ไหนๆ ตอนนี้ปรมจ.ก็จะจบแล้ว เราเลยขอเขียนถึงตัวละครตัวร้ายของเรื่องซะหน่อยค่ะ
จะเรียกว่าวิเคราะห์ดีมั้ย? ก็อาจจะได้ แต่เราอยากให้คิดซะว่าเป็นคหสต.ของแฟนซีรีส์ที่ไม่เคยอ่านนิยายคนนึงดีกว่า (อาจจะพอรู้สปอยด์มาบ้างนิดๆ หน่อยๆ)
คุยกันก่อนว่าทำไมเราถึงเขียน ในฐานะคนที่ชื่นชอบงานวรรณกรรมและเรียนในสายวรรณกรรม มันอดไม่ได้ที่จะคิดและเชื่อมโยงหาเหตุผลว่า ทำไมตัวละครตัวหนึ่ง ถึงทำให้คนดูเกิดความรู้สึกในแง่ลบหรือบวกได้มากขนาดนี้ (ส่วนตัวไม่ได้เมนอาเหยานะคะ เมนอี้ป๋อ---อุแค่ก)
เราไม่ได้มีเจตนาจะโจมตีตัวละครใดๆ นะคะ แค่อยากมาแชร์ความคิดเห็นหลังซีรีส์จบเท่านั้น คือมันอดวิเคราะห์ไม่ได้จริงๆ ค่ะ แง
ใครอ่านแล้วคิดเห็นเป็นอย่างไร ก็มา discuss กันในทวิตเตอร์ได้นะคะ!
เป็นตัวร้ายเหมือนกัน แต่ทำไมคนถึงเกลียดอาเหยามากกว่าเซวียหยาง?
อาเหยากับเซวียหยางเป็นตัวร้ายเหมือนกัน และเอาเข้าจริงก็ร้ายพอๆ กันเลยด้วยซ้ำ แต่เท่าที่เห็น คนจะเอ็นดูเซวียหยางมากกว่า และเกลียดอาเหยามากกว่า เพราะอะไร?
ตามความคิดเห็นเราจะแบ่งออกเป็นข้อๆ ได้ ดังนี้
1. เซวียหยางคือร้ายจริง แต่อาเหยาเป็นร้ายหลบในจริงๆ แค่ข้อนี้ข้อเดียวก็แทบจะอธิบายทุกอย่างแล้วแหละ 555 คือบทของเซวียหยาง เป็นบทตัวร้ายที่แสดงออกชัดเจนว่ากูร้ายนะ ทำตัวร้ายๆ มาตั้งแต่ต้น (เราจะขอเรียกว่าร้ายจริง) ในขณะที่อาเหยาคือแอบร้าย เจ้าเล่ห์ เจ้าแผนการ และตีสองหน้าเก่ง ซึ่งในชีวิตจริง เราจะเจอคนแบบอาเหยาได้มากกว่าเซวียหยาง (พวกที่แบบเราเห็นธาตุแท้ของนางแล้วแต่คนอื่นไม่เห็นอะ) ดังนั้นมันก็เลยจะทำให้เราโยงเข้าหาประสบการณ์ชีวิตของตัวเองได้มากกว่า
(สเต็ปยิ้มรว้ายๆ แต่ดันออกมาน่าเอ็นดูเฉย)
ลองสังเกตว่าบทตัวร้ายที่มันร้ายหลุดโลก ร้ายเสมอต้นเสมอปลาย หรือร้ายจริงเนี่ย เราจะไม่ค่อยเกลียด (ธานอส โวลเดอร์มอร์ ดาร์ธเวเดอร์ โจ๊กเกอร์ ฯลฯ) เพราะมันอยู่ไกลตัวเราเกินไป และเมื่อคนร้ายๆ แบบเซวียหยางแสดงอารมณ์ที่นอกเหนือจากนั้น (เสียใจตอนเสี่ยวซิงเฉินตาย) ก็จะยิ่งส่งอิมแพคกลับมายังคนดูได้อีกหลายตู้มเลยทีเดียว
เพราะฉะนั้นตัวละครที่จับต้องได้แบบอาเหยา เลยทำให้เราอินได้ง่ายกว่า และเกลียดได้มากกว่า
