เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
N[wh]YCFAY
N[wh]YC : ที่นี่นิวยอร์ก
  • เช้าแรกที่นิวยอร์ก

    ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความสดใส ความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางหายไปเป็นปลิดทิ้ง ภายนอกยังคงมืดมิด แต่ความรู้สึกเหมือนได้นอนเต็มที่ขนาดนี้ อย่างดีตอนนี้ก็คงซักตีห้าครึ่งแล้วแหละ ไหนดูนาฬิกาหน่อยซิ

    ...

    ..

    .

    ไม่จริง มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ

    นอนเต็มอิ่มขนาดนี้ มันจะเพิ่งตีหนึ่งได้ไง!!


    ค่ะ ตีหนึ่ง หรือที่เมืองไทยก็ประมาณบ่ายสองโมง เราลืมตาโพลงในความมืด ขณะที่ผู้ชายข้างๆนอนกรนดังสนั่นห้องเหมือนไม่รู้จักคำว่าเจ็ทแล็ค เชดโด้ ต้องนอนต่อใช่มั๊ย เออ นอน กล่อมตัวเองนอน

    ...

    ..

    .

    และตื่นอีกที 

    ตีสี่ -_-'



    เมื่อไหร่มันจะเช้าซะทีวะ

    ทุกคนคงมีฟีลที่ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ แต่นี่มันคนละฟีลกันเว้ย มันแบบ เหมือนเรานอนเต็มที่แล้วนะ แต่ทำไมแม่งยังไม่เช้าซักทีก็ไม่รู้ ไม่รู้จะทำอะไรแล้วนอกจากหยิบมือถือมาเล่น หวังว่าซักพักเดี๋ยวคงหลับเอง แต่เอาจริงๆก็ไม่ช่วยเท่าไหร่ สองชัั่วโมงครึ่งผ่านไปอย่างเชื่องช้า ไลน์กรุ๊ปคึกคัก เฟสบุคก็มีสเตตัสอะไรให้ไถดูเล่นไปเรื่อยๆ เราคุยไลน์กับเพื่อนสลับกับ ทิ้งมือถือแล้วงีบๆไปบ้าง ผู้ชายข้างๆก็ตื่นแล้วเหมือนกัน ต่างคนก็ต่างเอามือถือมานอนไถฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ

    ราวหกโมงกว่า ฟ้าก็สว่างเต็มตา

    ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยตัดสินใจว่าตื่นเหอะ หาข้าวกินดีกว่า เลยจัดแจงลุกขึ้นมาเปิดทีวี อุ่นข้าว ผู้ชายตื่นแล้ว นางก็เลยรับหน้าที่ต้มน้ำร้อนจากเครื่องชงกาแฟ หน้าตามันเป็นแบบในรูปนี้อ่ะ 



    ถึงชีวิตนี้จะเคยทำงานร้านกาแฟมา 4 เดือน (ใน 4 เดือนนั้นได้ชงกาแฟอยู่ประมาณ 20 แก้ว) แต่เราก็ไม่เคยสัมผัสเครื่องทำกาแฟแบบที่ตั้งอยู่ในห้องมาก่อน ก็เคยคุยๆกันว่ามันคงจะเป็นประมาณนี้

    1.เอาน้ำใส่กากาแฟ
    2.กดปุ่มเปิด
    3. รอน้ำเดือด เดี๋ยวก็ได้กินแล้ว คิคิ อิ๊อิ๊ 

    แต่สิ่งที่ได้คือ

    1.น้ำไม่เดือด
    2.น้ำไม่เดือด
    3.น้ำไม่เดือด

    มันแค่อุ่นๆอ่ะ แน่นอนว่ามันไม่ทำให้มาม่าสุกแน่ๆ เหยยยย มันต้องมีอะไรผิดพลาดดิวะ น้ำไม่เดือดแล้วมันจะชงกาแฟได้แง้ะ?!

