่สุกในวง ผมเลยพยายามเป็นจุดสนใจและเป็นที่รักในวงครับ (ขำ)
Q.17 คุณคิดว่าอะไรเป็นคุณสมบัติที่ดีที่สุดของเมมเบอร์แต่ละคนที่อยู่ในวงเดียวกัน?
ซองโฮ: ผมคิดว่าคุณสมบัติที่ดีที่สุดที่เรามีในฐานะ BOYNEXTDOOR คือพวกเราทุกคนมีคาแรกเตอร์และบุคลิกเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน เมมเบอร์ทุกคนมีเทสต์และนิสัยที่เป็นตัวของตัวเอง ซึ่งทำให้พวกเรามีความสามารถรอบด้าน ในฐานะที่แจฮยอนเป็นลีดเดอร์ เขาจะคอยผลักดันวงและโอบกอดเมมเบอร์ทุกคนในวงก่อนเสมอ พวกเราจำเป็นจะต้องมีลีดเดอร์ที่สามารถทำให้พวกเราระบายสีที่ผสมผสานเป็นตัวตนของพวกเราได้ และเขาก็เป็นแบบนั้นครับ รีอูเป็นคนที่เงียบสงบที่สุด เขาใจเย็น เพราะงั้นเวลาเมมเบอร์ต้องตกลงไกล่เกลี่ยกัน เขาจะเป็นคนที่เราต้องการครับ แทซานเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์สุด ๆ ครับ มันไม่ได้ไชน์แค่ด้านดนตรี แต่ไชน์ในหลาย ๆ ด้าน ความคิดสร้างสรรค์ของเขาเพิ่มคุณค่าให้กับ BOYNEXTDOOR ครับ อีฮันเป็นเมมเบอร์ที่ช่างคิดที่สุดครับ เป็นคนนิสัยดีที่คอยอยู่รอบตัวทุกคน ของอุนฮักไม่ต้องอธิบายอะไรยาวครับ เขาน่ารักที่สุด (ขำ) แต่บางทีด้านที่ดูเป็นผู้ใหญ่โดยเฉพาะทัศนคติกับมุมมองในการมองโลกของเขาก็ทำให้เราอึ้งเหมือนกันครับ
Q.18 วันธรรมดาของเมมเบอร์ BOYNEXTDOOR เป็นยังไงคะ? สิ่งแรกที่ทำตอนตื่นนอนและสิ่งสุดท้ายก่อนเข้านอนคืออะไรคะ?
ซองโฮ: ตั้งแต่เดบิวต์เราก็ยุ่งกันมากครับ ก็จะไปถ่ายทำหรือไปแสดงในรายการเพลง แต่ละวันของพวกเราส่วนใหญ่เลยเริ่มต้นด้วยความ glam และการจัดแต่งเสื้อผ้าทรงผมครับ
รีอู: ผมย้อนดูทุกการแสดงและทุกอย่างที่เราทำในวันนั้นก่อนเข้านอนครับ
แจฮยอน: ผมพูดคุยกับแฟน ๆ ผ่านโซเชียลมีเดียระหว่างนั่งรถกับก่อนเข้านอนเสมอครับ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของวันสำหรับผมเลยครับ!
แทซาน: พอผมตื่นนอน ผมก็แปรงฟัง อาบน้ำ เตรียมตัวสำหรับการเริ่มต้นวันใหม่ ผมจะเช็คให้มั่นใจว่าตลอดทั้งวันผมได้ถ่ายรูปหรือเขียนข้อความที่ผมสามารถแชร์ให้แฟน ๆ ทีหลังเรียบร้อยแล้ว หลังจากหมดวัน ผมก็จะอาบน้ำและส่วนใหญ่จะเผลอหลับบนเตียงขณะที่กำลังฟังเพลงครับ
อีฮัน: ผมเช็คข้อความที่แฟน ๆ ส่งมาให้ทั้งหมดเลยครับ!
อุนฮัก: ผมเริ่มต้นวันและจบวันของผมกับแฟน ๆ ครับ ตอนที่ผมปิดท้ายวันด้วยการอ่านข้อความของแฟน ๆ ทำให้ผมสามารถเริ่มต้นในวันถัดไปด้วยความมั่นใจที่มีทั้งหมดในโลกครับ!
