เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Book ReviewJaturaphat Wannapoporn
Yodaya boy (โยดายาบอย) วิชัยครั้งยังวัยรุ่น ณ พม่า
  • " บันทึกของเด็กชายที่ต้องใช้ช่วงเวลาวัยรุ่น

    เพียงครั้งเดียวในชีวิตที่ประเทศพม่า "



    ผู้แต่ง : วิชัย (วิชัย มาตกุล)

    สำนักพิมพ์ : a book

    จำนวนหน้า : 304 หน้า

    ราคาตามปก : 255 บาท


    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    เมื่อวันก่อนไปเดินจับโปเกม่อนแถวพารากอน เผอิญเดินผ่านร้าน Kinokuniya ร้านหนังสือร้านโปรดที่ชอบมายืนดูหนังสือน่าอ่านเฉยๆ แล้วก็ไม่ซื้อ (อดใจไว้เจอกันในงานหนังสือ) ดันเห็นหนังสือเล่มนี้ตั้งอยู่หน้าร้าน ก็จำได้ว่าพี่วิชัยแกออกหนังสือเล่มใหม่ไปขายในงานของ a book เห็นว่าเกี่ยวกับช่วงชีวิตวัยรุ่นที่แกไปอยู่ในพม่า ปกติผมไม่ค่อยสนใจประเทศเพื่อนบ้านสักเท่าไหร่ แต่เห็นเป็นหนังสือที่เขียนโดนพี่วิชัย พี่วิชัยเลยนะโว้ยยย ก็เลยเปิดๆ ดูซะหน่อย ก็ดูโอเค ตามแบบฉบับสไตล์ถนัดของพี่วิชัย ดูเสร็จก็หยิบไปวางที่เดิม รอเจอกันในงานหนังสือตามสูตร แต่ไม่รู้ทำไมอดใจไว้ไม่ไหว... สุดท้ายต้องรีบกลับไปหยิบแล้วเอาไปจ่ายตัง เพราะความอยากล้วนๆ



    วิชัย มาตกุล หรือนามปากกา วิชัย เป็นนักเขียนมือฉมัง มีผลงานการเขียนมาแล้วถึง 17 เล่ม (นับรวมเวอร์ชั่นแก้ไขด้วยนะ) แจ้งเกิดกับหนังสือสุดฮอต สิ่งมีชีวิตในโรงแรม ของสำนักพิมพ์ a book ปัจจุบันแกก็เขียนให้ทั้งกับ a book และ Salmon โดยผลงานทางฝั่ง a book จะเล่าถึงเรื่องน่าสนใจในชีวิตของพี่แกซะส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นเรื่องยาว และผลงานทางฝั่ง Salmon จะเป็นคล้ายๆ สกู๊ปที่น่าสนใจ วัยรุ่นๆ หน่อย การันตีว่าดีทุกเล่ม ตลกร้ายทุกเล่ม และปัจจุบันแกทำงานอยู่ Salmon House จับมือเป็นผู้กำกับคู่กับ พี่เบนซ์ ธนชาติ ศิริภัทราชัย ที่ทำคลิปไวรัลสนุกๆ ให้เราได้ดูกัน ล่าสุดก็รถเมล์สาย 8 ที่แชร์กันว่อนในเฟสบุ๊กนั่นแหละครับ



    สำหรับหนังสือเล่มนี้ โยดายาบอย คำว่า "โยดายา" นั้นคือคำที่คนพม่าใช้เรียกคนไทย ส่วน "บอย" ก็เด็กผู้ชาย แปลง่ายๆ ก็คือ เด็กไทยในพม่า ดังนั้นเล่มนี้ก็เลยเป็นไดอารี่เล่าช่วงชีวิตที่พี่วิชัยไปร่ำเรียนอยู่ที่พม่าหลังจากที่พึ่งจบ ม.6 จากประเทศไทยมามาดๆ ด้วยความไม่เต็มใจนัก พึ่งจากกับเพื่อนมาหยกๆ ยังไม่ทันทำใจก็ต้องไปต่างแดนที่ห่างไกลครอบครัว ไปเรียนรู้ด้วยตัวเองในดินแดนที่ไม่รู้ว่าจะสื่อสารกับเขารู้เรื่องไหม ถ้าเป็นตัวผมเองบอกเลยว่าช็อค โฮมซิกแน่นอน ความสนุกก็เลยอยู่ที่ พี่วิชัยแกเอาตัวรอดอยู่ที่นั่นได้อย่างไรตั้ง 2 ปี และตลอดช่วงเวลานั้นแกผ่านอะไรมาบ้าง



