เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#ทฤษฎีสีครามDarkbluekiss
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน #ทฤษฎีสีคราม 0.1 NC #ทอยอะตอม
  • 'ถ้าจะเอากันก็ให้มันจบเป็นคืนๆไป อย่าให้มาเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวเลย'




    นั่นคือคำที่ยังวนเวียนอยู่ในหัวเขาไม่ไปไหน ความรู้สึกที่ทั้งดีและแย่ในคราวเดียวกัน รู้สึกดีที่อย่างน้อยอีกฝ่ายไม่ได้กีดกันเขาหรือพยายามลบเขาออกจากความทรงจำ แต่ก็รู้สึกเหมือนเป็นถุงยางที่ถูกใช้แล้วทิ้ง มีประโยชน์ได้แค่ชั่วคราว




    ตั้งแต่ตอนที่เขาเห็นข้อความจากคนที่เขาลบภาพออกจากหัวไม่ได้ ทั้งๆที่ตั้งใจอยากจะทิ้งไว้แล้วค่อยตอบแท้ๆแต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้จนต้องกดตอบข้อความนั้นทันที





    'เจอกันที่ร้านที่เจอเมื่อวาน'







    นั่นคือคำที่ทำให้เขาเหมือนมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง เขาไม่ได้เป็นสิ่งไร้ค่าแต่เป็นสิ่งที่อีกคนจะหยิบใช้แค่ชั่วคราวเท่านั้น อย่างน้อยเขาก็ปลอบใจตัวเองไม่ให้รู้สึกแย่ไปมากกว่าที่เป็นอยู่ เขารีบกดเข้าแชทของเพื่อนสนิทที่ตอนนี้มันเป็นไปมากกว่าเพื่อนไปแล้ว







    ธัชพลเป็นเพื่อนเขามาตั้งแต่เด็ก เพื่อนข้างบ้านที่รู้จักกันตอนเขาป.2เพราะตอนนั้นเขาเป็นเด็กไม่ค่อยมีเพื่อน ธัชพลจึงเป็นเพื่อนคนแรกที่เขามีแต่มาวันนึงเพื่อนคนนี้ก็ย้ายไปต่างจังหวัดก่อนที่จะกลับมาในไม่กี่ปีมานี้ และเพื่อนคนนี้หายไปตอนที่เขากำลังแย่ที่สุด







    เขายังจำวันที่เขาเดินจากชีวิตของชนกันต์ออกมาได้ เขาไม่ได้เบื่ออีกฝ่าย ไม่ได้มีใครคนอื่น แต่เพราะเรื่องนั้นที่ทำให้เขาต้องถอยออกมา ตอนที่เขากำลังรู้สึกแย่ที่สุดตอนนั้นมันทำเขาเสียศูนย์ไปซักพัก ถ้าตอนนั้นธัชพลยังอยู่มันก็คงจะดีกว่านี้ เหมือนมีอะไรกำลังเข้าข้างเขาซักอย่างให้ตอนที่เขากำลังจะขึ้นปี1ธัชพลกลับมาอีกครั้ง







    เวลาผ่านไปจนถึงปีสุดท้ายของชีวิตมหาลัยเขาก็มาเจอกับคนที่เขาเคยคิดจะลืม เขายอมรับว่าตอนแรกเขาอยากได้คนๆนี้คืนมามากๆทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่ายมีคนใหม่ไปแล้ว รู้ทั้งรู้แต่ก็ยังจะดันทุรังต่อไปและมันก็เหมือนโชคจะเข้าข้างเขาอีกครั้งให้ชนกันต์ไม่รังเกียจเขาแต่เลือกที่จะมีความสัมพันธ์ที่ไม่สำคัญกับเขา







    'ถ้ากูเป็นมึง กูคงรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวสำรองว่ะ'







    ใช่ มันเป็นสิ่งที่เขารู้สึกจริงๆ รู้สึกเหมือนเป็นตัวสำรอง รู้อยู่แล้วว่าตอนจบของเรื่องนี้เขาจะต้องเสียใจ ถ้าเขาแย่งชนกันต์คืนมาได้ก็เสียใจที่ทำร้ายความรู้สึกของคนรักอีกฝ่าย แต่ถ้าสุดท้ายเขายังเลือกที่จะมีความสัมพันธ์แบบนี้เขาเองก็เจ็บไม่จบสิ้น







    ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่ที่เดินเข้าหากองไฟทั้งๆที่รู้ว่าเขาจะโดนเผาไหม้ และตอนนี้เขาก็มาถึงร้านกาแฟเมื่อวานที่เขาเจอกับอีกคนแล้ว คนที่เขาคิดถึงมากๆคนนั้นกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเดิมที่เขาเจอเมื่อวาน ท่าทางที่ดูจริงจังของอีกฝ่ายทำให้เขาไม่รู้จะเริ่มยังไงจึงทำได้แค่นั่งลงและทักทายเงียบๆ







    "แก...ยังรู้สึกกับเราแบบเดิมอยู่รึเปล่า"






    คำถามที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าถ้าบอกไปตรงๆจะดีใช่มั้ย แน่นอนเขายังรู้สึก ยังคิดถึง แต่เขารู้ว่าอีกฝ่ายยังไงก็ต้องเลือกคนที่มีอยู่ เพราะคนๆนั้นทั้งดีกว่าและคงทำให้ชนกันต์มีความสุขมากกว่าอยู่กับเขา แต่เขาแค่อยากจะขอร้อง ขอให้เลือกเขาได้มั้ย และเขารู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้






    "ยังรู้สึกสิ แล้วพี่ล่ะ...พี่จะเลือกกลับมาหาผมได้มั้ย"






    อีกฝ่ายนิ่งไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว ใบหน้าที่บ่งบอกว่าชนกันต์กำลังลำบากใจและไม่สบายใจแค่ไหน เขายังจำได้ว่าเมื่อก่อนถ้าคนตรงหน้ากำลังไม่สบายใจเขาจะกอดอีกคนเอาไว้ คนที่ร่าเริงคนนั้นในมุมที่อ่อนแอก็เป็นคนที่เขาอยากจะเป็นคนที่ดูแลคนๆนี้ไว้







    "เราให้แกได้แค่นี้แหละ ไม่ใช่ว่าเราไม่คิดถึง แต่...รู้ใช่มั้ยว่าเรามีแฟนแล้ว"







    ประโยคที่เหมือนเป็นสิ่งที่ตอกย้ำความคิดของเขาว่าสุดท้ายเขาก็สู้คนๆนั้นไม่ได้เลย เขาเอื้อมมือไปจับมือของอีกฝ่ายเอาไว้โดยที่ชนกันต์ไม่ได้มีท่าทางที่อยากดึงออกแต่อย่างใดยิ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในน้ำที่ถูกต้มให้เดือด ถึงจะไม่เจ็บปวดเหมือนกองไฟ แต่ก็ค่อยๆถูกทำลายลงเรื่อยๆ






    "ผมรู้ แต่ผมคิดถึงพี่นะ...ผมยังมีโอกาสอยู่มั้ย"







    แค่อยากขอโอกาสอีกแค่ซักครั้ง ขอให้เขาได้แก้ตัว เขาสัญญาว่าเขาจะไม่ปล่อยให้คนๆนี้ต้องเสียใจอีกแล้ว เขายอมแลกได้ทุกอย่างถ้าจะทำให้คนตรงหน้ากลับมาหาเขาถึงแม้มันจะทำไม่ได้แล้ว เรื่องที่เขาเคยทำอะไรไม่ดีหรือทำพลาดไปเขาจะไม่โทษใคร แต่จะโทษตัวเองที่ตอนนั้นรักษาคนๆนี้เอาไว้ไม่ได้มากกว่า







    "งั้นคืนนี้ก็เจอกันที่เดิม...เหมือนครั้งแรก"







    ครั้งแรกของพวกเขามันเกิดขึ้นที่นี่ มันเป็นห้องอัดของที่เขากับเพื่อนจะมาที่นี่กันบ่อยๆที่แรกที่เขากับเพื่อนในวงหาเงินร่วมกันเพื่อซื้อห้องในคอนโดนี้ทำเป็นห้องอัด ถึงตอนนี้คนเก่าๆในวงจะห่างหายกันไปบ้างแล้วแต่เขาก็ยังใช้ห้องนี้ในการทำเพลงอยู่ ใช่ และครั้งแรกตอนนั้น ตอนที่เขาอยากจะตัดความสัมพันธ์ระหว่างชนกันต์เพราะคำพูดของคนๆนั้น