Q.19 คุณผ่อนคลายหรือคลายเครียดหลังจากเจอกับวันที่ยากลำบากยังไงคะ?
ซองโฮ: ผมคิดว่าการนอนหลับเต็มอิ่มเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการคลายเครียดและเตรียมตัวสำหรับวันถัดไปครับ
รีอู: ผมคิดว่าการอาบน้ำอุ่นหลังจากผ่านวันที่ยาวนานมาเป็นวิธีผ่อนคลายที่ดีที่สุดครับ
แจฮยอน: ผมล้มตัวนอนและฟังเพลงหรือหลับตอนที่เหนื่อยครับ หรือช่วงนี้ผมก็คุยกับแฟน ๆ ผ่านทางโซเชัยลมีเดียซึ่งช่วยได้มากเลยครับ!
แทซาน: ผมพักผ่อนฟังเพลงที่ตรงกับอารมณ์ของผมในวันนั้น ๆ ครับ
อีฮัน: ปกติแล้วผมจะหยุดทำทุกอย่างทันทีที่กลับถึงบ้านครับ
อุนฮัก: ผมฟังเพลงไม่ก็ทำเพลง ผมปลอบโยนตัวเองด้วยการแสดงความรู้สึกในตอนนั้นผ่านดนตรีครับ ปัญหาเพียงอย่างเดียวคือผมแต่งไม่เสร็จหลายเพลงเพราะอารมณ์ของผมเปลี่ยนอยู่ตลอดครับ (ขำ)
Q.20 เมมเบอร์บางคนพูดถึงเทสต์เพลงที่ชอบและแรงบันดาลใจในการเข้ามาในวงการดนตรีบ่อยมาก อย่างในทีเซอร์แรกสุด เห็นได้ชัดเลยว่าแทซานชอบวง Nirvana ใครเป็นศิลปินที่พวกคุณชื่นชอบตลอดกาลคะ?
แทซาน: ผมชอบเพลงหลายแนว แต่ผมชอบวงร็อกเป็นพิเศษ นักดนตรีที่ผมชอบคือ Nirvana, Oasis และ The Carpenters ครับ
อีฮัน: มันขึ้นอยู่กับว่าผมรู้สึกยังไงในวันนั้น ตอนที่ผมรู้สึกดาวน์ ผมจะฟังเพลงที่มีจังหวะช้า ๆ แต่ถ้าผมอารมณ์ดี ผมจะฟังเพลงฮิปฮอป ช่วงนี้ผมอินกับ d4vd ครับ
ซองโฮ: ผมเป็นแฟนเพลงศิลปินหลายคนเลยครับ ถ้าผมหาบางอย่างที่เหมือนกันของศิลปินที่ผมชอบ โดยปกติจะเป็นการที่พวกเขามั่นใจกับดนตรีที่พวกเขาทำ และพวกเขามักจะแต่งเนื้อเพลงที่จริงใจ ศิลปินที่ผมชอบที่สุดคือ Tom Misch, FKJ และ Billie Eilish
แจฮยอน: แนวที่ผมชอบคือฮิปฮอปและเรกเก้ครับ ผมมีนิสัยชอบฟังเพลงที่คนที่ผมสนิทชอบฟังครับ อย่างตอนได้เจอกับแทซาน ทำให้ผมได้รู้ว่าเพลงร็อกและเพลงอินดี้มันเจ๋งขนาดไหน การได้เจอกับผู้คนใหม่ ๆ ทำให้ผมตกหลุมรักแนวเพลงใหม่ ๆ ครับ ช่วงนี้ผมอินกับแนวซิตี้ป็อป และศิลปินที่ผมชอบล่าสุดคือ SOULIGHTS และ Bob Marley ครับ
อุนฮัก: ผมไม่ได้ฟังเพลงแบบแบ่งแยกประเภทดนตรีครับ แต่ผมพยายามฟังทุกเพลงของศิลปินป็อปที่เป็นตัวแทนของยุคนั้น ๆ ช่วงนี้ผมอินกับเพลงของ The Kid Laroi ครับ
รีอู: ผมชอบเพลงป็อปเกาหลียุคเก่าครับ แต่เวลาที่ผมอยากจะสนุกและกรูฟกับเพลงตอนนั่งรถ ผมก็จะฟังเพลงป็อปครับ ศิลปินคนโปรดของผมคือ Bruno Mars กับ Deulgukhwa ครับ
Q.21 เป็นส่วนผสมของเพลงหลากหลายแนวที่ดีเลยค่ะ! แล้วมีอัลบั้มหรือเพลงโปรดตลอดกาลไหมคะ?
