กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องชาวไทยทุกท่าน
ก่อนอื่นเลยก็ต้องขออนุญาตมาให้คำแนะนำกับผู้ที่สนใจในการฝึกงานกับสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อัพเดตล่าสุดปี 2023 เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินการตั้งแต่เตรียมเอกสาร เข้าสนามบิน ยื่นเรซูเม่ ตลอดจนไปถึงการเริ่มทำงานในวันแรก! โดยคาดหวังว่าเรื่องราวนี้จะช่วยให้ท่านลดความประหม่าได้บ้าง ไม่มากก็น้อย ทั้งนี้หากวัน
ทั้งนี้ เรื่องราวนี้เป็นเป็นการเขียนครั้งแรก หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องการขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลตั้งแต่ 09/22 ตัวผู้ฝึกนั้นฝึกเสร็จ 05/23
ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
เอกสารที่ต้องใช้ยื่นนะครับ
- Resume: ใส่ข้อมูลให้เรียบร้อยนะครับ ตามแบบฉบับเรซูเม่ทั่วไปเลย พวกชื่ออีเมล์เบอร์โทรนี้อย่าให้พลาดเลยนะครับ แนะนำว่าเป็นภาษาอังกฤษจะดีกว่า
- Transcript หรือใบแสดงผลการเรียน
ส่วนตัวไม่มั่นใจว่าได้ยื่น Transcript ไปไหมเพราะว่าก็นานมากแล้วล่ะ ซึ่งเตรียมเผื่อไว้ก็ดีครับ แนะนำให้ทำการใส่ซองเอกสารพร้อมระบุช่วงเวลาที่จะฝึกให้เห็นเด่นชัดเลยนะ แนะนำให้ยื่นล่วงหน้าสัก 3-4 เดือนก่อนฝึกนะครับ จะได้ไม่รอนานจนเกินไป แล้วก็ไม่ได้กระชั้นชิดเกินไปด้วย
*ณ เวลาของผมหน่วยที่จะฝึกได้มีแค่ Ground services นะครับ ไม่มี Lounge แต่อย่างใด
การเดินทางมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ก็จะมีหลากหลายวิธีการเข้าถึงสนามบินอยู่นะครับ ไม่ว่าจะรถตู้รถเมล์ หรือรถไฟ Airport link
คลิกที่นี่้เพื่อดูวิธีการเดินทางได้นะครับ
การเข้ายื่นเอกสารกับสายการบินกาตาร์แอร์เวย์
- เมื่อมาถึงสนามบินแล้วให้ไปยังชั้น 4 บริเวณประตู 8-9 ได้เลยนะครับ หรือสังเกตอักษรภาษาอังกฤษได้ จะอยู่บริเวณ Row S ครับ
- เราสามารถเดินผ่านเคาน์เตอร์เช็คอินไปด้านในได้เลยนะครับ หลังยักษ์ข้างซุ้มกสิกร (ถ้ายังมีนะ) ให้เราเดินผ่านเข้าไปขึ้นลิฟต์ทางขวามือได้เลย เพราะลิฟต์ตัวนี้จะให้บริการชั้น 4 และชั้น 5 เท่านั้นอยู่แล้วครับ
- ให้เรากดลิฟต์ขึ้นมาไปที่ชั้น 5 ออกลิฟต์มาเบี่ยงขวาได้เลยครับ จะเห็นหลากหลายสายการบินเลย
- เมื่อเดินตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอกับเป้าหมายของเรา สายการบิน Qatar นั่นเอง
(โดยทั่วไปแล้วประตูจะสามารถเปิดได้ตลอด หากเมื่อไหร่ที่ไม่มีคนอยู่ก็อาจจะต้องรอสักหน่อยนะครับ เพราะก็จะมีบางช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ยุ่งมากๆเหมือนกัน) - เมื่อเข้าไปแล้วอาจจะส่งเสียง "ขออนุญาต" สักหน่อยเพื่อให้พี่ๆเขารู้ตัวสักนิด เดินเข้ามามายังโต๊ะขวามือที่ใกล้ที่สุดแจ้งพี่เขาว่า "มายื่นเรซูเม่ฝึกงานครับ/ค่ะ"
- พี่เขาอาจจะจัดการเองหรือให้เจ้าหน้าที่คนอื่นจัดการให้ ก็รอสักหน่อยนะครับ
โดยทั่วไปแล้วเมื่อยื่นเสร็จแล้วก็สามารถกลับบ้านรอเมล์ได้เลยนะครับ ระยะเวลานั้นแล้วแต่คนแล้วแต่ช่วงเลยครับ อาจจะ 2-4 สัปดาห์ ส่วนตัวผมรอ 4 ถึง 5 เดือนเลย เพราะผมยื่นล่วงหน้าเกือบปีเลยน่ะแหะๆ หากรอ 1-2 เดือนแล้วยังไม่มีเมล์อะไรมา ถ้าเป็นไปได้
