**เนื่องจาก minimore มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่นการลดขนาดรูป โฆษณา เราจึงย้ายไปที่ Medium.com สามารถติดตามรีวิวอุปกณ์ศิลปะอื่นๆ ได้ที่ ***
https://medium.com/@A-JU/list/art-review-1596e9aba1bbสวัสดีค่ะ เราชื่อมุกนะ :)
ปกติแล้วเราชอบวาดแนว Urban Sketches ค่ะ แต่ช่วงหลังเลื่อนทวิตแล้วเห็นคนใช้สีชอล์คน้ำมันกันเยอะมาก ๆ ก็เลยลองใช้ดู ตอนนี้ก็เลยหันมาใช้สีชอล์คน้ำมันเป็นหลักแล้วค่ะ ฮ่า ๆ
วันนี้เรามารีวิวสีชอล์คน้ำมันที่เราชอบ เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่เริ่มสนใจในสีชอล์ค จริง ๆ เราเพิ่งเริ่มครั้งแรกเมื่อ 3 เดือนก่อน หากใช้คำผิดหรืออธิบายไม่ถูกหลัก ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะคะ ^^
เขาว่ากันว่าสี Oli Pastel ที่ดีที่สุดในโลกคือสีของ Sennelier ด้วยความที่เนื้อ Creamy ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังใช้ลิปสติก อย่างที่หลาย ๆ คนเคยรีวิว จุดเด่นของยี่ห้อนี้คือ Pigment ของเค้าดีเลยค่ะ เอามาใช้กับงาน impressionists art ได้เพลิน ๆ เลยยยย
ข้อดี
เนื้อสีคุณภาพดี เหมาะสำหรับคนที่ชอบสีแบบนุ่ม ๆ
ใช้กับน้ำมัน Linseed ได้
พิกเมนท์เข้มข้น
เบลนด์ง่าย ใช้สนุก
แพ็คเกจกล่องพรีเมี่ยม แข็งแรง รู้สึกถึงความใส่ใจ
มีสีให้เลือกถึง 120 สี
ไม่มีกลิ่น
ข้อสังเกต
ราคาแพง (มาก) เฉลี่ยแท่งละประมาณ 100+ บาท
เนื้อสีนุ่มมากเวลาจับมืออาจจะเลอะง่าย
ตัวอย่างผลงาน
สี Oil Pastel เกรดอาร์ทตีสแบรนด์เกาหลีที่เป็นที่นิยมอีกยี่ห้อหนึ่งในไทย เป็นแบนยด์ที่ทำสีออกมาได้สวยมากกกกก เนื้อสีมีความ soft ละมุน ไม่แข็งหรือนุ่มมากเกินไป เมื่อเปรียบเทียบความเนียนของเนื้อสี MUNGYO ทำได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับงานละเอียด
ข้อดี
ราคาจับต้องได้ ในราคาสีระดับศิลปิน
ระบายทับแล้วสีติด
เนื้อสีเบลนด์ง่าย ระบายสนุก
สีไม่ค่อยเลอะมือ
มีสีให้เลือกถึง 120 สี
ข้อสังเกต
เปิดกล่องมาครั้งแรกกลิ่นแรงมาก
ราคาอยู่ในระดับกลาง เฉลี่ยแท่งละ 15-20 บาท
ตัวอย่างผลงาน
สี Oil Pastel ราคาถูกจากจีน เนื้อสีมีความเป็นน้ำมันสูง ทางแบรนด์การันตีว่าเป็นสีระดับศิลปิน แต่ส่วนตัวแล้วเราคิดว่าอาจจะไม่ถึงระดับศิลปิน แต่ว่าคุณภาพสูง(มาก) ความนุ่มของสีใกล้เคียงกับ Sennelier
ข้อดี
ราคาถูก เฉลี่ยแท่งละ 12 บาท
เนื้อสีเบลนด์ง่าย ระบายสนุก
มีให้เลือกทั้งสีทั่วไป สีพาสเทล สีเงาสะท้อนแสง (ใช้กับกระดาษสีดำ)
กลิ่นไม่แรง แทบไม่มีกลิ่น
ใช้กับน้ำมัน Linseed ได้ดีมาก
ข้อสังเกต
ในหนึ่งกล่อง (กล่อง 36 สี) จะมีประมาณ 3-5 สี ที่เนื้อจะแข็งกว่ากว่าสีอื่น
เวลาทาทับกันหลายครั้ง บางทีสีจะไม่ติดกระดาษ
เซ็ตสีพาสเทลจะมีความ Soft มากกว่าสีพื้นฐาน
ตัวอย่างผลงาน
เปรียบเทียบความนุ่มของสี
Sennelier
Paul Rubens
gallery by MUNGYO
จากรูปจะเห็นได้ว่า Mungyo ค่อนข้างแห้งกว่าสีอื่นๆ
เปรียบเทียบขนาดจากเล็กไปใหญ่
Sennelier
gallery by MUNGYO
Paul Rubens
ระดับความคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบจากราคา
Paul Rubens
gallery by MUNGYO
Sennelier
Paul Rubens เหมาะสำหรับมือใหม่-มืออาชีพ เพราะมีราคาถูก ขนาดใหญ่กว่ายี่ห้ออื่นและคุณภาพค่อนข้างดี ใช้ระบายพื้นหลังได้แบบไม่กลัวเปลืองเลย และสามารถเอามาทดแทน Sennelier ได้บางสี (เราไม่กล้าเอา Sennelier มาปาดใช้กับเกรียง น้องค่าตัวแรงค่ะ T_T) หากสนใจเอาไปใช้กับ Medium ตัวนี้จะเหมาะที่สุดค่ะ
ใครพอไหวเราแนะนำยี่ห้อนิยม Mungyo ด้วยอีกตัว เพราะคุณภาพดีมากจริง ๆ เป็นสีที่ควบคุมได้ง่ายกว่ายี่ห้ออื่น 48 สีจะเป็นราคาที่คุ้มที่สุด มีสีที่ต้องใช้ครบเลยและราคาเฉลี่ยถูกกว่า 120 สี เพราะว่าไม่ใช่กล่องไม้
ส่วนสีที่เป็นที่หนึ่งสำหรับเราคือ Sennelier เราชอบแบบลื่นปรื้ด สีที่มีความเป็น Creamy เลยเหมาะกับเรามากกว่า จริง ๆ เราชอบทุกแบรนด์เลยค่ะ ฮ่า ๆ แล้วแต่ว่าจะเลือกเอามาใช้กับงานแบบไหน
และสุดท้ายปิดงาน แนะนำ Fixative สเปรย์พ่นหลังงานเสร็จ เป็นสเปรย์ที่ทำให้สามารถเก็บงานไว้ได้นาน กันฝุ่น และที่สำคัญคือกันเลอะค่ะ วิธีฉีดสำหรับ Oil Pastel คือฉีดประมาณ 2-3 รอบ (ถ้าเป็น Soft Pastel ครั้งเดียวก็เอาอยู่) พ่นครั้งแรกให้พ่นแบบกระจายเป็นฝอย อย่าฉีดที่เดียวจะทำให้ทะลุกระดาษและลายไม่สวยค่ะ ครั้งที่สองให้ฉีดไล่ระดับแนวนอน ครั้งที่สามฉีดไล่ระดับแนวตั้ง แต่ละรอบทิ้งห่างประมาณ 10-15 นาที
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in