    ใช่ ตอนนั้นเขาดีไม่พอ ตอนนี้ก็ยังดีไม่พอ นั่นเป็นเหตุผลให้วันนั้นเขาเลือกที่จะหายออกไปจากชีวิตอีกฝ่าย มันคงจะดีกว่าถ้าไม่มีเขา เขากำลังยืนอยู่ตรงที่เก่าของเขากับอีกฝ่าย ช่วงเวลาตอนนั้นมันดีมากจริงๆ ดีจนเขาจะอยากกลับไปแก้ไข อยากจะกลับไปแล้วทำตัวให้ดีขึ้น ไม่ใช่ว่าทำตัวขี้แพ้หนีมาแบบนี้





    "คิดถึงที่นี่เนอะ"






    เสียงที่คุ้นเคยนั่นทำให้เขาหันไปเจอกับชนกันต์ที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา อีกฝ่ายเดินมานั่งบนเตียงในห้องข้างๆเขาและมองไปที่นอกหน้าต่าง ช่วงเวลาเดียวกันในตอนนี้ของ4ปีที่แล้วมันย้อนกลับมาอีกครั้งภาพเดิมๆที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ วันที่พวกเขาเจอกันที่นี่ แต่ตอนนี้มีแต่ชนกันต์และคนที่มาแทนที่เขา และเขาที่ยังอยู่คนเดียว







    "จำวันนั้นได้มั้ย"






    ร่างเล็กตรงหน้าลุกขึ้นไปปิดหน้าต่างของห้องและเดินกลับมานั่งที่เดิม ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นที่เขายังจำมันได้ดีแต่แววตาข้างในมันเปลี่ยนไป อีกฝ่ายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและถอยออกห่างจากเขาเล็กน้อย ใบหน้าที่เผลอยิ้มออกมาตอนที่กดบนหน้าจอมือถือนั่น แชทที่เขาเห็นว่าอีกฝ่ายคุยอยู่กับใคร ใช่ สุดท้ายมันก็ไม่มีวันเป็นเขา








    "พี่...มาอยู่ที่นี่แล้วแฟนพี่ เอ่อ ผมหมายถึง อุ้บ!"






    เหมือนอีกคนจะไม่อยากรอให้เขาพูดติดอ่างอยู่อย่างนั้น ริมฝีปากของอีกคนก็เลื่อนเข้ามาจูบเขาโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว ไม่รู้ว่าเพราะบรรยากาศที่กำลังพาไปหรือความทรงจำเดิมๆที่ทำให้มันเกิดสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ จูบแสนหวานที่เขายังจำมันได้ไม่เคยลืม






    ตัวเขาที่ตอนนี้ไม่สามารถความรู้สึกที่มีอยู่ได้แล้ว เขาดันตัวอีกฝ่ายให้ลงไปนอนกับเตียงและจับตรึงข้อมือของชนกันต์เอาไว้ ปลายลิ้นร้อนที่เกี่ยวตวัดกันอยู่ข้างในยิ่งเป็นการบ่งบอกถึงการโหยหากันของทั้งคู่ มืออีกข้างที่ปล่อยออกมาจากข้อมือของคนที่อยู่ใต้ร่างเขาแล้วก็เลื่อนมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีเข้มของอีกฝ่าย






    ข้อมือที่ถูกจับไว้ขึ้นสีเป็นรอยแดงจากแรงที่บีบมัน ทั้งคู่ถอนจูบออกจากกันก่อนที่เขาจะมองเข้าไปในดวงตาสีสวยคู่นั้นอีกครั้ง และขยับมาพรมจูบอย่างแผ่วเบาตรงลำคอของคนที่อยู่ข้างล่าง กลิ่นหอมแบบที่เขาคุ้นเคยมันยิ่งทำให้เขาแทบเป็นบ้ากับสัมผัสตรงหน้า




     


    “อะ อื้อ... อย่าทำรอยนะ เดี๋ยวพี่บอยเห็น”