ซองโฮ: คำถามนี้ก็ยากอีกแล้ว! ผมฟัง ‘Geography’ อัลบั้ม ของ Tom Misch บ่อยครับ เป็นอัลบั้มที่ทำให้ผมผ่อนคลาย และสบายใจครับ
รีอู: อัลบั้มโปรดของผมคือ ‘Because I Love You’ ของยูแจฮา เพลงโปรดของผมคือ ‘Versace on the Floor’ ของ Bruno Mars ครับ
แจฮยอน: ‘I Can See Clearly Now’ ของ Johnny Nash ครับ ผมชอบเพลงเรกเก้มากกก และผมก็รู้สึกว่าเพลงหลาย ๆ แนวมีการผสมผสานและได้รับอิทธิพลมาจากจังหวะเรกเก้หลังจากเพลงนี้ได้ขึ้นไปอยู่บนท็อปชาร์ต Billboard ต้องขอบคุณเพลงนี้ ตอนนี้ผมเลยโชคดีได้ฟังเพลงที่มีส่วนผสมของดนตรีหลากหลายแนวผสมกันซับซ้อนแบบที่ผมชอบครับ
แทซาน: ‘The Black Parade’ ของ My Chemical Romance ครับ
อีฮัน: คงต้องตอบว่า ‘WHO!’ เดบิวต์ซิงเกิ้ลอัลบั้มของพวกเราครับ เพราะอัลบั้มนี้จะมีความหมายสำหรับผมตลอดไปครับ
อุนฮัก: ‘Error’ ของอีชานฮยอกครับ ช่วงนี้ผมอินกับเพลงที่ปลอบประโลมใจครับ
Q.22 พวกคุณช่วยแชร์เพลงที่ฟังซ้ำ ๆ ในเดือนนี้หน่อยได้มั้ยคะ?
ซองโฮ: แน่นอนว่าต้องเป็น 3 เพลงของพวกเราครับ (ขำ) ผมฟัง ‘Hummingbird’ ของ Metro Boomin และ James Blake ครับ
รีอู: ผมฟัง ‘Joah’ ของ Jay Park วนซ้ำไปมาครับ
แจฮยอน: ส่วนใหญ่ผมฟังเพลงที่ตัวเองแต่งครับ ทุกเพลงมีค่าสำหรับผม และผมก็ฟังเพื่อปลอบโยนตัวเองครับ
แทซาน: ‘Tecnicolor Dreams’ ของ Bee Gees ครับ
อีฮัน: ‘But I Like You’, ‘One and Only’ และ ‘Serenade’ เป็นเพลงที่ผมฟังและซ้อมหลายครั้งนับไม่ถ้วนครับ
อุนฮัก: ผมไม่ใช่คนที่ชอบเปิดเพลงซ้ำ ๆ ครับ ผมเคยอินกับแนวฮิปฮ็อป แต่ตอนนี้ผมพยายามที่จะเรียนรู้และฟังเพลงหลากหลายแนวและเพลงที่ดึงดูดผู้คนครับ
Q.23 ตอนนี้แฟน ๆ รู้เรื่องเทสต์ทั่วไปของพวกคุณมากขึ้นอีกนิดแล้วนะคะ ไปคำถามที่ลึกกว่านี้นิดนึงนะคะ พวกคุณมีความสามารถที่ซ่อนอยู่หรือพฤติกรรมประหลาดที่พิเศษไม่เหมือนที่ไม่มีใครรู้ไหมคะ?
