เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
THE EXPLORER STORYTHEEXPLORER
สุดท้ายความรักก็บอกเราว่า
  • (1)
    เราอาจเคยตกหลุมรักและหลงรักใครบางคนไปได้เป็นเวลานาน ด้วยความพิศมัยที่ปะปนไปด้วยความสงสัยอันซ่อนเร้นอยู่ภายในหัวใจของตัวเอง ทั้งๆที่บางทีก็อาจจะยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำ ว่าแท้จริงแล้วสิ่งๆนี้จะเรียกว่าความรักได้หรือไม่ หรือเราจะยืนยันว่ามันคือความรักที่แท้จริงได้หรือยัง

    หลากหลายนานาทัศนะที่คลุมเครือทำให้จิตใจข้างในของเราสับสน เกิดเป็นความวกวนที่มีทั้งจริงแท้และหลอกลวงในความรู้สึกที่อยู่ลึกๆ อาจมีใครๆเคยบอกเอาไว้ว่า ถ้ายิ่งขวนขวายเราจึงได้มาเท่านั้น ทว่าวันหนึ่งนั้นเรากลับค้นพบว่า "การได้มา" นั้น กลับทำให้เราสูญเสียอะไรไปมากมายเช่นกัน หากเรากำลังสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปโดยไม่ทันตั้งตัว

    ราวกับบทเพลงรักท้ายรถบรรทุกคันนั้นได้ขับกล่อมให้นัก(บรร)เลงรักอย่างเราต้องยอมศิโรราบ ยอมแพ้ราบคาบต่อความพลิกผันที่ไม่มีวันจบ จนกว่าจะมีใครหมดความอดทนอดกลั้นและละทิ้งความสัมพันธ์ทีสานกันมาเนิ่นนาน หากเรายังมีลูกฮึดลูกสุดท้ายที่จะขอดาหน้าเข้าไปเพียงเพื่อหวังจะได้คำตอบรักกลับมาอย่างที่ตั้งใจ

    อย่าเพิ่งตัดพ้อและสิ้นหวังกับการเริ่มต้นครั้งหนึ่งที่ทำให้ซวนเซ มันเป็นเพียงแรงลมพัดอ่อนๆที่ทำให้เราไขว้เขวจนหลงอยู่ในภวังค์แห่งนี้จนเนิ่นนาน เพียงกลับตัวเปลี่ยนทิศและเข้าใจความหมายของชีวิตที่เรานั้นต่างมีความต้องการที่แตกต่างไป พรุ่งนี้เราจะกลับมาส่งต่อความดีงามในความสัมพันธ์ครั้งใหม่ที่ตัวละครในนิยายรักเรื่องนี้ยังเป็นคนๆเดิม

    (2)

    ระยะฟูมฟักของความรักจักต้องทะนุถนอม ความบอบบางในระยะใกล้ฟักที่สุกงอมนั้นอาจหลุดมือและแตกสลายไปได้โดยง่าย แค่เพียงอารมณ์ชั่ววูบก็อาจทำให้เราออกอาการบันดาลโทสะจนเกิดปัญหาอันวอดวาย หากระยะที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันอันเกินจะคาดเดานี้ จำเป็นต้องอาศัยความอ่อนโยนของเราทั้งสองช่วยกันประคับประคองให้ผ่านไปได้อย่างนิ่มนวล

    จนกว่าความรักจะฟักอาจจะต้องใช้เวลาเป็นแรมปี เราต่างต้องผ่านความจู้จี้ขี้จุกจิกของกันและกันอย่างไม่ขาดสาย บางเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ถูกขยายรวมกับข้อกังหาในอดีต ให้กลับกลายเป็นคำครหาว่าเรานั้นเปลี่ยนไปจนไม่เหมือนตอนแรกเริ่มหนำซ้ำยังแฝงไปด้วยความปลิ้นปล้อนที่ไม่ทิ้งลาย เหตุเกิดจากความไม่เข้าใจในวันหนึ่ง อาจทำให้ความสัมพัธ์อันลึกซึ้งนั้นจบลงไปอย่างถาวร

    เรารู้สึกเหมือนได้ระบาย ก็เมื่อตอนกดไลค์ให้กับคำคมเจ็บๆในวันที่ใจก็เจ็บเช่นกัน สังคมออนไลน์ดูเหมือนจะเข้าใจหัวอกหัวใจของเรามากกว่าคนที่เราคาดหวังมานมนาน ประชดประชันขันแข่งให้คนทั้งโลกได้เห็น คล้ายจะทำให้พื้นที่ความกดดันของเราค่อยๆคลี่คลาย ทว่าสุดท้ายเราจะค้นพบความจริงที่ว่า ยิ่งเราเกลือกกลิ้งกับคำคมเจ็บๆนั้นมากสักเท่าไร มันกลับไม่เคยทำให้ความรู้สึกที่บอบช้ำนั้นดีขึ้นมาเลย

