7 วันต่อจากนี้ แพลนของเรา ก็วนๆอยู่แถวนี้แหละ
สถานที่ส่วนใหญ่จะเริ่มเปิดราวสิบโมงขึ้นไป ดังนั้นจึงไม่ต้องรีบร้อน เรามีเวลาเหลือเฟือที่กินข้าว ล้างจาน อาบน้ำ นั่งเล่นมือถือ โทรรายงานตัวกับที่บ้าน พอราวเก้าโมงครึ่งเราก็เตรียมตัวออก พยากรณ์บอกว่าวันนี้ฝนจะตก ฟ้ามีเมฆมาก อากาศเย็น อุณหภูมิราว 7 องศา ไม่หนาวมาก แต่ลมพัดทีก็หน้าตึงได้อยู่
มาถึงสถานีรถไฟก็จัดแจงล้วงเอาบัตร Metro ที่ได้จากตอนขึ้น AirTrain หรือบัตร Combination นั่นแหละ เสียบเข้าตู้แล้วเลือกเมนูเติม Unlimited Ride 7Days แต่ทำไงอิตู้มันก็ไม่ยอมให้เติมเว้ย มันไม่มีเมนูให้เลือก มีแต่เติมเงิน เอ่า ชิบหอยละ ลนลานอยู่หน้าตู้พักนึงก็เลยตัดสินใจใช้เงินแก้ปัญหา (ก็คนมันรวย --- วันแรกๆก็พูดได้งี้แหละ) ด้วยการซื้อบัตร Metro ใบใหม่ซะ เสียค่าบัตรไป 1$ กับ ค่าเติม Unlimited Ride 7D อีก 31$ เป็น 32$ อ้อ แต่รอบนี้ไม่โง่หยอดแบงค์ใหญ่แล้วนะ รู้แล้วว่ามันไม่ทอน ก๊ากกก
สถานีรถไฟใต้ดินมีคนแค่ประปราย ไม่รู้เป็นเพราะว่ามันพ้นช่วง Rush Hour แล้วหรือเปล่า สถานี 96th Street มีชานชาลาสามล็อก ที่เราเพิ่งมาสังเกตได้ทีหลังว่าล็อกตรงกลางนั้นมีไว้ให้รถ Express วิ่ง ส่วนสถานทีอื่นๆที่รถ Express ไม่จอดก็จะมีแค่ 2 และวิธีการดูรถ Express ง่ายๆก็คือ ขบวน Express จะจอดตรงกลางและต่อท้ายชื่อว่า EXP. ตรงกรอบชื่อสายก็จะเป็นรูปข้าวหลามตัดแบบในรูป ส่วน Local จะเป็นวงกลมและจอดชานชาลาฝั่งริม
การขึ้นรถไฟที่นี่ ง่ายยยยยยยยยยมั่ก (อย่า อย่าย้อนกลับไปอ่านตอนเก่า เพราะขณะที่เขียนตอนปัจจุบันนี้ เราฉลาดแล้ว555555) มา พี่จะร่ายเป็นข้อๆ ตั้งใจอ่านกันให้ดีๆ
ข้อที่ 1.รู้ว่า ณ ตอนนี้เราอยู่สถานีอะไร
ข้อที่ 2. รู้สถานีปลายทางที่เราจะไปลง
หมายเหตุตัวโต คือชื่อสถานีที่นี่มันเรียกกันง่ายมากค่ะคุณผู้ชมขา เพราะมันเรียงตามเลข Street (บางสถานีก็จะพ่วงสถานที่เอาไว้ด้วยเพื่อความเข้าใจง่าย)
พอรู้แล้วว่าเราอยู่ตรงไหนและต้องการไปที่สถานีไหน ที่เหลือก็จำไว้แค่ว่า
ถ้าจะไปสถานีเลขน้อยกว่าสถานีที่เราอยู่ปัจจุบัน ก็ไปDowntown
ถ้าจะไปสถานีเลขมากกว่าสถานีที่เราอยู่ปัจจุบัน ก็ไป Uptown
หรือ Uptown ขึ้น Downtown ลง นั่นเอง ง้ายง่าย
ยกตัวอย่าง
ตอนนี้เราอยู่ที่ 96St. ต้องการไปสถานี 50St. เพราะฉะนั้นเราต้องไป Downtown
หรือ ตอนนี้เราอยู่ที่ 96St. ต้องการไปสถานี 103St. เราก็ต้องไป Uptown จบแล้วค่าา
สิ่งที่สำคัญก็คือ
รถไฟใต้ดินที่นี่ ส่วนใหญ่ จะแยกทางลงระหว่างขาไป Uptown และ Downtown อย่างสิ้นเชิง นั่นหมายถึง ถ้าเราลงไปผิด ก็ต้องออกมา และข้ามไปทางเข้าอีกฝั่ง ซึ่งถ้ารู้ตัวก่อนรูดบัตรเข้าสถานีก็ดีไป แต่ถ้ารู้ทีหลังแล้วล่ะก็...
