เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Ep.2|มืดมนสุด ไปสู่ สว่างสุดในชีวิต (Long journey in Tanzania with IYF)Pattarapol Supavirusbunchar
Ep.2| จุดมืดมนสุดสู่จุดสว่างสุดในชีวิต (Long journey in Tanzania with IYF)




  •  ผมเคยใช้ชีวิตแบบที่ "เสเพล" ที่สุด : ชกต่อย ติดพนัน ไปจนถึงเสพยา


    "กรูไม่ตายวันนี้หรอก อยากทำอะไรทำ!"  นี่คือ คติของผมเมื่อมาถึงจุดที่คิดว่าไหนๆ ก็เปลี่ยนไม่ได้งั้นก็ไม่ต้องเปลี่ยนมันเลยแล้วกัน

     เรื่องมีอยู่ว่าแต่ก่อนผมเคยเป็นเด็กสมาธิสั้นและมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์ ทำให้ไปก่อเรื่องชกต่อยกับชาวบ้านเขาบ่อยมาก ซึ่งผมเองก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนั้น แต่มันก็ห้ามตัวเองไม่ได้


      ลึกๆ แล้วผมก็อยากให้เพื่อนยอมรับนะ อยากได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างว่าผมก็โอเค ก็เลยมีตอนที่ผมพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไปปรึกษาหมอ พยายามปรับปรุงพฤติกรรม ทำใจให้สงบ แต่สุดท้ายมันก็ไร้ผล 


      ผมเลย "เปลี่ยนความคิด" เอาเป็นว่า ไม่ต้องพยายามที่จะเข้าสังคมแล้วใช้ชีวิตของเราให้สนุกไปเลยดีกว่า ผมเริ่มใช้ชีวิตไม่แคร์คนอื่นแทน อะไรที่ว่าทำแล้วสนุก ทำแล้วเจ๋ง ผมทำหมด โดยเฉพาะอะไรที่ไม่เคยลองผมต้องทำให้หมด 



     ผมเริ่มสูบบุหรี่ กินเหล้า ตอนหลังเริ่ม 'ปุ๊น' หนักๆ เข้าก็เริ่มใช้ยาเสพติด ติดการพนัน กลายเป็นว่าได้รับการยอมรับในเรื่อง "แย่ๆ" แทน แต่น่าแปลกใจที่ตอนนั้นผมไม่รู้สึกเกรงกลัว หรืออายอะไรทั้งนั้น 

      วันหนึ่งผมเอากัญชากลับไปบ้านด้วย แล้วถูกแม่จับได้ ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในบ้าน แต่ลึกๆ ผมก็ไม่ได้สำนึก หรือรู้สึกผิดอะไร เพราะคนอื่นเขาก็ทำกัน นอกจากตัวเองทำไมผมต้องไปแคร์ใครด้วย ผมคิดแบบนี้แล้วก็ใช้ชีวิตแบบบ้าคลั่งไปวันๆ

      ไม่เคยคิดเลยว่าถ้าผมตายหรือติดคุกไปเนี่ย พ่อกับแม่จะอยู่ยังไง ช่วงนั้นดูจากภายนอกแล้วมันสนุกมากที่ได้ทำอะไรตามใจแต่เชื่อไหมครับว่า สภาพจิตใจของผมตอนนั้นมันว่างเปล่ามาก  

       ในช่วงปีสุดท้ายก่อนเรียนจบมหาวิทยาลัย ผมไม่รู้ว่าชีวิตจะไปทางไหน ตอนนั้นมันไร้เป้าหมายมาก จนได้รู้จักกับโครงการของ IYF ตอนนั้นผมก็มีความลังเลด้วยเพราะข้อมูลในเน็ตมันไม่ค่อยจะมีเท่าไร

        และที่มีให้อ่านก็เป็นความเห็นของคนอื่นทั้งนั้น วันหนึ่งผมคิดว่า เอาวะ! ไปเจอกับตัวเลยดีกว่า ว่ามันเป็นยังไง ดีกว่าจะมาฟังคนนั้นคนนี้เล่า แล้วมันทำให้เราก็ไม่ได้เริ่มต้นทำอะไรเลยสักอย่าง ผมคิดอยู่นานกว่าจะยอมตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ


         INVERSE LIFE: แอฟริกาเปลี่ยนความคิด 

        ด้วยความที่ว่าอยากจะฝึกภาษาอังกฤษด้วย แล้วก็อย่างน้อยก็จะได้ไปเป็นคนที่ได้ชื่อว่าเคยไปอยู่ต่างประเทศมา ทางโครงการให้ผมฝึกที่ศูนย์ IYFประเทศไทยอยู่ 3 เดือน หรือเรียกว่า "เก็บตัว" 

        ตอนนั้นก็ทำวีซ่า (พี่ๆ ที่ iyf ทำให้) เรียนภาษา,ฟังMind Training การบรรยายเรื่องโลกของจิตใจ (อันนี้ผมชอบ) ,มีพูดคุยเรื่องพระคัมภีร์ Bible ด้วย ผมอยากรู้อะไรก็ถามเขา ก็ได้ความรู้ใหม่ด้วยว่าคนคริสต์เขาคิดยังไงกัน

        และแล้วผมก็ได้เดินทางไปต่างประเทศสมใจ ซึ่งผมเลือก ไปทวีปแอฟริกา ประเทศ "แทนซาเนีย" เมืองที่ผมได้ไปอยู่ชื่อว่า "เมืองอรุซา" (Arusha)  ที่นี่มีเพื่อนอีก 5 คนอยู่ก่อนแล้ว มาจากเกาหลีใต้ จีน และกัมพูชา เป็นอาสาสมัครที่เลือกแทนซาเนียเหมือนผม  


                                                ตอนไปถึงที่นั่นแล้วทุกคนออกมาต้อนรับ

        มาถึงที่นี่สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ภาษา สีผิว อาหาร ทุกอย่างมันเหมือนเป็น "โลกใหม่" สำหรับผม ผมเคยได้ยินจากรุ่นพี่ที่ iyf ว่าท้องฟ้าที่แอฟริกาไม่เหมือนที่ประเทศไทย แล้วก็ได้เห็นกับตาจริงๆว่าท้องฟ้าที่นี่มันโปร่ง และสวยมากเหมือนยื่นมือไปแตะก้อนเมฆได้เลย 

         และพื้นดินที่เป็นสีแดงมันให้บรรยากาศแอฟริกามากๆ ความเป็นอยู่ของอาสาสมัครที่นี่ผมจะรู้สึกเสมอว่าความเป็นอยู่ที่นี่มันเหมือนเราเป็น "ประชากร" ของเขาคนหนึ่งไปเลยไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำ การกินข้าว 

         อยู่ไปสักพักมันเหมือนเป็น "การละลายพฤติกรรม" ของผมยังไงก็ไม่รู้ และใจของผมก็เริ่มกว้างขึ้นไปอีกนิดด้วย เพราะแต่ก่อนจะเป็นคนไม่ค่อยกล้าพูด ไม่กล้าแสดงออกเท่าไร แต่กิจกรรมที่ต้องออกไปทำให้กับคนอื่นครั้งแรกมันคือ การไปเป็น "ครูสอนเด็ก" ตอนนั้นผมถึงกับเกาหัวเลย....


        ผมและเพื่อนอีก 3 คนถูกส่งไปไปเมืองชื่อว่า "บุนจู" และต้องช่วยกันเตรียมกิจกรรมให้เด็กๆ ตั้งแต่ออกไปพบพ่อแม่เพื่อขออนุญาตให้เด็กๆมาร่วมแคมป์ของเรา พอกลับมาจากบ้านต่างๆ เราก็ต้องช่วยเตรียมการสอนด้วย เช่น วาดรูป ร้องเพลงทำท่าประกอบ ต้องวางแผนกันว่าทำยังไง อธิบายยังไง จัดรูปแบบไหนดี ซึ่งเป็นอะไรที่เกินกว่าตัวผมจะจิตนาการได้จริงๆ เพราะจริงๆแล้วผมเป็นคนเกลียดเด็กเข้าไส้!! 







    ปิ๊ง คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ม.บูรพา (จบปี 4 แล้วไป)
    อาสาสมัครโครงการ IYF Good News Corps รุ่นที่ 12 
    ระยะเวลา 1 ปี 7 เดือน
    ค่าใช้จ่าย: ไม่เกิน 67,000 บาท 
    (ค่าตั๋ว ค่าวีซ่า บริจาค,ส่วนเอกสาร ขั้นตอนการขอวีซ่าพี่ๆ สต๊าฟ IYF ช่วยเตรียมให้)

                     






เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in