สวัสดีค่าทุกคนยินดีต้อนรับสู่บล็อคของเรานะ
เราชื่อใบเฟิร์นเรียนอยู่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวรรรกรรมสำหรับเด็ก ตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงฝึกงานเลยอยากพาทุกคนมารู้จักกับที่ที่เราทำงานอยู่ เพราะว่าที่นี่เป็นที่ฝึกงานและที่จัดกิจกรรมสำหรับเด็กที่ดีมากๆเลยสำหรับเรา
สถานที่นี้ชื่อLittle tree garden โดยทั่วไปแล้วคนส่วนมากจะรู้จักกันในฐานะคาเฟ่ที่สวยงามมากๆแห่งหนึ่งในนครปฐมคาเฟ่แห่งนี้โดดเด่นในเรื่องของความสวยงามของบรรยากาศ การจัดสถานที่ที่ร่มรื่น เขียวชอุ่ม ดูมีรสนิยมสไตล์อังกฤษ มีเครื่องดื่มอาหารและขนมโฮมเมดให้เลือกรับประทานมากมาย โดยวัตถุดิบที่ใช้ส่วนมากมาจากสวนที่เจ้าของปลูกเองด้วยวิธีธรรมชาติไม่ใส่สารเคมี แต่นอกจากจะเป็นคาเฟ่ที่บรรยากาศดีอาหารอร่อยแล้วที่little tree garden แห่งนี้ยังจัดกิจกรรมสำหรับเด็กๆขึ้นบ่อยครั้งไม่ว่าจะเป็นการจัดworkshop ทำงานคราฟท์ทำขนมหรืองานศิลปะต่างๆ, มีค่ายที่สร้างให้เด็กได้มาอยู่รวมกันเพื่อเรียนรู้ใกล้ชิดธรรมชาติและการอยู่ร่วมกับผู้อื่น หรือมีกิจกรรมต่างๆจากหน่วยงานภายนอกที่เข้ามาจัดโดยทางเจ้าของหรือ 'ครูปิ๋ม' จะคัดกรองแล้วว่ากิจกรรมนั้นดูน่าสนใจมีแนวคิดที่ดีและเป็นประโยชน์แก่เด็กจริงๆ
โดยเริ่มแรกครูปิ๋มเล่าว่าเริ่มจากเป็นกิจกรรมเล็กๆที่ทำกันในครอบครัวโดยมีลูกๆของครูปิ๋มและเพื่อนๆที่เรียนโฮมสคูลด้วยกัน หรือลูกของญาติ ของเพื่อน ของคนรู้จักมาร่วมกิจกรรมด้วยจนกิจกรรมเริ่มเข้าที่เข้าทางและมีการบอกต่อๆกันจนเป็นที่รู้จักและมีคนสนใจมากขึ้น ครูปิ๋มจึงเปิดให้คนภายนอกได้มีโอกาสมาทำกิจกรรมร่วมกันโดยประชาสัมพันธ์จากการเขียนป้ายเล็กๆตั้งไว้หน้าร้านคาเฟ่ว่าจะมีกิจกรรมสำหรับเด็กจัดขึ้นประมาณวันที่เท่าไร ลูกค้าที่มารับประทานอาหารแล้วเกิดสนใจก็สามารถมาสอบถามรายละเอียดและสมัครได้ทันที หรืออีกช่องทางหนึ่งคือการประกาศรับสมัครลงเพจ'little tree house of learning' บนเฟสบุ๊คซึ่ง ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามากดติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่างๆที่little tree จัดขึ้นเกี่ยวกับเด็กๆได้ที่นี่เลยค่ะ
หลังจากจบการเสวนาก็มีนักดนตรีตัวน้อยขึ้นมาเล่นดนตรีส่งท้ายงานกันอย่างสนุกสนาน
เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่น่ารักอบอุ่นมากๆเลย แล้วยังทำให้ผู้เข้าร่วมมีโอกาสได้ฟังประสบการณ์ดีๆและข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับเพลงเด็กอีกด้วย
แล้วก็ถึงเวลาที่ต้องจบไปแล้วสำหรับกิจกรรมงาน
ครูปิ๋มจะพาเด็กๆมานั่งที่ริมท่าน้ำในตอนเช้าๆ บรรยากาศกำลังร่มรื่น แล้วเล่าความเป็นมาของแม่น้ำท่าจีน รวมถึงวิถีชีวิตของคนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำแห่งนี้เมื่อหลายสิบปีก่อนให้เด็กๆฟัง อย่างการทำของเล่นต่างๆกันเองจากผลลำพู มีเรือขายของ เรือขอทาน หรือฤดูทำน้ำปลา เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นกลิ่นอายของวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ของผู้คนในอดีต ซึ่งเด็กๆในปัจจุบันแทบไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับเรื่องราวและวิถีชีวิตเหล่านี้เลย
เรื่องราวที่พี่ปิ๋มมาเล่าให้เด็กๆฟังอาจทำให้พวกเขามองเห็นความงดงามของวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และมีความผูกพันใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น
หลังจากเปิดตลาดแล้ว หน้าที่ของเราก็เปลี่ยนจากคุณครูเป็นผู้ช่วยและเด็กเสริฟให้กับเด็กๆในทันที(ฮ่าๆๆ) คุณพ่อคุณแม่ที่มารับน้องๆ จะได้รับเงินใบไม้กันคนละ 200 บาท เพื่อนำไปเดินเลือกซื้อของ อุดหนุนคุณพ่อค้าแม่ค้าตัวน้อยได้ตามใจชอบ เป็นกิจกรรมปิดค่ายที่สนุกสนาน เป็นที่ชื่นชอบของทั้งเด็กๆและผู้ปกครองเลยทีเดียว
จากการได้เป็นผู้ที่คอยช่วยดูแลเด็กๆตลอดทั้งค่าย เราคิดว่าค่ายจังหวะชีวิตเป็นค่ายที่เด็กๆจะได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกัน รู้จักช่วยเหลือตนเองและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รวมทั้งได้ฝึกทักษะต่างๆผ่านการเล่นอย่างสร้างสรรค์ นอกจากนี้กิจกรรมในค่ายยังช่วยส่งเสริมให้เด็กๆมีความผูกพันใกล้ชิดและเห็นความสำคัญของธรรมชาติรอบตัวมากขึ้นด้วย นับว่าเป็นกิจกรรมทางเลือกที่ดีที่คุณพ่อคุณแม่จะพาเด็กมาเรียนรู้ สิ่งต่างๆนอกบ้าน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in