เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Watch about thisFahrtwind
Gintama อนิเมะดูสนุก ที่เหมือนยาขมเคลือบน้ำตาล
  • " Never give up the sword in your soul. "


    ไม่เลือกงานแต่ก็ยังยากจน เรื่องราวสุดป่วนประสาทของแก๊งรับจ้างสารพัด ที่รับงานตั้งแต่ตามหาแมวหายยันกู้โลกพร้อมกับกลุ่มเพื่อน(มั้ย?)ที่แข่งกันเพี้ยนแบบไม่มีใครยอมใคร จนบางครั้งที่ดูก็อยากจะตัดสมองบางส่วนของตัวเองออกมาแช่ตู้เย็นไว้ก่อน อาจจะเพราะ บางครั้งสมองก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดเสมอไป


    น้ำจิ้มสำหรับความวายป่วง

    the favorite op of all time


    ...
    ท้องฟ้าสดใสที่เหล่าซามูไรเคยแหงนมอง
    บัดนี้เต็มไปด้วยยานต่างดาว
    ...
    นี่คือโลกของเราตอนนี้
    นี่คือเมืองของเรา

    -----------------------------------------------------------------------------

    ถ้าจะให้อธิบายว่าเรื่องราวในกินทามะมันคืออะไร เอ่อยังไงดีล่ะ... 
    มันมีหลายสิ่งหลายเรื่องเหลือเกิน สงคราม? การปฏิวัติ? มนุษย์ต่างดาว? ปีศาจ? เพื่อนพ้อง? เอ่อ.. ถ้าจะบอกว่าเป็น slice of life แบบเมายาหน่อยๆจะได้มั้ย? 

    -------------------------------------------------------------------


    Gintama มังงะและอนิเมะยำใหญ่ใส่สารพัด ที่มีทุกสิ่งให้เลือกสรรยิ่งกว่าเมอร์รีคิง ตลก เสื่อม บ้า บู๊ เศร้า ปรัชญาชีวิต และล้อเลียนสารพันสิ่ง(เน้นหนักShonen jump) ซึ่งทุกอย่างที่ว่ามาสามารถมีได้ภายใน 1 Episode และนั่นทำให้เราคิดว่ามันเหมือนกับยาขมที่ซ่อนไว้ภายใต้ลูกอมรสหวาน ภายนอกมันดูเป็นเรื่องราวขายขำบ้าๆบอๆแต่พอลองได้สัมผัสกับมันจริงๆ เออ!มันก็บ้าของมันจริงๆนั่นแหละ แต่ถ้ารออีกสักหน่อย รอให้ความบ้าบอ รอให้ความหวานมันซึมเข้าไปในลิ้น คุณจะได้สัมผัสกับตัวไส้ในที่รอคุณอยู่ เรื่องราวทิ่มแทงหัวใจจะปรากฎ ความขมจะแผ่ซานไปตามปุ่มรับรส แต่คุณยังจำความหวานเมื่อแรกสัมผัสนั่นได้ใช่มั้ย ใช่แล้วมันยังคงอยู่และพยายามแทรกซึมตัวเองเข้ามา จนมันกลายเป็นความหวานขม ความหวานขมของพวกเรา เหล่าซามูไร 


    " ยุคนี้ไม่ต้องการซามูไรอีกต่อไปแล้ว
    แต่ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปยังไง ก็มีบางสิ่งที่ไม่อาจลืมได้
    หากถึงคราที่ต้องละทิ้งดาบจริงๆ
    ขอจงอย่าละทิ้งดาบที่อยู่ในจิตวิญญาณไปเด็ดขาด
    ท้องฟ้าเอโดะที่ไร้เมฆ ฉันอยากจะเห็นมันอีกสักครั้งเหลือเกิน "