    ขณะที่เราเต้นแร้งเต้นกาอยู่นั่น ผู้ชายก็ดูใช้ความคิด

    ติ๊กต่อกๆ

    (คือคุณผู้ชายนั้น นางมีสกิล DIY และสกิลช่างสูงมาก
    รวมไปถึงสกิลครีเอทที่บางทีเราก็คาดไม่ถึง)

    แล้วนางหยิบเตารีดออกมาจากตู้ แล้วจัดการเสียบปลั๊ก
    ก่อนเอากาวางบนเตารีด!!!


    มึ้งงงงง มันอเมซิ่งมากเว้ย มากจนอยากถ่ายไปรีวิวลงพันทิปเรื่องประโยชน์ที่เราคาดไม่ถึงจากเตารีด นอกจากทอดไข่แล้ว เตารีดมันใช้ต้มน้ำได้ค่ะคุณผู้ชมค้าาาาาา  (ถึงแม้จะหวาดเสียวอยู่หน่อยๆว่ากาจะแตกมั๊ย แล้วเราจะมีเงินจ่ายค่าปรับรึเปล่า) เออ ละน้ำมันร้อนขึ้นจริงๆด้วยแฮะ แต่อย่าเอาไปทำตามนะคะ 55555555

    วิวจากหน้าต่างห้อง เป็นดาดฟ้าตึกข้างๆ ไกลๆเป็นโบสถ์ ได้ยินเสียงระฆังทุกเช้า โคดดดดดี 

    ส่วนเรา เหลือข้าวกระป๋องอยู่ครึ่งหนึ่งจากเมื่อคืน ก็เลยเอามาคลุกน้ำพริกแห้งๆ นั่งริมหน้าต่าง เปิดมู่ลี่มองวิวแปลกตาข้างนอก เป็นการกินข้าวที่ชิวสุดจริงๆ ในใจก็คิดไปด้วยว่านี่เหรอวะนิวยอร์ก นี่เรามาอยู่ที่นี่จริงๆแล้วสินะ นิวยอร์ก ที่นี่นี่นิวยอร์ก นิวยอร์กจริงๆเว้ยยยยย



  • 7 วันต่อจากนี้ แพลนของเรา ก็วนๆอยู่แถวนี้แหละ

    สถานที่ส่วนใหญ่จะเริ่มเปิดราวสิบโมงขึ้นไป ดังนั้นจึงไม่ต้องรีบร้อน เรามีเวลาเหลือเฟือที่กินข้าว ล้างจาน อาบน้ำ นั่งเล่นมือถือ โทรรายงานตัวกับที่บ้าน พอราวเก้าโมงครึ่งเราก็เตรียมตัวออก พยากรณ์บอกว่าวันนี้ฝนจะตก ฟ้ามีเมฆมาก อากาศเย็น อุณหภูมิราว 7 องศา ไม่หนาวมาก แต่ลมพัดทีก็หน้าตึงได้อยู่

    มาถึงสถานีรถไฟก็จัดแจงล้วงเอาบัตร Metro ที่ได้จากตอนขึ้น AirTrain หรือบัตร Combination นั่นแหละ เสียบเข้าตู้แล้วเลือกเมนูเติม Unlimited Ride 7Days แต่ทำไงอิตู้มันก็ไม่ยอมให้เติมเว้ย มันไม่มีเมนูให้เลือก มีแต่เติมเงิน เอ่า ชิบหอยละ ลนลานอยู่หน้าตู้พักนึงก็เลยตัดสินใจใช้เงินแก้ปัญหา (ก็คนมันรวย --- วันแรกๆก็พูดได้งี้แหละ) ด้วยการซื้อบัตร Metro ใบใหม่ซะ เสียค่าบัตรไป 1$ กับ ค่าเติม Unlimited Ride 7D อีก 31$ เป็น 32$ อ้อ แต่รอบนี้ไม่โง่หยอดแบงค์ใหญ่แล้วนะ รู้แล้วว่ามันไม่ทอน ก๊ากกก 