     

     



    คำพูดที่เอื้อนเอ่ยด้วยเสียงหวานๆนั่นมันยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าอยากจะรุนแรงกับคนๆนี้มากขึ้นเข้าไปอีก ใจนึงก็อยากจะทะนุทะนอมชนกันต์เอาไว้แต่อีกใจนึงก็อยากจะสร้างตีตราประทับรอยให้รู้ว่าเขาต้องการอีกฝ่ายมากแค่ไหน อยากจะครอบครองร่างกายนี้ไว้แค่คนเดียวต่อให้จะรู้ว่าที่ทำอยู่มันผิดก็ตาม

     

     

    “ผมไม่ทำส่วนที่พี่เขาจะเห็นหรอก”

     

     


    ว่าแล้วก็ลากเขี้ยวคมของตัวเองมาตามไหล่ของอีกฝ่ายและฝังมันลงจนมีเลือดซิบออกมาติดที่ริมฝีปากของเขา เขาใช้ปลายลิ้นเลียเลือดที่ติดอยู่ที่ปากออกและค่อยๆเลียตรงส่วนที่เขาทำรอยเอาไว้

     

     


    “จะ...เจ็บ”

     

     

    เขายิ่งรู้สึกดีที่ได้ยินเสียงหวานๆนั้นออกมาจากปากชนกันต์ ธันวาคนเมื่อกี๊หายไปไหนนะ ตอนนี้เหลือแต่ธันวาคนที่อยากได้ชนกันต์กลับคืนมาและต้องกายร่างกายนี้เหลือเกิน เสื้อฮาวายที่เจ้าตัวใส่ประจำถูกถอดออกและกองอยู่นพื้นไปเรียบร้อยแล้ว แต่เพราะแบบนั้นทำให้ชนกันต์เห็นรอยแบบเดียวกันกับที่อีกฝ่ายพึ่งสร้างบนตัวเขาที่ไหล่กว้างของธันวา แถมยังดูรุนแรงกว่าที่อีกคนทำเขาอีก รวมถึงรอยฟันตรงเอวนั่นด้วย

     

     

     

    ชนกันต์เผลอจิกไปที่แผ่นหลังของอีกฝ่ายจนเกิดเป็นรอยเพื่อระบายความรู้สึกที่มีอยู่ตอนนี้ ความรู้สึกพอใจกับทุกๆสัมผัสที่เขาได้รับนั่นหน่ะ มันรุนแรงแต่มันทำให้เขาเสพติดในตัวคนๆนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เขารู้แค่ว่าเขาต้องการมากกว่านี้

     

     


    “ฮึก...อึก..อื้อ”

     

     

    ในหัวของชนกัตน์มันขาวโพลนไปหมดในตอนที่นิ้วยาวนั่นเข้ามาในตัวของเขา  ทั้งเจ็บจุกและมวลๆในท้องไปพร้อมๆกัน จากสองเพิ่มขึ้นเป็นสามและแรงขึ้นทุกครั้งที่อีกฝ่ายขยับเข้าออก ธันวารับรู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายที่ดูต้องการเขามากแค่ไหน



    มือข้างที่กำลังจับไว้ที่ต้นขาของอีกฝ่ายตอนนี้กำลังแกะกระดุมของกางเกงยีนส์ตัวที่ไม่ได้เป็นของเขาออกด้วยความใจร้อน จนกางเกงตัวนั้นและอันเดอร์แวร์ลงไปกองกับเสื้อผ้าที่อยู่ข้างล่างเรียบร้อย




    "อื้อ..เจ็บ"




    เหมือนยิ่งได้ยินเสียงร้องนั่นมันยิ่งทำให้เขาอยากจะขยับกระแทกลงไปให้แรงขึ้น เสียงลมหายใจที่กำลังหนักขึ้นเรื่อยๆของทั้งคู่รวมถึงเสียงหวานที่ครางอื้ออึงอยู่ในลำคอ เขากัดริมฝีปากล่างของตัวเองอย่างอดไม่ได้เมื่อเห็นอีกฝ่ายในร่างเปลือยเปล่าและหน้าอกที่มีรอยฟันของเขากำลังขยับขึ้นลงตามแรงหายใจของเจ้าตัว ผิวขาวที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงไปทั้งหน้าและเหงื่อพราวที่เกาะอยู่บนร่างทั้งสองทำให้รู้ว่าจังหวะที่กำลังขยับอยู่มันเร็วและแรงมากแค่ไหน



