เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Intern life at Kindergartenwactk
เปิดเทอมวันแรก
  • 1 กรกฎาคม 2563

       วันนี้ฉันเริ่มฝึกงานเป็นครูผู้ช่วยที่โรงเรียนอนุบาลย่านบางแคเป็นวันแรก บอกตรง ๆ ว่ารู้สึกตื่นเต้นมากว่าจะได้เจอเด็กแบบไหนกันน้า~ ฉันตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพราะตั้งใจจะออกจากบ้าน 6 โมงเช้าเพราะครูให้ไปถึงที่โรงเรียน 7 โมง แต่พ่อบอกว่าออก 6 โมงครึ่งก็ทัน ฉันเลยไม่รีบมากแต่ก็เตรียมตัวเสร็จประมาณ 6 โมงกว่า แต่กว่าพ่อจะเตรียมตัวเสร็จก็ 6 โมงครึ่งพอดี
       พ่อไปส่งฉันที่รถไฟใต้ดินสถานีท่าพระ แต่เพราะแถว ๆ หน้าเดอะมอลล์ท่าพระทำอุโมงค์ใต้ดิน บวกกับเปิดเทอมวันแรกด้วยรถเลยติด ฉันแอบคิดในใจว่ารู้อย่างนี้ออก 6 โมงเหมือนที่ตั้งใจไว้ก็คงดี กว่าจะไปถึงสถานีก็ 6 โมง 53 นาที นั่งต่อไปอีก 4 สถานีจึงถึงสถานีภาษีเจริญเวลา 7 โมงพอดี เมื่อออกจากสถานีฉันจึงรีบเดินไปขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ ไปถึงโรงเรียน 7 โมง 5 นาที สายตั้งแต่วันแรกซะแล้ว T^T

       เมื่อมาถึงโรงเรียน ปุ๊กกี้กับแนน เพื่อนร่วมสาขาที่มาถึงก่อนฉันก็บอกฉันให้ถอดรองเท้าไปเก็บไว้ด้านหลัง (ครูจะถอดรองเท้าเดินในโรงเรียน) จากนั้นครูก็ให้พวกเราสามคนเลือกว่าจะไปอยู่ห้องไหน สำหรับระดับชั้น K.1 หรืออนุบาล 1 มีทั้งหมด 4 ห้อง ได้แก่ ห้อง Cherry กับ Papaya อยู่ชั้นหนึ่ง ห้อง Coconut กับ Banana อยู่ชั้นสอง ชั้นหนึ่งครูให้ไปอยู่ห้อง Cherry หนึ่งคนปุ๊กกี้เลยไปก่อน ส่วนฉันกับแนนเดินขึ้นไปชั้นสอง แนนเลือกห้อง Banana ฉันเลยได้อยู่ห้อง Coconut ?
       ครูบอกว่าเด็ก ๆ K.1 ส่วนใหญ่จะมาถึงโรงเรียนประมาณ 8 โมงเป็นต้นไป ฉันเลยถามต่อว่ามีเข้าแถวเคารพธงชาติไหม ครูตอบว่าเคารพธงชาติ 8 โมง 45 นาที จากนั้นครูจึงบอกตารางกิจกรรมให้ฉันฟังด้วยเลย?

       8 โมงเป็นต้นไปเด็ก ๆ ก็เริ่มทยอยกันมา เมื่อมาถึงก็ถอดรองเท้าไว้บนชั้นตะแกรงหน้าห้อง เข้ามาถึงก็นั่งตามที่ที่ครูบอก แรก ๆ ยังไม่เจอเด็กร้องไห้ แต่มีเด็กซนประมาณ 2 คนที่ไม่ชอบนั่งนิ่งอยู่กับที่ เผลอทีไรเป็นต้องลุกไปหยิบของเล่นตลอด

       ในที่สุดฉันก็เจอเด็กร้องไห้กับการมาโรงเรียนวันแรก เด็กคนนี้ร้องไห้ตั้งแต่มาถึงห้อง แม้ครูจะช่วยกันปลอบก็ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด จนมีครูคนหนึ่งมาพาลงไปข้างล่าง แต่พอกลับขึ้นมาก็ยังไม่หยุดร้อง เล่นเอาครูทุกคนปวดหัวไปตามกัน รวมถึงฉันที่มีช่วงหนึ่งได้รับหน้าที่พาน้องออกไปเดินหน้าระเบียงวนไปวนมา เพราะเวลาเดินน้องจะไม่ร้องไห้ แต่พอพากลับเข้าห้องเมื่อไหร่เป็นต้องร้องไห้อีก แรก ๆ ที่พาเดินน้องอาจคิดว่าจะพาไปหาแม่ แต่พอพาเดินวนไปหลาย ๆ รอบฉันคิดว่าน่าจะเพราะจดจ่ออยู่กับการเดินจนลืมร้องไห้มากกว่า ดูมีสมาธิจนครูแซวว่าเดินจงกรม รวม ๆ แล้วฉันน่าจะพาน้องเดินประมาณ 30 รอบได้ เล่นเอาปวดเท้าอยู่เหมือนกัน ตอนเดินผ่านห้อง Banana ฉันแอบมองเด็ก ๆ ในห้องด้วย ทุกคนเรียบร้อยมาก ตั้งใจฟังครู ไม่มีซนไม่มีร้องไห้จนฉันแอบอิจฉาอยากเปลี่ยนห้องขึ้นมาทันที?