    สถานีรถไฟใต้ดินมีคนแค่ประปราย ไม่รู้เป็นเพราะว่ามันพ้นช่วง Rush Hour แล้วหรือเปล่า สถานี 96th Street มีชานชาลาสามล็อก ที่เราเพิ่งมาสังเกตได้ทีหลังว่าล็อกตรงกลางนั้นมีไว้ให้รถ Express วิ่ง ส่วนสถานทีอื่นๆที่รถ Express ไม่จอดก็จะมีแค่ 2 และวิธีการดูรถ Express ง่ายๆก็คือ ขบวน Express จะจอดตรงกลางและต่อท้ายชื่อว่า EXP. ตรงกรอบชื่อสายก็จะเป็นรูปข้าวหลามตัดแบบในรูป ส่วน Local จะเป็นวงกลมและจอดชานชาลาฝั่งริม 


    การขึ้นรถไฟที่นี่ ง่ายยยยยยยยยยมั่ก (อย่า อย่าย้อนกลับไปอ่านตอนเก่า เพราะขณะที่เขียนตอนปัจจุบันนี้ เราฉลาดแล้ว555555) มา พี่จะร่ายเป็นข้อๆ ตั้งใจอ่านกันให้ดีๆ 

    ข้อที่ 1.รู้ว่า ณ ตอนนี้เราอยู่สถานีอะไร
    ข้อที่ 2. รู้สถานีปลายทางที่เราจะไปลง 

    หมายเหตุตัวโต คือชื่อสถานีที่นี่มันเรียกกันง่ายมากค่ะคุณผู้ชมขา เพราะมันเรียงตามเลข Street (บางสถานีก็จะพ่วงสถานที่เอาไว้ด้วยเพื่อความเข้าใจง่าย) 


    พอรู้แล้วว่าเราอยู่ตรงไหนและต้องการไปที่สถานีไหน ที่เหลือก็จำไว้แค่ว่า
    ถ้าจะไปสถานีเลขน้อยกว่าสถานีที่เราอยู่ปัจจุบัน ก็ไปDowntown 
    ถ้าจะไปสถานีเลขมากกว่าสถานีที่เราอยู่ปัจจุบัน ก็ไป Uptown 
    หรือ Uptown ขึ้น Downtown ลง นั่นเอง ง้ายง่าย

    ยกตัวอย่าง
    ตอนนี้เราอยู่ที่ 96St. ต้องการไปสถานี 50St. เพราะฉะนั้นเราต้องไป Downtown
    หรือ ตอนนี้เราอยู่ที่ 96St. ต้องการไปสถานี 103St. เราก็ต้องไป Uptown จบแล้วค่าา

    สิ่งที่สำคัญก็คือ
    รถไฟใต้ดินที่นี่ ส่วนใหญ่ จะแยกทางลงระหว่างขาไป Uptown และ Downtown อย่างสิ้นเชิง นั่นหมายถึง ถ้าเราลงไปผิด ก็ต้องออกมา และข้ามไปทางเข้าอีกฝั่ง ซึ่งถ้ารู้ตัวก่อนรูดบัตรเข้าสถานีก็ดีไป แต่ถ้ารู้ทีหลังแล้วล่ะก็...

    พวก จ่ายรายเที่ยว (Pay per ride) ต้องเสียเงินใหม่นาจาา มันจะหักเราไปอีก 2.75$ ทั้งที่กูยังอยู่ที่เดิมเนี้ย!  ส่วนพวก Unlimited Ride เช่นเรา เมื่อไรที่เรารูดบัตรซ้ำ ณ สถานีเดิม (ใช่ค่ะ มันไม่แคร์ความเด๋อเล็กๆน้อยๆของเราเลย) มันจะฟ้องว่า "Just  Used" ทำให้เราต้องรอ 18 นาทีเป็นอย่างต่ำ หรือไม่ก็เดินไปขึ้นสถานีอื่นแม่มเลย ไม่เสียเงิน แต่เสียเวลาได้นะ

