ผมยกข้อมือขึ้นมาเพื่อเช็คเวลาอีกครั้ง
นาฬิกายังคงตอกย้ำว่าตอนนี้เลยเวลาที่เรานัดกันไว้มา 5 นาทีแล้ว
ในสถานการณ์แบบนี้ ทางเดินใต้ดินสถานีรถไฟ JR Sapporo เหมือนจะยืดยาวออกไปกว่าเดิม
ในขณะที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งอยู่นั้น กลิ่นหอมของชีสก็ลอยมาแตะจมูก ไม่ต้องหันไปหาต้นตอเลยครับ ซีสทาร์ตเหลืองอร่ามที่เพิ่งออกจากเตาอบใหม่ๆ ถูกนำออกมาวางแสดงอยู่หลังกระจกบานใหญ่ที่มีชื่อร้านปริ้นไว้ว่า Kinotoya BAKE
ด้วยสัญชาตญาณ ผมเดินไปต่อแถวทันที ภายในร้านอบอวนไปด้วยกลิ่นหอม และไออุ่น จาก cheese tart อบใหม่ ทำให้อากาศหนาวๆในสถานีอุ่นขึ้นมาทันที แต่แปลกใจกันมั้ยครับ ปกติเรากินชีสเค้กตามร้านขนม ชีสเค้กจะถูกเสิร์ฟแบบเย็น แต่ cheese tart (ซึ่งก็คือชีสเค้กที่อยู่ในจานแป้งทาร์ต) ของร้าน BAKE กลับถูกเสิร์ฟหลังจากออกมาพักนอกเตาอบได้ไม่นาน
แต่ก่อนมันก็ไม่ได้เป็นแบบนี้หรอกครับ
แรกเริ่มเดิมที ร้านขนม Kinotoya ที่ Sapporo นี้เสิร์ฟทั้งเค้ก ขนม และทาร์ต ซึ่งเป็นบลูเบอร์รี่ชีสทาร์ตแบบเย็น (chilled blueberry cheese tarts) แต่ยอดขายของทาร์ตดูเหมือนจะสู้พี่ๆเค้กที่วางโชว์อยู่ข้างๆไม่ได้ เลยต้องแยกเค้กกับทาร์ตออกไปวางขายกันคนละตู้
อยู่มาวันหนึ่ง Kinotoya ได้ไปออกร้านที่งานๆหนึ่ง โดยเสริฟทาร์ตที่อบใหม่ๆให้คนที่มาในงานแทนทาร์ตแบบเย็น ปรากฎว่าคนในงานชอบกันมาก ทาร์ตที่เสิร์ฟใหม่ๆร้อนๆมีข้อได้เปรียบที่ กลิ่นหอมของชีสฟุ้งมากกว่า เนื้อชีสเค้กนุ่มฟูกว่า และแป้งทาร์ตที่ยังคงความกรอบไว้ ทำให้ร้านเปลี่ยนมาเซิร์ฟทาร์ตแบบร้อนแทน ส่งผลให้ยอดขายดีขึ้นมาก และหลังจากนั้นก็มีการปรับปรุงสูตรมาเรื่อยๆ เช่น การนำบลูเบอร์รี่ออกเนื่องจากลูกค้าบางคนไม่ชอบ การปรับสัดส่วนของชีสทั้งสามชนิดเพื่อให้ได้รสชาติและbodyที่ลงตัว หรือการนำแป้งทาร์ตไปอบถึงสองครั้งเพื่อเพิ่มความกรอบ
การเสิร์ฟ cheese tart แบบร้อน ทำให้ปัญหายอดขายทาร์ตหมดไป แถมในปัจจุบันการอบและเสิร์ฟทาร์ตที่ทำเสร็จใหม่ๆยังเป็น gimmick ของร้านที่จะต้องนำทาร์ตออกจากเตามาพักที่กระจกหน้าร้าน หรือให้พนักงานยืนแต่งหน้าทาร์ตด้วยไข่แดงก่อนอบให้ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้สนใจ
ชีสทาร์ตที่เสิร์ฟหลังอบใหม่นี้ขายดีมากจน Kinotoya ได้ตั้งร้านขายเฉพาะทาร์ตอย่างเดียวที่ Sapporo โดยแยกออกมาในชื่อว่า BAKE นั่นเองครับ นอกจากร้าน BAKE จะมีสาขากระจายออกไปทั่วญี่ปุ่นเพื่อให้คนจากที่อื่นได้ลิ้มรสชาติ chees tart ของ Hokkaido กันแล้ว ตอนนี้ร้าน BAKE ยังงอกสาขาขึ้นใน ฮ่องกง ไทย และเกาหลี อีกด้วยครับ
มาถึงคิวของผมแล้ว จัดการสื่อสารด้วยภาษามืออย่างคล่องแคล่ว
ผม: (ชี้ไปที่ tart ที่วางโชว์อยู่ แล้วชูสองนิ้ว)
พนักงานน่ารัก: &^$(&)_+$#^%& (เป็นภาษาญี่ปุ่นที่มีน้ำเสียงแสดงออกถึงความเข้าใจ ถือว่าสื่อสารสำเร็จ)
ผมจ่ายเงินแล้วรับถุงชีสทาร์ตมา
ไม่รอช้า...แกะกินหน้าร้านเลยครับ (เค้าบอกว่าต้องกินทันที ผมก็เป็นคนว่านอนสอนง่ายเสียด้วย)
ขอบอกว่าฟินมากครับ ความอร่อยอยู่ในระดับ "อร่อยจนหยุดเวลาได้"
แต่จริงๆแล้วเวลามันไม่หยุดนะสิครับ ก้มดูนาฬิกาอีกที ตายละ เลยเวลานัดไปแล้ว 15 นาที
ไม่รอช้า...ออกตัวแบบติดสปีด
ลูกทัวร์ที่ดีต้องตรงต่อเวลานะครับ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in