เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
โชว์ห่วย โชะเด๊ะWatch Take
พื้นเพ
  •           บ้านผมเป็นบ้านคนจีน ซึ่งแน่นอน ต้องมีบรรพบุรุษหอบผ้าหอบผ่อน ส่วนจะเสื่อกี่ผืนหมอนกี่ใบก็แล้วแต่ฐานะดั้งเดิมทางนู้น แต่ที่แน่ ๆ ต้องยากจนแร้นแค้นแน่นอน ไม่อย่างนั้นจะลำบากลำบนขึ้นเรือเป็นเดือน ๆ มาทำไม ภาพความลำบากที่ปะป๊ากับหม่าม้าของผมเคยเล่าให้ฟัง (แน่นอน เค้าก็ได้ยินต่อมาอีกทอดจากรุ่นอากงของผม) ก็ไม่หลุดจากที่เคย ๆ ได้ยินกันมา เมนูสุดอร่อย กรวดเค็มรีไซเคิล ที่ทำให้กินข้าวได้เป็นชาม ๆ ไข่เค็มที่ใช้ตะเกียบเขี่ยขึ้นมาได้เพียงครั้งเดียว ข้าวต้มชามนั้นต้องหมด เพราะไม่อย่างนั้นถ้าเอาตะเกียบที่ผ่านปากมาแล้วไปจิ้มเข้าให้กับไข่เค็ม ไข่เค็มนั้นก็จะกลายเป็นไข่เห็ดไข่ราภายในไม่กี่วัน ก็จะทำให้อดกิน อาจทำให้โดนคนทั้งเรือฟาดกบาล โทษฐานทำให้อาหารที่มีอันน้อยนิด เน่าเสียไปเพราะความโลภของตน ถ้าจำไม่ผิดแม่เล่าว่า มีคนที่จนมาถึงไทยแล้วไข่เค็มใบแรกก็ยังไม่หมดฟองนั้น (เฮ่ย! อะไรจะจำกัดจำเขี่ยขนาดนั้น) แต่ถึงจะเวอร์วังยังไง ที่แน่ ๆ มันลำบากเหนือเกินคำบรรยาย มากกว่าที่เราคนจีนรุ่นที่ 4 (เข้าใจว่าคนไทยเชื้อสายจีนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมประมาณบวกลบสิบปีน่าจะเป็นรุ่น 4 ส่วนป๊ากับหม่าม้าจะเป็นรุ่น 3 หรือบางบ้านที่มาไวกว่าชาวบ้านเค้าอาจจะบวกอีกหนึ่งรุ่น) จะได้เจอนัก ของเราแค่วันไหนมือถือแบตหมด พร้อมกับรถไปครูดกับฟุตบาทก็ทำให้หมดกำลังใจจะทำอะไรไปทั้งวันแล้ว เทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่ท่าน ๆ เจอกันมา
              สมัยเหล่ากงของผม ( "เหล่า" หรือ"เหลา" ตามภาษาจีนแต้จิ๋วแปลว่าแก่ ซึ่งการเติมไปข้างหน้าจะเป็นการอัพขั้นให้กับศักดิ์ของตนเองไปหนึ่งรุ่น ซึ่งอากงคือปู่หรือตาแล้ว เหล่ากงก็คือปู่ทวดตาทวดนั่นเอง) มาถึงเมืองไทยแล้ว ในตอนนั้นน่าจะอยู่บางกอกอยู่ ก็คุยกันกับเหล่ากงของญาติว่าไปตั้งรกรากไหนดี ช่วยกันคิดไปมา เหล่ากงของญาติก็ชวนมาลงที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็เลยมาตั้งรกรากที่นี่กัน ก็เริ่มขายของแถว ๆ นี้นับแต่นั้นมา เคยคุยกันเล่น ๆ กับป๊าม้าว่าทำไมไม่อยู่กทม. ก็ไม่รู้ อินดี้มาก เพราะคนอื่นอยู่กทม.กัน