ซองโฮ: ผมเคยขี่ม้าตอนเด็ก ๆ เคยได้เหรียญจากการแข่งด้วยครับ!
รีอู: เมมเบอร์ทุกคนเล่นกีฬากันเก่งมาก แฟน ๆ ของพวกเราตั้งตารอดูความสามารถด้านนั้นของพวกเราได้เลยครับ
แจฮยอน: ความสามารถของผมที่ซ่อนไว้โดยไม่มีใครรู้น่าจะเป็นความอดทนครับ ผมเป็นคนคิดมากกับหลาย ๆ เรื่อง แต่ผมมักจะเล่นตลกกับเมมเบอร์เพื่อให้มั่นใจว่าผมทำให้พวกเขาผ่อนคลายและทำให้พวกเราสนุก เอนจอยกับประสบการณ์ที่พวกเราได้เจอด้วยกันมากขึ้นครับ
แทซาน: ผมเป็นคนที่ฝันแบบ Lucid dream ผมรู้ตัวว่าตัวเองกำลังฝันครับ
อีฮัน: ผมชอบปลูกต้นไม้ แต่มีเหตุผลบางอย่างที่ต้นไม้ที่ผมปลูกเหี่ยวตายหมดเลยครับ มันเจ็บปวดหัวใจมากผมเลยหยุดปลูกต้นไม้ครับ
อุนฮัก: ผมชอบการแร็ปครับ! ผมขัดเกลาทักษะการแร็ปของตัวเองเพื่อที่จะแสดงให้ทุกคนได้เห็นครับ
Q.24 ถ้าเลือกได้แค่ 1 อย่าง ความทรงจำไหนที่เป็นความทรงจำที่น่าจดจำที่สุดของพวกคุณตั้งแต่ได้เดบิวต์คะ?
ซองโฮ: ช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดคือ Weverse Con Festival ครับ เป็นครั้งแรกที่ได้แสดงบนเวทีใหญ่ขนาดนั้น พวกเราสนุกกันมากครับ ผมอยากจะทำงานให้หนักขึ้นและพัฒนาการแสดงของพวกเราเพื่อแสดงให้แฟน ๆ ของพวกเราและคนอื่น ๆ ได้เห็นว่าเรามีอะไรมาโชว์ครับ
รีอู: ผมจำวันที่ได้เจอกับแฟน ๆ ของพวกเราครั้งแรกหลังจากเดบิวต์ได้แม่นเลยครับ มันรู้สึกเหมือนฝัน และผมก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ไม่อยากจะเชื่อว่ามันกำลังเกิดขึ้นจริง ๆ
แจฮยอน: ผมคิดว่าเป็นตอนที่ได้เจอกับแฟน ๆ ของพวกเราครั้งแรกครับ เป็นตอนที่ทำให้รู้ตัวว่าเราได้เดบิวต์กันแล้วจริง ๆ ครับ
แทซาน: ตอนที่ได้เจอกับแฟน ๆ ครั้งแรก ซึ่งเป็นการอัดรายการเพลงครับ ผมไม่อยากจะเชื่อว่าพวกเขาไปที่นั่นเพื่อดูพวกเรา พวกเขาเชียร์กันเสียงดังมาก ผมจะรู้สึกขอบคุณตลอดไปเลยครับ
อีฮัน: ทุกครั้งที่พวกเราขึ้นสเตจครับ! ผมชอบเวลาแฟน ๆ ตะโกน ‘อีฮัน’ หรือแม้กระทั่งตะโกนว่า ‘เจ้าชาย’
อุนฮัก: ตอนที่ผมได้ยินเสียงเชียร์ของแฟน ๆ ครั้งแรกบนเวที ผมไม่สามารถลืมช่วงเวลานั้นได้เลยครับ!
Q.25 มาคุยเรื่องเบา ๆ สบาย ๆ กันบ้างนะคะ พวกคุณดูเหมือนจะคลั่งไคล้แฟชั่นกันมาก ๆ จากลุคที่คุณได้ใส่บนสเตจและเอ็มวี ลุคไหนเป็นลุคที่คุณชอบมากที่สุดและเพราะอะไร?