    ไม่ว่าจะดีจะร้ายเราก็จะกลับมาฟูมฟักสิ่งที่ยังหลงเหลือ ค่อยๆพอกพูนและจุนเจือสิ่งดีงามระหว่างกันที่ยังไม่จางหาย ระบายสีสันแต่งแต้มคอยสร้างสรรค์ความเข้าใจที่มีให้แก่กัน เราต่างใช้ความพลิกผันในค่ำคืนที่แสนโหดร้ายนั้น มาผลักดันให้เกิดเป็นความมหัศจรรย์ในเช้าวันธรรมดาอีกครั้งด้วยการให้อภัยแก่กัน

    (3)

    เราทั้งสองต่างผ่านเรื่องดีเรื่องร้ายมาอย่างนับไม่หวาดไม่ไหว แม้ระยะการเดินทางยังคงอีกไกลแต่เรามั่นใจว่าจักต้องไปให้ถึง หากบางทางลาดจะมีลูกรังหรือบางทางชันจะยังดูยากเย็นเกินกว่าจะก้าวต่อไป เมื่อสี่เท้าและนักปราชญ์จะรู้พลั้งได้ มนุษย์สองเท้าอย่างเราก็จำต้องช่วยกันหยัดยืนขึ้นมาให้ได้ บนภาคพื้นปฐพีที่ธรณีแห่งนี้เราจะครอง

    เราต่างตกลงกันว่าจะใช้ชีวิตให้ดีที่สุดทุกๆวัน ความรู้สึกดีๆที่สรรค์สร้างให้แก่กันนั้นจะถูกหยิบยกมาพูดกันอย่างไม่ขาดสาย ความผิดพลาดในบางครั้งเราจะถือเสียว่าเป็นเรื่องตลกที่คอยสอนใจ เราจักหัวเราะให้กับสิ่งที่ดูไร้สาระในเวลานั้น แล้วถมทับมันให้หายไปด้วยความเข้าใจอันแสนดีของเรา

    เราเลี่ยงคำพูดอันเลวร้ายแล้วใช้ภาษาดอกไม้ในการสื่อสาร ความสวยงามของ ดอกจำปี ดอกจำปา อีกทั้งมะลิซ้อน ล้วนรัญจวนชวนฝันถึงกว่าคำพูดสบถพกลมเป็นไหนๆ พูดจาพาทีอย่างจริงใจและจริงแท้ แถมยังส่งมอบความซื่อสัตย์ให้ต่อกัน เมื่อนั้น ความร้ายจักกลับกลายเป็นความรัก และคนรู้จักจะกลายเป็นคนรู้ใจ ประสานสายสัมพันธ์ของเราให้แน่นแฟ้นยิ่งกว่าเดิม

    จนกว่าจะผ่านหลายฤดูแห่งรักจนเข้าใจกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกๆระยะย่อมมีความเปลี่ยนผันอันสืบเนื่องมาจากตัวของเราสองคนทั้งสิ้น เราเลือกที่จะปรับเปลี่ยนเพื่อลดหย่อนผ่อนปรนจนเข้าใจกัน หรือจะหยิ่งทรนงในศักดิ์ของตนโดยไม่สนใจใคร ทุกๆการกระทำนั้นล้วนส่งผลให้เกิดเป็นระยะทางสู่จุดหมายใหม่ ที่เราเลือกที่จะสานต่อหรือออกเดินทางไปเพียงลำพัง

    จวบจนวันหนึ่งความรักก็บอกเราว่า "ไม่ว่าจะเก่งกาจมาจากไหน มนุษย์เราก็ไม่มีวันที่จะเข้าใจความรักของตัวเองอย่างลึกซึ้งได้" เราต่างทำได้เพียงปรับเปลี่ยน เข้าใจ อดทน รอคอย ทบทวน และยอมรับ ในทุกๆความเปลี่ยนผันของกันและกัน ความรักอาจเหมือนต้นไม้ที่เราสองคนต้องช่วยกันอุ้มชูและดูแลในยามที่สภาพอากาศแปรปรวนได้ในทุกๆวัน

    รักอาจเป็นบทเรียนบทหนึ่งที่ไม่มีสูตรสำเร็จและไม่มีกลเม็ดวิชาให้ศึกษาได้ตามตำรา บทสรุปของความรักจะเกิดขึ้นจากการลากเส้นของสองมือที่ประสานและไม่ปล่อยจากกันไปไหน เราจักเรียนรู้และเริ่มเขียนบทความแห่งรักกันด้วยประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป

    ฉันและเธอจะย่ำเดินไปบนเส้นสายที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์จนเติบใหญ่ บนหน้ากระดาษที่เว้นพื้นที่อันมากมายนี้ให้แก่เรา


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in