    แผ่นหลังกว้างที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยข่วนจนเต็มไปหมดไม่ต่างจากสะโพกมนที่มีรอยมือแดงเป็นจ้ำไปทั่ว การเพิ่มจังหวะที่เร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆยิ่งทำให้เสียงหวานนั้นดังขึ้นในทุกๆครั้งที่เขากระแทกลงไปที่จุดกระสันนั่นแรงๆ เขาปัดผมที่น่ารำคาญนั่นขึ้นให้พ้นจากเหงื่อบนใบหน้าของตนเอง ริมฝีปากที่เชิญชวนให้เขาบดจูบนั่นอย่างหนักหน่วงมากขึ้นไปอีกจนมันบวมแดง






    "ระ..แรงกว่านี้..ได้มั้ย"






    ถ้าสิ่งที่ทำอยู่มันยังแรงไม่พอเขาก็พร้อมจะทำในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ มือทั้งสองข้างที่จับอยู่ที่ต้นขาและสะโพกเปลี่ยนมาจับที่ข้อมืออีกครั้งพร้อมกับแรงกระแทกที่เพิ่มขึ้นจนได้ยินเสียงเตียงที่กระทบกับกำแพงและเสียงเนื้อกระทบกันอย่างหยาบโลน ปลายจมูกนั่นยังคงซุกไซร้ไปมาที่บริเวณไหปลาร้าของอีกคนก่อนที่จะสร้างรอยไว้ตรงนั้นอีกรอย






    เมื่อขยับต่อในอีกไม่กี่ครั้งอีกฝ่ายก็แอ่นกายพร้อมกับจิกที่ไหล่เขาเอาไว้อย่างแรงก่อนที่จะปลดปล่อยออกมาจนเต็มหน้าท้องแบนราบของเจ้าตัว แต่เขายังไม่พอ เขายังขยับเข้าออกต่ออีกจนปล่อยน้ำธารออกมาจนไหลทะลักออกมาที่ขาของอีกคนและเลอะบนเตียง เขาล้มตัวลงนอนข้างๆชนกันต์และมองใบหน้าหวานนั่นกำลังหอบหายใจแรงๆเพราะความเหนื่อย







    "ขอบคุณนะ"




    "ขอบคุณ?"




    "ขอบคุณที่วันนี้แกไม่หนีเราเหมือนเมื่อ4ปีก่อน"








    มันกลับมาอีกแล้ว ธันวาคนเดิมที่กลับมารู้สึกไร้ค่า ทำไมกันนะ ทำไมเขาถึงรู้สึกมีค่าแค่ชั่วคราวเท่านั้น เขาไม่อยากให้มันจบแค่นี้เลยจริงๆ เขาอยากให้พรุ่งนี้อีกฝ่ายยังอยู่ อยากให้พรุ่งนี้ตื่นมาแล้วเขาเป็นตัวจริงของชนกันต์ นี่ใช่มั้ยที่เขาบอกกันว่าฝันดีมันน่าเศร้าตรงที่มันเป็นได้แค่ฝัน
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    NC บอยตอมยังไม่มาขอมาทอยตอมก่อน555555 เป็นไงล่ะทีนี้เข้าใจกันแล้วเนอะว่าทอยเค้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลซะหน่อย เค้าก็มีมุมน่าสงสารนะเออ ส่วนตอมเราก็มารู้ว่าเขาโดนทิ้ง คนโดนทิ้งก็แค้นเป็นธรรมดาแหละ มาลุ้นกันต่อว่าเรื่องจะจบยังไงและคุยเล่นหวีดกันได้ในแท็ก #ทฤษฎีสีคราม เลยเด้อ ฝากเรื่องนี้ด้วยน้าดำเนินมาเกือบครึ่งเรื่องแล้ว จะพยายามแต่งให้จบนะ ขอให้ข้าได้สู้!
514 Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in