    นี่คือคำพูดสั่งเสียจากปากคุณพ่อของชิมูระ ชินปาจิ ทายาทโรงฝึกดาบและตัวตบมุกนัมเบอร์วันแห่งแก๊งรับจ้างสารพัด เด็กหนุ่มที่ต้องการสานต่อและตามหาจิตวิญญาณแห่งซามูไรที่แท้จริง และความต้องการนั้นก็เริ่มเดินทางเมื่อเขาได้มาพบกับซากาตะ กินโทกิ, คางูระจัง, คัตสึระ, แก๊งชินเซ็นกุมิ และอีกหลายๆคนที่ร่วมกันต่อสู้เพื่อทวงคืนท้องฟ้าแห่งเมืองเอโดะที่สดใส

    และนี่เองละมั้งเรื่องราวของกินทามะ การต่อสู้ดิ้นรนเพื่อรักษาดาบของตนและปกป้องสิ่งล้ำค่าที่เรียกว่ามิตรภาพในยุคตกต่ำของซามูไรหรือจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ของเราที่กำลังหล่นหายและถูกดูดกลืนไปกับโลก โลกที่มนุษย์ต่างดาวเข้ามารุกรานหรืออาจจะเปรียบได้กับโลกทุนนิยมและอำนาจของคนชั่วร้ายที่มีอิทธิพลกับเรามากมายเหลือเกินในขณะนี้ และเมื่อเรื่องราวไปถึงตัวละคร Last boss มันก็โยนคำถามมาให้เราว่า มนุษย์และปีศาจแยกจากกัน หรือเป็นสิ่งเดียวกันกันแน่ เป็นอะไรที่ชวนหดหู่และทิ่มแทงหัวใจ เพราะเรารู้ว่ามันเป็นเช่นนั้น อำนาจและความใจร้ายของมนุษย์นั้นทำลายมนุษย์ด้วยกันเอง และจะทำลายโลกใบนี้

    แต่อย่างที่บอกกินทามะมันเคลือบไว้ด้วยความหวาน ความพิลึกพิเรนทร์ตลกโป๊ะฮาไร้สาระ ซึ่งในบางช่วงมันก็ยึดครองพื้นที่ไปทั้งหมด หวานเจี๊ยบจนปวดหัวจนเหมือนเบาหวานจะขึ้นตา แต่บางช่วงก็หนีหายไปจนเหลือแต่ความขมปี๋ ขมไปยันตับไตจนต้องพยายามขับออกมาด้วยน้ำตารอบแล้วรอบเล่า แต่สุดท้ายมันก็จะหาทางพยายามแทรกเข้ามาจนได้ และคลุกเคล้ากันเป็นความหวานขมแห่งชีวิต 

    และที่กินทามะมันทำอย่างนั้นคงเพราะมันก็เจ็บปวดเหมือนกัน มันเข้าใจความเป็นมนุษย์และมันอยากจะปลอบประโลมเราให้มีชีวิตต่อไปเพื่อรักษาดาบของเราไว้ เพื่อสักวันเราจะได้ยืนมองท้องฟ้าที่ไร้เมฆร่วมกับใครสักคนที่เราได้ปกป้อง มันคงเหมือนเพื่อนที่มาแตะบ่าแล้วจากนั้นก็นั่งหายใจไปกับเราตลอดทั้งวัน และมันก็อาจจะเป็นเพื่อนคนเดียวกันกับที่เดินไปตักไอติมทุกรสมากินก่อนที่หมูบนเตาย่างจะสุกและเป็นคนเดียวกันกับที่กำลังเคี้ยวหมูอยู่ในปากแล้วพูดกับเราว่า " หมูแม่งอร่อยชิบหาย! อ้วนเอิ้นช่างแม่ง แดกๆไปเหอะ ถ้ามันทำให้มึงมีความสุข "