เอ๊ะ แต่เวินเฉากับเมีย 2 คนนี้ก็คนเกลียดเยอะอยู่นะ? จริงๆ อันนี้อาจจะเป็นเพราะทั้งคู่ไม่มีบทที่แสดงถึงอารมณ์คอนทราสแบบเซวียหยาง คนเลยไม่ได้รู้สึกว่าเอ็นดูเท่าค่ะ
2. การพุ่งเป้า (ประสงค์ร้าย)
เซวียหยางเป็นตัวละครที่มีการพุ่งเป้าไปยังตัวละครรอง (เสี่ยวซิงเฉินกับซ่งหลาน) ซึ่งทั้ง 2 คนแทบไม่ได้มีผลอะไรกับเนื้อเรื่องเท่าตัวละครหลัก ทำให้เรารู้สึกรับได้มากกว่า ยิ่งโดยเฉพาะเซวียหยางมีฉากเสียใจ ซึ่งมันแสดงความคอนทราสกับนิสัยของเจ้าตัว ก็ยิ่งทำให้คนรู้สึกสะเทือนใจได้มากกว่า
แต่อาเหยาพุ่งเป้าไปที่ตัวละครหลักเต็มๆ (หลานจ้านกับเว่ยอิง) และผลมันกระทบไปยังตัวละครหลักอีกหลายๆ คน ปกติคนดูส่วนใหญ่ก็ต้องชอบตัวละครหลักอยู่แล้ว ยิ่งโดยเฉพาะกับเรื่องนี้ที่เราจะรักและเอ็นดูวั่งเซี่ยนเป็นพิเศษ แน่นอนว่าพอมีคนพุ่งเป้าไปที่ตัวละครที่เขาชอบ ก็ต้องรู้สึกไม่ชอบใจเป็นธรรมดา บวกกับความร้ายแบบหลบในของอาเหยา ก็ยิ่งทำให้คนไม่ชอบมากขึ้นไปอีก อีกข้อคืออาเหยามีแอร์ไทม์เยอะกว่า มีฉากที่แสดงให้เห็นความร้ายแบบร้ายหลบในของเขามากกว่า จึงเหมือนบวกๆๆๆ ค่าความเกลียดเข้าไปเรื่อยๆ นั่นเอง
3. การทำความเข้าใจตัวละคร
อาเหยาเป็นร้ายหลบในที่ต้องใช้การตีความอย่างมาก เขาเจออะไรมาบ้าง ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมถึงทำแบบนี้ เพราะอะไรเขาถึงเลือกทางนี้ ฯลฯ เราต้องคิดตามพอสมควรเพื่อที่จะเข้าใจว่า ตัวละครตัวนี้ทำแบบนี้เพื่ออะไร ดังนั้นคนดูบางส่วนจึงเลิกที่จะคิดเพราะมันยุ่งยากเกิน
แต่เซวียหยาง เราสามารถเข้าใจได้เลยว่า อ๋อ เพราะตอนเด็กโดนทำร้าย โดนกระทำรุนแรง โตมาก็เลยกลายเป็นคนร้ายๆ ไป คนดูไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ต้องหาเหตุผลมารองรับการกระทำของตัวละครนี้เท่ากับอีกคน เราสามารถเข้าใจได้ทันทีว่าที่มันทำแบบนี้เพราะมันร้ายไง แค่นี้เลย ซึ่งก็จะโยงกับข้อข้างบนอีกเพราะชีวิตประจำวันเรามันไม่มีคนแบบเซวียหยางให้ได้พบเจอบ่อยเท่าคนแบบอาเหยา
4. ความน่าสงสาร
ต่อจากข้อข้างบน ถามว่า อ้าว เซวียหยางโดนคนรังแกแต่เด็ก แล้วอาเหยาไม่มีคนรังแกเหรอ? ตอนเด็กอาเหยาก็โดนมาหลายอย่าง แถมบางอย่างก็มีบท มีการอธิบาย แต่ทำไมคนดูถึงรู้สึกสงสารเซวี่ยหยางแต่ไม่สงสารอาเหยาล่ะ?