              ก็ขอข้ามเวลามาเร็ว ๆ กรอภาพเร็ว ๆ (อะไรนะ! ไม่รู้จักคำว่ากรอเหรอ! อืมมม มันเป็นคำกริยาที่ใช้กับสมัยที่เราฟังเพลงจากเทปคาสเสต แล้วก็ดูวิดีโอจากม้วนวิดิโอน่ะ ไม่ต้องสนใจก็ได้... สำหรับคนที่ใช้นิ้วจิ้มข้ามช่วงเวลานั้นไปกับหน้าจอสัมผัสน่ะ) มาถึงช่วงที่ผมเกิดและเริ่มจำความได้ ผมก็ช่วยขายของบ้างตั้งแต่เด็ก ๆ ก็มีช่วยเรียงของ ช่วยขายของแบบเขิน ๆ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะชอบวิ่งไล่จับกันในร้านมากกว่า
              ใครนึกภาพร้านขายของในสมัยก่อนไม่ออก ให้นึกถึงตู้กระจกที่กรอบเป็นอะลูมิเนียมน่ะครับ และตู้นั้นมันก็เรียงกันอย่างกับเป็นเขาวงกตยังไงอย่างงั้น เพราะฉะนั้นการละเล่นที่เหมาะกับสภาพบ้านในตอนนั้นก็หนีไม่พ้น วิ่งไล่จับ กับซ่อนแอบ ซึ่งเป็นอะไรที่สนุกมาก ยิ่งเวลามีญาติมาค้างด้วยยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่! มีซอกให้แอบเยอะ และวิ่งวนกันอยู่แถว ๆ แนวตู้กระจกนั้นแหละ ผลุบ ๆ โผล่ ๆ ยั่วคนวิ่งจับได้อย่างสนุกสนาน ชีวิตวัยเด็กก็เล่าผ่าน ๆ ไปละกันครับ แก่แล้ว นึกออกบ้างไม่ออกบ้าง
              ช่วงนึงผมทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นงานที่ไม่ถนัดเอาเสียเลยให้ตายเถอะ อาจจะด้วยความไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวของผมหรือความอดทนนั้นมันหมดไปก็ไม่ทราบ ก็เลยทำให้ผมอยากลาออก ซึ่งวันที่ตัดสินใจลาออก ก็คุยกับป๊า ป๊าก็บอกให้กลับมาเถอะ ที่บ้านมีแต่คนแก่ ๆ เฝ้าร้าน มาเรียนรู้งานที่ร้านก่อน เราก็คิดว่าดีเหมือนกัน คิดว่าอยู่บ้านก็คงสบาย ๆ อยากทำอะไรก็ไม่มีแรงกดดันอะไร ก็เลยตัดสินใจกลับไปช่วยงานที่บ้านดีกว่า
              ด้วยเหตุฉะนี้จึงทำให้ผมได้มาทำงานที่ไม่ถนัดอีกงาน (อ้าว! ) แต่ก็คิดว่าจะได้ฝึกตัวเองในอีกแบบนึง ซึ่งก็แปลกดี เพราะธรรมดาผมจะชอบทำงานในลักษณะที่ไม่ต้องยุ่งกับใครมากกว่า แต่นี่มันกลับกันเลย เพราะวัน ๆ ในการขายของนั้น ท่านจะได้เจอผู้คนมากมาย หลายกระบวนท่าด้วย คนนั้นจะเอาอย่างงี้ คนนี้จะเอาอย่างงู้น ที่ยังไม่นับคนที่อยู่ในบ้านตัวเองอีกนะ... แล้วจะเอายังไงดีล่ะคร้าบ วัชรพงศ์!

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Watch Take (@WatchTake)
ขอบคุณคร้าบผม
Noi Beleza (@fb2093822714042)
รอติดตามนะ สนุกดีจร้า