    สิ่งที่ชอบที่สุด : ความใจดี

    กินทามะมันปลอบประโลม มันอยากให้เรามีชีวิตอยู่ต่อ มันบอกว่าเป็นตัวของตัวเองสิ เดินไปในทางของตัวเองสิ และค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ไม่ต้องรีบร้อน ขี้เกียจสักหน่อยก็คงจะไม่เป็นไรหรอก มันเป็นโชเน็นจัมพ์ที่แตกต่าง เพราะโชเน็นส่วนใหญ่มักจะบอกให้เราสู้ หยุดไม่ได้นะ ต้องสู้เท่าน้้น พยายามเพื่อเป้าหมาย เพื่อพวกพ้อง แต่ไม่ใช่ว่ากินทามะมันจะไม่ให้เราสู้ มันสู้สุดใจสุดกำลังในแบบของมันและมันก็เว้นช่องว่างไว้ให้เรามีความสุขกับความขี้เกียจด้วยเหมือนกัน

    อย่างเช่นตอนนึงที่อากินจัง คางูระ และชินปาจิตื่นขึ้นมาในความมืดแล้วเจอกับวิญญาณของดาบที่อยากจะสอนท่าไม้ตายให้กับพวกเขา สิ่งที่พวกนั้นทำคือไม่สนใจแล้วก็นอนต่อ จนวิญญาณของดาบงงไปเลย คือมันแบบ..กวนตีน... 555 มันตลกมาก เออวะ! การนอนมันต้องสำคัญกว่าท่าไม้ตายดิวะ แน่นอนว่ามันล้อมังงะเรื่องอื่น แต่มันก็ล้อสังคมที่ความสำเร็จและความProductiveเป็นเหมือนพระเจ้าที่ต้องเคารพบูชาไปพร้อมๆกันด้วย เหมือนมันกำลังบอกว่า มึงพักหน่อยเหอะ!

    และอย่างเรื่องเป็นตัวของตัวเอง เดินไปในทางของตัวเอง คือมันสะท้อนออกมาได้ในหลายช่วงเลย อย่างเช่นจากคาร์แรคเตอร์ที่หลากหลายและแตกต่าง มันมีความบ้าๆเกินๆในตัวของทุกคนเสมอ(ยกเว้นตัวร้ายเอาไว้หน่อย) และขณะเดียวกันพวกเขาเหล่านั้นก็สู้ในแบบที่เขาเลือกเป็น เราอยากจะยกตัวอย่างคาร์แรคเตอร์ที่เราชอบมากๆอย่าง คัตสึระ โคทาโร่

    คัตสึระจะมีวลีฮิตติดปากอย่าง " ไม่ใช่สึระ คัตสึระต่างหาก " หรือ " ไม่ใช่....  ......ต่างหาก "  จะเป็นอย่างนี้เสมอเมื่อมีใครเรียกชื่อของเขาในแบบที่เขาไม่อยากให้เรียก มันบ่งบอกถึงความมั่นใจและต้องการจะเป็นตัวเองอย่างที่สุด และตอนแรกเราคิดว่ามันใส่มาแค่เพื่อความตลกหรือเป็นกิมมิคให้ตัวละครเท่านั้น แต่ในซีนหนึ่งที่เขาตะโกนออกมาว่า " ไม่ใช่คัตสึระ สึระต่างหาก " มันโคตรเท่ห์และโคตรมีความหมาย เราเข้าใจว่าทำไมมันจึงต่าง เข้าใจว่าทำไมเขาจึงเลือก ทั้งคัตสึระ และ สึระต่างเป็นตัวตนในการต่อสู้ของเขา จอมเผ่นและจอมฟาดฟัน ทั้งคู่ต่างมีความหมายและเขาเลือกที่จะเป็นมันในช่วงเวลาที่ต้องการ 


    สิ่งที่ไม่ชอบที่สุด : มุกตลกที่ไม่(ควร)ตลก

    กินทามะมันเน้นขายขำแหละ มันก็จะมีมุกตลกต่างๆมากมาย เก็ทบ้างไม่เก็ทบ้าง บางอันก็ขำจนน้ำตาไหล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมุกกวนตีน ต๊องๆไร้สาระไปเรื่อย และมันก็จะมีพวกมุกเสื่อม สัปดนอยู่มากมาย บางอันก็รับได้และขำ แต่บางอันมันก็ไม่ไหวนะ 