พวก จ่ายรายเที่ยว (Pay per ride) ต้องเสียเงินใหม่นาจาา มันจะหักเราไปอีก 2.75$ ทั้งที่กูยังอยู่ที่เดิมเนี้ย! ส่วนพวก Unlimited Ride เช่นเรา เมื่อไรที่เรารูดบัตรซ้ำ ณ สถานีเดิม (ใช่ค่ะ มันไม่แคร์ความเด๋อเล็กๆน้อยๆของเราเลย) มันจะฟ้องว่า "Just Used" ทำให้เราต้องรอ 18 นาทีเป็นอย่างต่ำ หรือไม่ก็เดินไปขึ้นสถานีอื่นแม่มเลย ไม่เสียเงิน แต่เสียเวลาได้นะ
แต่ๆๆ ถ้าสถานีไหน หาป้าย Uptown หรือ Downtown ไม่เจอ ไม่ต้องตกใจ ลงไปเลยจ้า เดี๋ยวมันไปแยกกันเองทีหลัง ส่วนใหญ่จะเป็นกับสถานีใหญ่ๆหรือมีรถ Express จอด
ตัวอย่างทางลงรถไฟใต้ดินไปฝั่ง Uptown สุดสายที่ Bronx Credit : http://rtw-travel-guide.com
ตัวอย่างทางลงรถไฟใต้ดินไปฝั่ง Downtown สุดสายที่ Brooklyn Credit : 10mosttoday.com
วิธีการใช้งานบัตร Metro Card ของที่นี่จะเป็นการ รูด หรือ Swipe
หันด้านที่มีแถบดำเข้าหาตัว แล้วไถบัตรไปข้างหน้าถ้าจอขึ้นคำว่า Go ก็ผลักประตูกั้นไปได้เลยจ้า ถ้าผลักช้า มันล็อก เสียเงินอีกรอบ ไม่ก็ติด Just Used รอไปอีก 18นาที
ถ้าขึ้น Please Swipe Again ก็คือรูดใหม่ มันยังไม่ทันอ่านจ้า จังหวะมันต้องได้อ่ะ คือเราก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าจังหวะมันได้มันเป็นยังไง แนะนำให้ไปลองรูดกันเอง ป.ล. เราชอบความรู้สึกของการรูดบัตรรถไฟใต้ดินที่นี่มาก แม่งสนุก ถ้ารูดได้ครั้งเดียวผ่านนี่รู้สึกชนะ รู้สึกถึงความเป็นนิวยอร์กเกอร์ เอ้อ ไม่เกี่ยวเนาะ 555555
สำหรับผู้ที่เคยมีประสบการณ์ฝังใจเกี่ยวกับประตูกั้นรถไฟฟ้าบ้านเรา ไม่ว่าจะโดนหนีบ โดนกระแทกใส่ก้น หรือยังไม่ทันไปเลย มันปิดซะแล้ว ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป เพราะที่นี่นิวยอร์ก มันจะมีที่กั้นแค่สองแบบ ก็คือ
credit mnn.com
มันไม่มีทางหนีบแน่นอน มีแค่จะผลักทันหรือไม่ทันเท่านั้นเอง -_-"
(โดยเฉพาะแบบที่สอง ซึ่งโคดดดดหนัก เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรผลักประตูเพียงลำพัง)
ส่วนขาออก ผลักออกไปได้เลยจ้า สบายๆชิวๆ และทางออกก็คือทางเดียวกับทางเข้านั้นแล
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in