       หลังเคารพธงชาติ ครูก็เช็คชื่อเด็กทีละคน ด้วยสถานการณ์ COVID-19 ในช่วงนี้ทำให้ต้องสลับกันมาเรียนวันเว้นวัน วันนี้มีเด็กมาเรียน 14 คน ฉันจำชื่อได้ทุกคนแล้วแต่ยังจำหน้าไม่ค่อยได้ อาจเพราะใส่หน้ากากด้วยเลยเห็นหน้าไม่ชัด?
       หลังจากเช็คชื่อครูก็มีกิจกรรมให้เด็ก ๆ ทำ ทั้งทายคำศัพท์จากรูปที่ครูวาด จากผักผลไม้ของเล่น รวมถึงเรียกฉันให้ออกไปเล่านิทาน

       ประมาณ 11 โมงพวกเราก็ย้ายลงไปห้องสำหรับดูโทรทัศน์เพื่อดูสื่อเสริมทักษะภาษาอังกฤษ คราวนี้นอกจากเด็กคนเดิมที่เริ่มกลับมาร้องไห้ใหม่แล้ว ยังมีเด็กอีกคนที่ก่อนหน้านี้ดูร่าเริงเริ่มร้องไห้หาแม่ตามไปอีกคน เล่นเอาครูทุกคนกลับมาปวดหัวอีกรอบ

       15 นาทีต่อมาก็ได้เวลากินข้าว วันนี้เป็นเมนูข้าวมันไก่ เด็ก ๆ ห้อง Coconut ที่ฉันดูแลกินข้าวหมดกันเกือบทุกคนเลย มีน้องคนหนึ่งที่กินหมดไปตั้ง 2 จาน! สุดยอดจริง ๆ

       หลังจากกินข้าวเสร็จผู้ปกครองก็เริ่มมารับเด็ก ๆ กลับบ้าน ดูเหมือนว่าช่วง 1-2 สัปดาห์แรกจะเรียนแค่ครึ่งวัน ครูจึงบอกให้ฉันไปกินข้าวก่อน จานข้าวสำหรับครูเป็นถาดหลุม! รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปช่วงประถมเลย ต้องเตรียมช้อนส้อมมาเองด้วย! ฉันเลยต้องไปขอยืมจากพี่แม่ครัวก่อน ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปจะเตรียมมาเองแล้ว?

       เมื่อฉันกลับขึ้นมาบนห้องก็เหลือเด็ก ๆ อยู่ 6 คน ครูจัดที่นอนให้เด็ก ๆ 4 คนนอน ส่วนเด็กอีก 2 คนบอกไม่ง่วง ฉันเลยรับหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กนั่งเล่นตัวต่อกับน้อง ๆ สักพักมีเด็กอีก 2 คนที่นอนไม่หลับลุกขึ้นมาร่วมวงด้วย กลายเป็นว่าฉันต้องดูแลเด็ก 4 คนในระหว่างที่รอผู้ปกครองมารับ

       ประมาณบ่ายโมงผู้อำนวยการโรงเรียนก็เรียกพวกเรานิสิตฝึกงาน 3 คนไปคุยรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อให้การฝึกงานของพวกเราออกมาราบรื่นและได้ประสบการณ์กลับไปมากที่สุด

       ผู้ปกครองทยอยมารับเด็ก ๆ ทีละคน กระทั่งเหลือเด็กสองคนซึ่งเริ่มเบื่อกับการเล่นตัวต่อแล้ว ฉันจึงลุกไปหยิบนิทานมาเล่าให้ฟัง 2 เรื่อง และชวนน้อง ๆ เล่นจ้ำจี้ เล่นซ่อนหาแบบง่าย ๆ ตามแต่จะนึกออก กระทั่งเหลือเด็กคนสุดท้าย ครูจึงบอกให้พวกเราออกไปนั่งเล่นหน้าห้องเพื่อที่จะทำความสะอาดภายในห้อง ข้างนอกห้องอากาศค่อนข้างร้อน พวกเรานั่งเล่นอยู่ประมาณ 15 นาทีจึงย้ายกลับเข้ามานั่งรอในห้อง ก่อนที่ครูจะพาน้องลงไปรอผู้ปกครองข้างล่าง ตอนนั้นเวลาประมาณ 4 โมงเย็น

       เวลาเลิกงานคือ 5 โมงเย็น ฉันกับแนนที่น้องคนสุดท้ายของห้อง Banana ก็ลงไปรอข้างล่างเช่นกันจึงเดินลงไปข้างล่างเพื่อคุยกับปุ๊กกี้ จึงได้ช่วยครูยกของด้วย เมื่อยกของเสร็จก็ 5 โมงเย็นพอดี ในที่สุดก็ได้กลับบ้านแล้ว! (เมื่อยขามากเลย?)

       เปิดเทอมวันแรกของฉันและเด็ก ๆ ก็มีประมาณนี้ ทั้งฉันและเด็ก ๆ ต่างต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักพัก หลังจากปรับตัวได้เชื่อว่าจะต้องสนุกขึ้นอีกแน่นอน!


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in