ซองโฮ: ผมชอบชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนที่เราใส่ครับ เช่นที่ผมใส่กางเกงขาสั้นกับคาร์ดิแกนในเพลง ‘One and Only’ หรือยูนิฟอร์มสีเขียวที่ใส่ในเพลง ‘But I like you’
รีอู: ผมชอบสไตล์และชุดที่ใส่ในเพลง ‘One and Only’ ครับ ผมใส่เสื้อยืดลายสก็อตกับกระเป๋าเป้ใบใหญ่ ผมคิดว่ามันน่ารักและเท่ในเวลาเดียวกันครับ มี element น่าสนใจหลายชิ้นเพิ่มเติมที่ทำให้ชุดออกมาเพอร์เฟคครับ
แจฮยอน: ลุคที่ผมชอบที่สุดคงจะเป็นสไตล์ชุดนักเรียนในเพลง ‘One and Only’ มันทำให้ผมนึกถึง Tyler, the Creator และเป็นสไตล์ที่ผมไม่เคยลองใส่มาก่อน!
แทซาน: ผมชอบสไตล์ที่ผมใส่ตอนร้องท่อนแรกในเอ็มวีเพลง ‘One and Only’ ครับ ผมคิดว่าแฟชั่นลุคนี้ดึงบุคลิกของผมออกมาได้ดีมากครับ
อีฮัน: ผมชอบทุกลุคเลยครับ ลุคที่ผมยังจำได้คือสเวตเตอร์ลายทางสีน้ำเงินส้มจากเอ็มวี ‘One and Only’ ครับ ขนสเวตเตอร์มันหลุดตลอด แล้วขนมันก็มาติดหน้าผม มันเลยเป็นชุดที่จำได้แม่นสุด ๆ เลยครับ (ขำ)
อุนฮัก: ผมชอบชุดที่ใส่ตอนถ่ายซีนในห้างจากเอ็มวี ‘One and Only’ ครับ ผมใส่แว่น goggle ด้วย ก็เลยทำทำให้ดูสนุกและฮิปมากขึ้นครับ
Q.26 กลับไปที่คำตอบก่อนหน้านี้ของซองโฮ BOYNEXTDOOR เพิ่งจะเดบิวต์การแสดงไลฟ์คอนเสิร์ตในงาน 2023 Weverse Con Festival in Seoul เป็นยังไงบ้างคะ? กังวลบนเวทีบ้างไหมคะ?
ซองโฮ: มันเป็นช่วงเวลาที่อีโมและเต็มไปด้วยความสุขครับ ผมมองเห็นแฟน ๆ ของพวกเรานั่งอยู่ตรงที่นั่งคนดูจากหลังเวทีก่อนที่ผมจะขึ้นเวทีครับ แล้วผมก็ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นแรง ทันทีที่เริ่มแสดง ความกังวลทั้งหมดกลายเป็นความสนุกครับ วันนั้นผมรู้สึกมีความสุขท่วมท้นมาก ๆ เลยครับ
รีอู: ผมอยากโฟกัสกับการแสดงให้ดีที่สุดเท่าที่เราเคยแสดงมากกว่าที่จะกังวลในวันนั้นครับ!
แจฮยอน: รู้สึกเป็นเกียรติมากครับที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Weverse Con Festival! ผมถูกเติมเต็มด้วยความคาดหวังและประสบการณ์น่าตื่นเต้นบนเวทีครับ
แทซาน: เราเพิ่งจะเดบิวต์ ผมเลยรู้สึกขอบคุณมาก ๆ ที่เราได้มาเป็นส่วนหนึ่งของงานเฟสติวัลที่ใหญ่ขนาดนี้ ผมรู้ว่าพวกเราพร้อมที่จะสนุกบนเวที และเราก็ทำสำเร็จครับ!
อีฮัน: มันรู้สึกตื่นเต้นมากกว่ากังวลครับ เพราะเป็นเวทีที่ใหญ่ที่สุดที่เราได้ขึ้นไปแสดง ผมเลยตื่นเต้นเกินกว่าที่จะแสดงทุกอย่างที่เรามีให้ทุกคนได้เห็นครับ
อุนฮัก: จริง ๆ แล้วผมกังวลก่อนขึ้นเวทีนิดหน่อยครับ แต่ผมเห็นแฟน ๆ ถือป้ายที่มีชื่อพวกเราอยู่ข้างหน้า มันเลยสนุกมากครับ
Q.27 มันแตกต่างจากการแสดงในรายการเพลงยังไงบ้างคะ?