อยากให้มาติดต่อที่ออฟฟิศด้วยตัวเองนะ เพราะโดยทั่วไปแล้วสายการบินจะไม่มีเมลล์หรือเบอร์โทรติดต่อสำหรับเรื่องการขอฝึกงานน่ะครับ
ตัวอย่างอีเมล์ตอบรับ
เมื่อได้รับอีเมล์แล้วก็อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสอบนะครับบบบ
วันนัดสัมภาษณ์
- อย่าลืมแต่งกายให้เนรียบร้อยนะครับ มีสูทใส่สูท มีผมเซ็ทผม มีเสื้อรีดเสื้อกันเลยทีเดียว อย่างสถาบันของผมเองมีเครื่องแบบให้อยู่แล้วก็จะง่ายหน่อย สำหรับใครที่ยังไม่มีสูทก็แนะนำให้หามาเตรียมไว้นะครับ เพราะตอนฝึกงานจริงเราก็ต้องใช้อยู่ดี
- การแต่งหน้าผมไม่มีความเห็นในเรื่องนี้นะครับ คงเพราะว่าผมไม่ได้แต่งอะไรไปน่ะ 55555 สำหรับท่านหญิงอาจจะพิจารณาแต่งตามความเหมาะสมได้เลยครับ
- อย่าลืมทานอะไรก่อนถึงเวลานะครับ เดี๋ยวจะหิวเอา
- แล้วก็อย่าลืมไปก่อนเวลานัดด้วยล่ะ
- เมื่อมาถึงแล้วก็แจ้งพี่สักหน่อยว่ามาสัมภาษณ์ฝึกงาน จากนั้นก็นั่งรอบริเวณด้านหน้าไปก่อน ทำใจให้สบายๆนะ อาจจะเจอเพื่อนต่างสถาบันมาสัมฯด้วยกัน สร้างบรรยากาศสบายด้วยการทำความรู้จักกันไว้ก็ดีนะครับ เขาอาจจะเป็นเพื่อนซี้ของคุณตอนฝึกงานก็ได้
- เมื่อถึงเวลาอันควรพี่จะให้เราเข้าไปนั่งในห้องพร้อมเพื่อนๆ นั่งรอสักพักจะมีพี่มายื่นข้อสอบให้นะครับ
สอบสัมภาษณ์
- ข้อเขียน (Essay): คุณมีเวลา 30-45 นาที แล้วแต่ว่า ณ เวลานั้นถูกกำหนดเวลาไว้เท่าไหร่ แต่ละคนก็จะได้หัวข้อแตกต่างกันไปนะครับ ให้เราเขียนไปอย่างเต็มที่และสุดความสามารถไปเลย ส่วนตัวผมได้เรื่อง Benefits of Frequent Flyer to airline ก็เลยเกริ่นไปก่อนเลยครับว่ามันคืออะไร ก่อนที่จะเข้าว่ามันมีประโยชน์ต่อสายการบินยังไง โดยทั่วไปแล้วควรจะเขียน 200-300 คำ แต่เพื่อความชัวร์ก็หนึ่งหน้ากระดาษไปเลยละกัน 5555555 (ทั้งนี้เรื่องที่เขียนต้องตรงกับหัวข้อ ไม่เวิ่นเว้อหรือออกทะเลจนเกินไปด้วยนะครับ) เมื่อเขียนเสร็จแล้วพี่เขาจะมาเก็บข้อสอบ และอาจจะให้เรารอนอกหรือในห้องเพื่อรอประกาศผลและสัมภาษณ์ต่อไปครับ
- สัมภาษณ์ (Interview): อาจจะเป็นการสัมฯกลุ่มหรือสัมฯเดี่ยวก็ได้นะครับ แล้วแต่ครั้งเลย ส่วนตัวโดนสัมฯเดี่ยวก็จะเกร็งๆหน่อย เรื่องที่สัมฯก็จะเป็นเรื่องทั่วไปง่ายๆครับ
- เกี่ยวกับตัวเราในเรซูเม่
- เกี่ยวกับสายการบิน
- เกี่ยวกับข้อสอบที่ทำไป
- เรื่องทั่วไป
*แนะนำว่าพูดให้เคลีย ให้ชัดเจนต่อคำถามที่ได้มา ไม่จำเป็นต้องพยายามฝืนพูดเยอะจนเกินไปจนจับใจความไม่ได้หรือไม่น่าสนใจไปซะก่อน*
เมื่อสัมฯเสร็จแล้วก็สามารถกลับบ้านรออีเมล์ได้เลยครับผม อาจจะใช้เวลาอีกสักหน่อย ส่วนตัวรอไปเดือนนึงครับ
ตัวอย่างอีเมล์ประกาศผล
มาถึงจุดนี้ก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับสำหรับท่านที่ได้ไปต่อ อย่าลืมนำจดหมายจากมหาลัยพร้อมระบุช่วงเวลาที่ฝึกอย่างชัดเจนมายื่นเพื่อยืนยันการฝึกงานอีกครั้งด้วยนะ
สำหรับท่านใดที่อาจจะยังไม่ใช่จังหวะของเราก็ไม่เป็นไรนะครับ อย่าเพิ่งเสียใจไป ยังมีอีกหลายสายการบินที่รอคนเก่งๆอย่างคุณได้ไปลงงานจริง การที่คุณไม่ได้ไม่ใช่แปลว่าคุณไม่เก่งพอหรือไม่ดีพอ แค่จังหวะของคุณเวลานี้เหมาะสมกับสายการบินอื่นมากกว่าเท่านั้นเอง เป็นกำลังใจให้มีแรงสู้ต่อไปนะครับคนเก่ง
ส่วนหลังจากนี้ต้องทำยังไง โปรดติดตามตอนต่อไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in