ตรงนี้เรามองว่า มันขมวดเอาปมของข้อ 1-3 มารวมเข้าด้วยกัน เซวียหยางแสดงออกเลยว่าเขาเลือกที่จะเดินทางร้าย แต่กับอาเหยา คนดูจะมองว่าอาเหยามีทางเลือกมากกว่า เพราะว่าเขา "เคยเป็นคนดีมาก่อน" เคยเป็นคนที่น่าสงสารมาก่อน และได้รับโอกาสใช้ชีวิตใหม่ (จากพี่เนี่ย) พอเขาผันตัวไปร้าย เลยทำให้คนดูบางส่วนรู้สึกว่า เขาไม่มีค่าพอให้เราสงสารหรอก ก็ทำตัวเองเอง ประมาณนี้
(โดนใช้ไปตักน้ำ โดนนินทาลับหลัง โดนด่าว่าลูกโสเภณี ทำไมไม่มีใครเห็นใจผม ; - ;)
เราลองคิดง่ายๆ สมมุติเราโดนคนล้อว่าอ้วน ดำ เตี้ย หรืออะไรทำนองนี้มาตลอด โดนมา 100 ครั้งเราก็ทนได้ 100 ครั้ง แต่พอครั้งที่ 101 เราทนไม่ได้ ด่ากลับไป ก็จะถูกมองว่าไม่มีความอดทนหรือก้าวร้าวทันที
เคสของอาเหยาก็เหมือนกัน คนดูรู้ว่าเขาอดทนกับอะไรมาตลอด แต่กลับพร้อมใจที่จะมองข้ามไป เพราะอาเหยากลายเป็นตัวละครที่ต้องซ่อนความชั่วร้ายของตัวเองเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง (โยงไปข้อ 1) ส่งผลให้คนดูที่รู้ธาตุแท้ของตัวละครตัวนี้รู้สึกไม่ชอบเขา และทำให้ความน่าสงสารของเขาโดนความร้ายกาจกลบไปหมดนั่นเอง
(ท่าทางแบบ อินี่มันร้ายยยยยย คุณพี่อย่าหลงกลมันนะค้าาาาา)
หมดแล้วค่ะ เหตุผลที่เราคิดว่าทำไมคนถึงเกลียดอาเหยามากกว่าเซวียหยาง ทั้งๆ ที่เป็นตัวร้ายเหมือนกัน
(อันนี้ไม่ค่อยอยากเอามาเป็นเหตุผลหลัก แต่เราว่าส่วนหนึ่งน่าจะเพราะเรือหรือคู่ชิปด้วยที่ทำให้อาเหยาโดนเกลียดมากกว่าเซวี่ยหยาง 5555 /กระซิบเสียงเบามากๆ แอร)
สรุป
- ลักษณะนิสัยร้ายหลบใน หน้าไหว้หลังหลอก เป็นลักษณะนิสัยแบบที่เราจะพบเจอได้ทั่วไป เลยทำให้ดูเข้าถึงได้ง่ายและเกลียดได้ง่ายกว่า (ข้อนี้สำคัญสุด)
- ความร้ายกาจพุ่งเป้าไปที่ตัวละครหลักในเรื่องเต็มๆ
- ต้องทำความเข้าใจหลายด้าน คนเลยเลือกที่จะไม่ทำความเข้าใจ/มองข้ามไปเลยดีกว่า
- คนอดทน 100 ครั้ง พอครั้งที่ 101 ไม่ทนแล้ว มักจะถูกมองว่านิสัยไม่ดีทันที
จริงๆ อยากเพิ่มข้อที่ว่าอาเหยาฉอดเก่งปั่นเก่งเข้าไปด้วย แต่เอาจริงๆ ทั้งอาเหยาและเซวียหยางก็ฉอดเก่งพอๆ กัน สกิลฝีปากร้ายพอกัน (ดูจากฉากในเมืองอี้) แค่เซวียหยางไม่ค่อยมีบทให้ฉอดเท่านั้นเอง ฮาาา
ตอนแรกว่าจะเขียนสั้นๆ ลงทวิตเฉยๆ แต่ไปๆ มาๆ มันยาวมากเลยต้องเอามาเขียนในนี้แทน แง 5555 ใครอ่านแล้วเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยยังไง ก็สามารถเข้าไปพูดคุยกับเราได้ในทวิตเตอร์นะคะ!!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in