ซองโฮ: มันไม่ได้แตกต่างมากขนาดนั้นครับ เพราะเราขึ้นไปแสดงบนเวทีแล้วก็แสดงอย่างมั่นใจว่าเราจีดเต๋มใส่ทุกอย่างที่เรามีแล้ว แต่สเกลของเวทีทำให้เหมือนแฟน ๆ ในงานเฟสติวัลจะอยู่ห่างออกไปกว่าตอนแสดงในรายการเพลงอะครับ
รีอู: เอเนอร์จี้ที่งานเฟสติวัลครับ หลัก ๆ คือจำนวนผู้ชมต่างกันสุด ๆ เราได้รับเอเนอร์จี้และกำลังใจเยอะมากจากงานเฟสติวัล พวกเรารู้สึกขอบคุณสำหรับโอกาสนี้มากจริง ๆ ครับ
แจฮยอน: สำหรับการแสดงในการเพลง เราจะโฟกัสกับ facial expression และการแสดงต่อหน้ากล้อง แต่งานเฟสติวัล เราสามารถสื่อสารกับผู้ชมโดยตรงและพยายามลองอะไรใหม่ ๆ ที่ทำให้เลเวลเอเนอร์จี้เพิ่มขึ้นครับ
อีฮัน: ความคิดหลายอย่างถูกใส่เข้าในไปการแสดงในรายการเพลงเพื่อโชว์ด้านที่ดีที่สุดของ BOYNEXTDOOR แต่ในงานเฟสติวัล ผมผ่อนคลายและเอนจอยกับโมเมนต์นั้น ผมแฮปปี้และตื่นเต้น ผมเลยให้ความรู้สึกพาไปครับ
อุนฮัก: สำหรับการแสดงในรายการเพลง เราโฟกัสกับ facial expression หรือท่าเต้นของพวกเราเพื่อถ่ายทอดเพลงของพวกเราผ่านกล้อง แต่ในงานเฟสติวัลพวกเรามีชีวิตชีวาและสนุกกับการแอดลิบเพื่อสะท้อนตัวตนของพวกเราและสื่อสารกับผู้ชมมากกว่าครับ
Q.28 พวกคุณมีพิธีอะไรที่ต้องทำก่อนขึ้นสเตจไหมคะ? หรือมีความเชื่อ โชคลางอะไรแบบนี้ไหมคะ?
ซองโฮ: ส่วนตัว ผมจะยืดเส้นครับ มันทำให้ผมคลายความกังวลไปได้ แล้วก็วอร์ม สำหรับวง เรามีคำที่พูดไว้สำหรับเชียร์เพื่อเพิ่มพลังให้พวกเราสนุกมากขึ้นครับ
แจฮยอน: พวกเราเปลี่ยนประโยคแนะนำวงนิดหน่อยและตะโกนว่า ‘Who’s here, the BOYNEXTDOOR’ ก่อนขึ้นสเตจครับ
แทซาน: อีฮันกับผมกระโดด 3 ครั้ง ก่อนขึ้นเวทีครับ มันเป็นการปลุกร่างกายและจิตใจให้ตื่นครับ!
อีฮัน: ใช่ครับ แทซานกับผมจะวางแขนซ้อนกันและกระโดน 3 ครั้งด้วยกัน มันช่วยเพิ่มเอเนอร์จี้ของพวกเรา แล้วเราก็จะใช้เวลาเงียบ ๆ แปปนึงสแตนบายก่อนแสดงจริงครับ แน่นอนว่ามันเป็นอะไรที่เราทำเพื่อให้แฟน ๆ ของพวกเราได้เห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดครับ!
Q.29 อะไรบ้างที่อยู่ใน Bucket list 2023 ของพวกคุณ? และมีอะไรที่คุณอยากทำให้สำเร็จ 100% ในปีนี้คะ?
