วันที่สามในโซลของฉัน นาฬิกาในตัวฉันทำหน้าที่ก่อนนาฬิกาที่ฉันตั้งไว้ซะอีก วันนี้ความตั้งใจเดียวของฉันคือ “สวนกระแส” เท้าของฉันระบมจากการไต่เขาเมื่อวาน รองเท้ากัดจนเท้าฉันป่วยเข้าขั้นโคม่า แต่จะให้พักรักษาตัวอยู่บ้านคงเป็นการเสียสติอย่างยิ่ง ฉันเลยตัดสินใจใส่รองเท้าแตะสีส้ม คู่ที่ฉันตั้งใจจะเอาไว้ใส่เวลาเข้าห้องน้ำ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะช่วยชีวิตฉันในวันนี้ เท้าของฉันถลอกขนาดนี้ ฉันคงเดินความเร็วเดียวกับเจ้าบ้านไม่ได้หรอก
ฉันแปะพลาสเตอร์ยาหวังแค่ว่ามันจะช่วยลดอาการโคม่า และย้ายมาห้องพักฟื้นไวๆ ในรถไฟใต้ดินฉันเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่ใส่รองเท้าแตะ ดูไม่จืดเลยฉัน หวังว่าคงไม่โกรธกันใช่ไหม ฉันเปล่าแต่งตัวไม่เคารพกันนะ
อีกสองวันจากนี้ ฉันต้องลุยเดี่ยวเพียงลำพัง เพื่อนฉันมีงานสังสรรค์กับครอบครัว ฉันไม่อยากรบกวนจริงๆฉันรู้สึกอุ่นใจนะที่มีเพื่อนมาร่วมเดินทาง แต่ใจฉันก็รอคอยวันนี้ วันที่ฉันจะได้เที่ยวคนเดียวอย่างเป็นทางการ แถมเป็นประเทศที่ภาษาอังกฤษอาจไม่ช่วยคุณเลยแม้แต่น้อย
วันนี้ของฉันจึงเริ่มต้นช้าๆที่ สวนสาธารณะยออิโด (Yeouidohangang park) ถึงแม้ว่าจะไม่เหลือซากุระไว้ให้ฉันได้ชื่นชม แต่ฉันเชื่อว่าที่นี่ต้องมีอะไรดีๆมาอวดฉันแน่ๆ รถไฟใต้ดินมุ่งหน้าไปยัง สถานียออินารุ (Yeouinaru Subway) ฉันไม่ได้รู้จักย่านนี้ดีนักหรอก รู้แค่ว่า มีสวนสาธารณะริมแม่น้ำฮัน ที่เจ้าบ้านมักจะชวนครอบครัวมาปั่นจักรยาน ออกกำลังกาย หรือไม่ก็พักผ่อนหย่อนใจ ปูเสื่อปิกนิกกันตามอัธยาศัย สิ่งที่ฉันเตรียมไป ไม่ใช่หมวกกันน๊อค หรือเสื่อปูนอนแต่เป็นกล้องถ่ายรูปเหมือนอย่างเคย ร่างกายของฉันป่วยเกินกว่าจะออกกำลังกาย และฉันไม่มีครอบครัวมาปิกนิกด้วยนี่นา
ฉันรู้สึกอิจฉาคนเกาหลีจัง รัฐบาลเกาหลีใต้ไม่ได้อำนวยความสะดวกเฉพาะรถโดยสารและการเดินทาง แต่ยังรวมไปถึงการออกกำลังกายด้วย ฉันเห็นอุปกรณ์ออกกำลังหน้าตาคลับคล้ายคลับคลากับที่ให้บริการอยู่ใน Fitness center ตั้งอยู่ทั่ว แทบจะทุกมุมของกรุงโซล
รัฐบาลที่นี่ไม่ได้ตั้งอกตั้งใจแปรเปลี่ยนคลองเน่าเสียใจกลางเมืองให้เป็นสถานที่พักผ่อนได้เท่านั้นแต่ยังสามารถปรับเปลี่ยนที่ดินริมแม่น้ำให้เป็นสถานที่กระชับความสัมพันธ์และยังกระชับกล้ามเนื้อได้อีกด้วย อากาศในโซลที่ว่าแย่ที่สุดในประเทศ ยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของบ้านฉัน ฉันเอาอาการภูมิแพ้ของฉันเป็นตัววัด
สถานที่โล่งกว้างริมแม่น้ำนี้ใช่ว่าจะให้ประโยชน์เฉพาะสุขภาพกายเท่านั้น แต่ยังเอื้อประโยชน์ให้สุขภาพจิตอีกด้วย หลายครอบครัวพากันมาชุมนุมหากิจกรรมทำร่วมกัน เป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ใช้เงินมากมายในการแลกมันมา ฉันได้แต่ลอบมอง กลุ่มเด็กผู้ชายขว้างลูกเบสบอลไปมา สองพ่อลูกที่ผลัดกันขว้างจานร่อน หมาน้อยที่นอนหลบใต้ร่มไม้อยู่ข้างๆเจ้าของ หรือแม้แต่สองพี่น้องชาย หญิง ที่ถลามาบน Rollerblade ฉันมองตามพลางได้ยินสาวน้อยบ่นใส่พี่ชายว่าให้ช้าลงหน่อย
ฉันเห็น ฉันสัมผัสฉันได้กลิ่นความอบอุ่นส่งมาจากทุกทิศทาง ฉันเก็บรับความรู้สึกเหล่านั้นไว้สถานที่ที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากนักแต่ฉันสามารถถ่ายรูปไว้ได้หลายร้อยรูปรูปที่อาจจะมีแค่ฉันที่เห็นว่ามันสวยก็เป็นได้
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ที่สวนแห่งนี้ยังมีพื้นที่เล็กๆให้จัดแสดงงานศิลป์อีกด้วย
.. สวนที่เป็นมากกว่าสวนแบบนี้ ..
..แดดร้อน ตัวฉันร้อน ตาฉันก็ร้อนไปด้วย นี่รู้สึกว่าฉันจะอิจฉาจริงๆซะด้วยสิ..
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in