    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    เปิดโลกพม่า 

    หนังสือเล่มนี้เขียนโดยผู้ชายที่ไปอยู่พม่าเพื่อเรียนภาษาถึงสองปี สิ่งที่เราได้อ่านก็เลยเป็นสังคมของพม่าในช่วงเวลานั้น ผมชอบพี่วิชัยตรงที่แกชอบเก็บรายละเอียดต่างๆ แล้วมาเล่าได้สนุกมากๆ อย่างเช่น คนพม่าแต่งตัวอย่างไร เวลาขับรถเป็นอย่างไร ผู้หญิงพม่าเป็นอย่างไร ทำไมร้านเช่าวีดิโอในพม่าถึงฮิต รวมไปถึงคนชาติอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในพม่าด้วย อย่างแขกขายข้าวหมกไก่สุดอร่อย ที่มีเอกลักษณ์ความคัลท์สูงมากๆ หรือชาวต่างชาติที่เป็นเพื่อนกับพี่แกแต่ละคนก็สุดๆ จริงๆ และด้วยความที่พี่แกเป็นวัยรุ่นก็ต้องมีการเล่าถึงย่านสุดฮิตที่คนวัยเดียวกันชอบไปเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟแหล่งรวมวัยรุ่น ย่านคนจีนที่คึกคักยามดึก หรือย่านแขกอาหารหร่อย ซึ่งก็มักจะเป็นเรื่องราวสนุกๆ ซะส่วนใหญ่



    ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ 

    ตอนอ่านๆ ไปก็แอบนึกถึงความดื้อของตัวเองตอนวัยรุ่นอยู่เรื่อยๆ ช่วงที่เราเป็นวัยรุ่นผมเชื่อว่าหลายคนต้องเคยสับสนกับเส้นทางเดินชีวิตของตัวเอง เหมือนชีวิตวิ่งอยู่บนทางเลื่อนแล้วได้ยินเสียง สิ้นสุดทางเลื่อน ดังมาแต่ไกล คำถามเกิดขึ้นในหัวว่าแล้วเราจะไปทางไหน? พี่วิชัยแกก็เอาช่วงชีวิตของแกตรงนี้แหละมาเขียน ความอยากที่จะเป็นแบบเพื่อนคนอื่นๆ เรียนมหาลัยตามปกติ แต่ต้องไปพม่าเพราะพ่อแม่มีความเห็นที่แตกต่างกัน พาร์ทนี้พี่แกเขียนได้ดีมาก เรียลมากจริงๆ สัมผัสได้ถึงความสับสน ความไม่พอใจ ความไม่เข้าใจ ความกลัว สื่อไปถึงว่าทำไมถึงเลือกชีวิตของตัวเองไม่ได้ ขนลุกมากๆ



    เพื่อนและครอบครัว 

    ที่ใหม่ๆ ที่เราไม่คุ้นเคยนี่โคตรน่ากลัวเลยนะครับ มีแต่คนที่พูดคนละภาษากับเรา วิถีชีวิตต่างไปจากเรา จิตตกสุดๆ แต่พอมีเพื่อนเท่านั้นแหละ ที่เดิมที่เคยน่ากลัวกลับไม่น่ากลัวเหมือนเคย เสียงหัวเราะที่เคยหายไปก็กลับมา เป็นอีกหนึ่งพาร์ทที่ผมชอบเป็นอันดับสอง เพื่อนที่ถูกพูดถึงก็มีอยู่ไม่เยอะ แต่คาแรกเตอร์แต่ละคนเอกลักษณ์มากๆ ทำให้เราจำได้ไม่ยาก พี่วิชัยแกก็จะเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่แกเจอพร้อมๆ กับเพื่อน พบ สุข พราก จาก ลา อะไรก็ว่ากันไป ซึ่งก็มีทั้งแบบดิบๆ ใสๆ จิตๆ เศร้าๆ ครบอารมณ์มาก อ่านไปเพลืนไปอินไป ตามประสา และในส่วนครอบครัวอันนี้อย่างกับเป็นหนังชีวิตเลย พี่แกเล่าเปิดปมอดีตกับพ่อและแม่ ดราม่าและซึ้งสุดๆ ส่วนนี้ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างมากกกกก



    การปรับตัว 

    ตอนมาอยู่ใหม่ๆ ภาษาอังกฤษพี่แกก็ยังไม่ดีมาก แล้วยังต้องมาเรียนภาษาอังกฤษด้วยภาษาอังกฤษ อ่านแล้วปวดหัวแทน พี่แกก็ต้องปากกัดตีนถีบหาเทคนิคการเรียนรู้เพื่อให้อยู่รอดต่อไปได้ แถมในชีวิตประจำวันยังต้องใช้ภาษาพม่าอีก ไม่งั้นจะซื้ออาหาร ต่อราคา ถามทาง ขึ้นรถเมล์ ก็คงจะลำบาก ก็ต้องเรียนอีกแล้วใช่ไหมล่ะ แล้วทีนี้คิดถึงที่บ้านอยากโทรไปกลับบ้านก็ต้องมาเจอกับปัญหาการโทรทางไกลที่โคตรจะยากอีก ชีวิตอะไรจะลำบากปานนั้น พาร์ทนี้ถือว่าเป็นพาร์ทที่ท้าทายและสนุกไปกับการอ่านตามไปว่าพี่แกหาทางไปต่อและปรับตัวไปกับแต่ละสถานการณ์ได้อย่างไร


    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    Rating : Great!!


    Quote : คนที่มีอะไรคล้ายๆ กัน จะดึงดูดเข้าหากัน



    หนังสือเล่มนี้ยกให้เป็นเล่มที่ Real ที่สุด Drama ที่สุดของพี่วิชัยเลย
    ดีมากจนอยากบอกต่อ อย่าลืมไปซื้อมาอ่านกันนะจ๊ะ


    ยังไงถ้าข้อมูลผิดพลาดประการใดก็กราบขออภัยใน ณ ที่นี้ด้วยนะครับ -/\-
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in