ซองโฮ: อย่างแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวผมคือได้รับรางวัล Rookie of the Year ครับ มันมีความหมายมากครับ เพราะเป็นรางวัลที่มีโอกาสแค่ครั้งเดียวในชีวิต ผมอยากให้ BOYNEXTDOOR เป็นวงที่คนที่คอยซัพพอร์ตภาคภูมิใจครับ
แจฮยอน: ผมอยากเจอกับแฟน ๆ มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ! พวกเราอยากเดินทางไปเจอแฟน ๆ ต่างประเทศตอนที่สถานการณ์เอื้ออำนวย!
แทซาน: ผมอยากรู้จักแฟน ๆ มากขึ้น ผมอยากโฟกัสกับการสร้างความสัมพันธ์และคอนเนคชั่นกับพวกเขาในระดับที่ลึกซึ้งมากกว่าเดิมครับ!
อีฮัน: ผมอยากจะแสดงบนเวทีที่ใหญ่กว่า Weverse Con Festival ครับ!
Q.30 แล้วอนาคตล่ะคะ? ในปี 2030 ครบรอบ 7 ปีของพวกคุณ และเข้าสู่วัย 30 มันอาจจะยากที่จะนึกภาพตอนนี้ แต่อยากทำอะไร และเป็นที่รู้จักในแบบไหนคะ?
ซองโฮ: เมมเบอร์ทุกคนแชร์จินตนาการกันว่าวงแบบไหนที่พวกเราอยากจะเป็น เราหวังว่าคนจะนึกถึงช่วงเวลาในอดีตที่พวกเราเป็น BOYNEXTDOOR และเพลงของพวกเราครับ ตอนนั้นพวกเราจะถูกนึกถึงในฐานะไอค่อนที่ทำให้ผู้คนนึกถึงช่วงเวลาในตอนนี้ เราจะทำทุกอย่างเท่าที่เราทำได้ด้วยพลังของพวกเราเพื่อทำเพลงที่คนรู้สึกรีเลทครับ
รีอู: พวกเราหวังว่าเพลงของพวกเราจะปลอบโยนและเป็นแหล่งพลังงานของคนที่ได้ฟังนะครับ
แจฮยอน: ผมอยากให้พวกเราทุกคนยังคงเป็น BOYNEXTDOOR ในปี 2030 รวมถึงในอนาคตข้างหน้าด้วยครับ และผมว่าพวกเราจะเป็นวงที่ทำให้คนฟังนึกถึงวัยเยาว์ และได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำที่พวกเขายังคงเก็บไว้ครับ
แทซาน: ผมคิดถึงคำถามนี้บ่อยมากครับ ผมได้รับอิทธิพลจากคุณพ่อที่ทำให้ผมอยากประสบความสำเร็จในฐานะศิลปิน ผมอยากให้ BOYNEXTDOOR ทำเพลงที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คน ทำให้พวกเขานึกถึงวัยเยาว์ของตัวเอง และนึกถึงช่วงเวลาที่มีร่วมกับเพลงของพวกเราครับ
อีฮัน: ผมทุ่มสุดตัวเพื่อที่จะแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าพวกเราคนเติบโตยังไง ทั้งตัวเมมเบอร์แต่ละคน และในฐานะศิลปิน BOYNEXTDOOR เราอยากจะเป็นสัญลักษณ์ของช่วงเวลา อยากให้คนที่ฟัง ‘One and Only’ 7 ปีข้างหน้า นึกถึงช่วงเวลาในปีนี้ครับ
อุนฮัก: พวกเราหวังว่า BOYNEXTDOOR จะเป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินที่เป็นสัญลักษณ์ของช่วงเวลาเหล่านี้สำหรับคนที่ฟังเพลงของพวกเราและแฟน ๆ ในอนาคตข้างหน้าครับ ผมอยากให้ BOYNEXTDOOR เป็นวงมีความสุขเหมือนกับที่เป็นอยู่ตอนนี้ หรือมีความสุขมากกว่านี้ในเส้นทางดนตรีครับ
ที่มา : https://www.nme.com/en_asia/features/music-interviews/boynextdoor-30-questions-3463307
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in