    แต่ๆๆ ถ้าสถานีไหน หาป้าย Uptown  หรือ Downtown ไม่เจอ ไม่ต้องตกใจ ลงไปเลยจ้า เดี๋ยวมันไปแยกกันเองทีหลัง ส่วนใหญ่จะเป็นกับสถานีใหญ่ๆหรือมีรถ Express จอด 
    ตัวอย่างทางลงรถไฟใต้ดินไปฝั่ง Uptown สุดสายที่ Bronx  Credit : http://rtw-travel-guide.com
    ตัวอย่างทางลงรถไฟใต้ดินไปฝั่ง Downtown สุดสายที่ Brooklyn Credit : 10mosttoday.com

    วิธีการใช้งานบัตร Metro Card ของที่นี่จะเป็นการ รูด หรือ Swipe 

    หันด้านที่มีแถบดำเข้าหาตัว แล้วไถบัตรไปข้างหน้าถ้าจอขึ้นคำว่า Go ก็ผลักประตูกั้นไปได้เลยจ้า ถ้าผลักช้า มันล็อก เสียเงินอีกรอบ ไม่ก็ติด Just Used รอไปอีก 18นาที 

    ถ้าขึ้น Please Swipe Again ก็คือรูดใหม่ มันยังไม่ทันอ่านจ้า จังหวะมันต้องได้อ่ะ คือเราก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าจังหวะมันได้มันเป็นยังไง แนะนำให้ไปลองรูดกันเอง ป.ล. เราชอบความรู้สึกของการรูดบัตรรถไฟใต้ดินที่นี่มาก แม่งสนุก ถ้ารูดได้ครั้งเดียวผ่านนี่รู้สึกชนะ รู้สึกถึงความเป็นนิวยอร์กเกอร์ เอ้อ ไม่เกี่ยวเนาะ 555555 



    สำหรับผู้ที่เคยมีประสบการณ์ฝังใจเกี่ยวกับประตูกั้นรถไฟฟ้าบ้านเรา ไม่ว่าจะโดนหนีบ โดนกระแทกใส่ก้น หรือยังไม่ทันไปเลย มันปิดซะแล้ว  ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป เพราะที่นี่นิวยอร์ก มันจะมีที่กั้นแค่สองแบบ ก็คือ 

    credit mnn.com

    credit : nytimes.com

    มันไม่มีทางหนีบแน่นอน มีแค่จะผลักทันหรือไม่ทันเท่านั้นเอง -_-" 
    (โดยเฉพาะแบบที่สอง ซึ่งโคดดดดหนัก เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรผลักประตูเพียงลำพัง)

    ส่วนขาออก ผลักออกไปได้เลยจ้า สบายๆชิวๆ และทางออกก็คือทางเดียวกับทางเข้านั้นแล 


  • ระหว่างนั่งอยู่ในรถไฟเราก็คอยสังเกตชาวบ้านไปด้วยแบบคนช่างสังเกตอ่ะนะ คนที่นี่เค้าดูมีอิสระกันดีอ่ะ ถึงส่วนใหญ่จะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีทึบทึม แต่เรากลับรู้สึกถึง "สีสัน" ในชีวิตของพวกเค้ายังไงไม่รู้ คนข้างๆเราใส่หูฟังแล้วก็ฮัมตาม เราก็เออ รู้สึกสนุกไปด้วย (โดนตัวไหนมาล่ะกู)  มันเป็นเมืองใหญ่ที่ทุกคนไม่ได้ถูกตรึงเอาไว้ด้วยระเบียบแบบญี่ปุ่นน่ะ เรายังเห็นคนเอาแซนวิชมากิน เอากาแฟมาดูด ซดซุปเลยก็มี เห็นแม่ลูกคุยกันสนุกสนาน ถึงแม้ว่ามันจะเสียงดังหน่อยแต่มันก็ไม่น่ารำคาญแฮะ เพราะแบบนี้ก็เลยรู้สึกชอบนิวยอร์กขึ้นมาแล้วล่ะมั้ง

    ไม่มันมีอะไรที่ทำไม่ได้ ที่นิวยอร์ก
    เออ ก็ที่นี่ มันนิวยอร์กอ่ะเนาะ 








Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in