    อย่างเช่น เอาก้อนอึไปโป๊ะใส่หัวคนอื่น คือเห็นแล้วจะอ้วก หรืออย่างมุกจับนมผู้หญิงที่มันควรหมดไปสักที หรืออย่างพวกมุกเหยียดรูปลักษณ์ เอาLGBT+มาทำเป็นเรื่องตลก ทั้งๆที่มันนำเสนอเรื่องความแตกต่างแท้ๆ เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ยังเอามาทำเป็นเรื่องตลกอยู่ดี(อันนี้เราว่าก็แยกยาก บางทีเราก็ขำกับมุกพวกนั้นบ้างเหมือนกัน แต่ยังไงก็ควรแยกละนะ) หรืออย่างมุกStalkerคือในเรื่องคนตามมันไม่ได้คิดร้ายและโดนแกงอยู่ตลอดเวลาแต่ยังไงมันก็ไม่สมควรเอามาเป็นมุกเลย มันเป็นเรื่องน่ากลัว คนที่เขาโดนตามจริงๆมันไม่ตลกนะ หรืออย่างการที่อากินจังเอากางเกงในคิวเบจังมาใส่หัว คือแกร! ถ้ามีใครเอากางเกงในเราไปใส่หัวบ้างจะเป็นไงวะ ไม่ตลกเลย Creepyมาก แล้วคิวเบจังเป็นคาร์ที่เราชอบที่สุดในเรื่อง และเป็นคนที่โดนมุกจับนม โดนเอาความรู้สึกสับสนเรื่องรสนิยมทางเพศมาล้ออยู่บ่อยครั้ง นั่นทำให้เราโกรธมากขึ้นไปอีก

    ทั้งหมดนี่มันคือความเห็นส่วนตัวของเรานะ ไม่รู้ว่าคิดมากไปเองหรือเปล่า แต่ก็นะ เรื่องนี้มันก็เขียนมาตั้งเป็นสิบปีแล้วและถูกเขียนโดยผู้ชายในสังคมญี่ปุ่น มันก็พอเข้าใจได้หน่อยว่าทำไมออกมาเป็นแบบนั้น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกโอเคกับสิ่งเหล่านี้แม้แต่สักนิด


    ........


    เอาเป็นว่ากินทามะมันมีสิ่งแย่ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม และมันก็มีสิ่งดีๆที่ทำให้เราผูกพันและตกหลุมรักด้วยเช่นกัน ความกวนตีน ความบ้าบอ เรื่องราวพิลึก จินตนาการสุดล้ำ ผสมกับความเจ็บปวดจากการดิ้นรนเพื่ออยู่รอด หลากหลายตัวละครต่างร่วมเดินทางและสร้างเรื่องปวดหัวให้แก่กันและกัน แต่ในขณะเดียวกันก็เช็ดน้ำตาและเป็นกำลังใจให้กันไปด้วย เพราะพวกเขาคือซามูไรที่ไม่อาจละทิ้งดาบในจิตวิญญาณของตนลงไปได้ พวกเขามีสิ่งที่ต้องปกป้องนั่นเอง


    ใครที่ยังไม่เคยดูก็ลองไปหาชมกันได้นะคะ หรือใครที่เคยดูแล้วก็กลับไปดูอีกได้เหมือนกัน555 มันอาจจะช่วยคลายเครียด(หรือเครียดหนักกว่าเดิมไม่แน่ใจ) และเป็นกำลังใจให้เราต่อสู้กับโลกใบนี้ กับรัฐบาลเฮงซวยนี่ และทำให้เรามีความหวังว่าสักวันเราจะได้แหงนมองท้องฟ้าในประเทศไทยที่สดใสร่วมกับคนอื่นๆที่มีจิตวิญญาณเช่นเดียวกันค่ะ














Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in