ลำคอแห้งผากไปหมด ขวดแก้วสีเข้มพวกนั้นเหลือแต่ความว่างเปล่า
แต่รสขมที่ปลายลิ้นและลำคอร้อนผ่าวกลับทำให้กระหาย
มากขึ้น
มากขึ้นอีก มากกว่านี้
.
.
.
.
.
.
.
.
แอลกอฮอร์?
เปล่า
รสชาติของคุณต่างหาก
x
First Drink เหมือนเป็นธรรมเนียมอย่างหนึ่งของคณะสถาปัตย์เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เด็กปี1 จะได้เจอสายรหัส และรุ่นพี่ชั้นปีต่างๆ เหล่าเด็กน้อยจึงตื่นเต้นเป็นพิเศษ พวกเขาฝันหวานถึงแอลกอฮอร์ อาหาร เกมในวงเหล้า แน่นอนทุกอย่างนั้นฟรีทั้งหมด(สำหรับเด็กปีหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่สำหรับรุ่นพี่)
ที่สำคัญที่สุดคือรุ่นพี่ โดยเฉพาะตั้งแต่ปี3ขึ้นไป พวกเขาอาจจะได้เจอแค่ในงานนี้เท่านั้นก่อนที่งานทั้งหลายในคณะจะมาพรากเวลาว่างออกจากชีวิตนักศึกษาอาจะตลอดทั้งปีหรือตลอดจนจบชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย นั่นเป็นเหตุผลที่เหล่าเด็กน้อยอยากจะมางานนี้นักหนา (ยกเว้นบางคนที่ไม่รับรุ่น)
เมื่อยไม่ได้แคร์มากนัก
เดี๋ยวก็เจอกันที่คณะ มั้งนะ? เมื่อยคิดว่า….
แต่มันก็ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับเมื่อยอยู่ดี
และเมื่อยก็ได้พบว่า คณะสถาปัตยกรรมจัดเฟิร์สดริงค์พร้อมกับคณะบริหารพอดี ยิ่งไปกว่านั้นยังจัดร้านข้างๆกันเสียด้วย
………………
แต่เพราะร้านอยู่ข้างๆนั่นล่ะ ตอนนี้โซ่เลยนั่งอยู่ข้างเมื่อยเรียบร้อย
x
ธีมเฟิร์สดริงค์ปีนี้ของ ‘ถาปัตย์คือ Hawaii party ดังนั้นคนส่วนใหญ่ในจึงใส่เชิ้ตฮาวายมาซะส่วนใหญ่ เมื่อยเองก็ใส่มาเหมือนกัน เสื้อฮาวายสีแดงสวมทับเสื้อยืดสีขาวเรียบๆ กางเกงขาเดฟสีดำที่ขาดตรงหัวเข่า กำไลหนังที่ข้อมือกับต่างหูเงิน ธรรมดา เรียบง่ายแต่ดูดีมาก ทำให้คืนนี้เมื่อยดูมีประกายบางอย่างที่สะดุดตาและดึงดูดอย่างน่าประหลายภายใต้ภาพลักษณ์แมวเซานั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโซ่
แต่กลับกัน ธีมของบริหารคือ Black&White casual look ขาวและดำตัดกันแต่มีความเรียบหรูสไตล์ของเด็กบริหาร ธีมนี้ถูกสร้างมาเพื่อโซ่อย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้โซ่จะใส่แค่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับสูทสีดำเรียบ ผมที่ถูกจัดทรงอย่างลวกๆ ทุกอย่างลงตัวทำให้มาดคุณชายดูมีสง่ามากขึ้นไป
เมื่อยถอนหายใจ เขารู้ว่ายังไงก็ห้ามเด็กดื้อของตัวเองไม่ให้มาหาไม่ได้ ในขณะเดียวกันโซ่ก็ถอนหายใจเช่นกัน โซ่ชอบชุดที่เมื่อยใส่ มันทำให้โซ่ใจเต้น แต่มันก็ทำให้เมื่อยดูดีมากๆจนโซ่หวงไม่อยากให้ใครเห็น ดังนั้นถึงได้มานั่งเฝ้าแบบนี้ เป็นไม้กันหมา ไม่ให้ใครได้มายุ่งกับเมื่อยของตัวเอง
แต่ดูเหมือนว่าคนสองคนจะไม่รู้ว่า ถ้าพวกเขานั่งด้วยกันนั่นล่ะ ยิ่งดูดโดดเด่นมากกว่าเดิม
เพียงแต่พวกเขาไม่รู้ เพราะเอาแต่คิดถึงเรื่องของอีกฝ่าย
‘ หวง ’
“เอ่อ….พี่โซ่ดื่มเหล้าไหมครับ? ” เด็กน้อยปี1ในโต๊ะของเมื่อยเอ่ยถามตาใส ก่อนที่บรรยากาศในโต๊ะจะกระอั่กกระอ่วนไปมากกว่านี้ โซ่ปรายตามองเด็กคนนั้น สีหน้าเย็นชายิ่งกว่าอุณหภูมิติดลบที่ขั้วโลกเหนือแต่ก็พยักหน้ารับ มือเรียวรับแก้วเหล้าที่ชงแล้วมา ก่อนยื่นแก้วไปชนกับผู้หญิงคนนึงที่กำลังจะชนแก้วกับเมื่อยอย่างพอดิบพอดี
x
“ฮะๆ”
แคทนิปคือกัญชาแมวที่เอาไว้มอมเมาเจ้าสิ่งมีชีวิตหน้าขนพวกนั้น
“เอ้า! ชนอีก ชนสิๆๆๆๆ….”
แอลกอฮอร์สีอำพันพวกนี้ก็คงไม่ต่างจากแคทนิปสำหรับโซ่สักเท่าไหร่
เจ้าเหมียวขี้อ้อนของเมื่อย
x
เมื่อยถอนหายใจออกมาหลังจากนั่งเฝ้าโซ่ไปให้ไปไหนไกลสายตามาได้สักระยะนึง ปกติโซ่ค่อนข้างจะคอแข็งพอสมควร แต่วันนี้โซ่เอาแต่ชนแก้วกับคนที่เข้ามาหาเมื่อยแทนไม่หยุดหย่อนนั่นล่ะ ตอนนี้อาการที่แสดงออกจะเรียกได้ว่า ‘เมา’ อย่างเต็มที่
โซ่เมาสังเกตได้ไม่ยาก หากอีกฝ่ายเริ่มหัวเราะ อารมณ์ดี ยิ้มง่าย เล่นมุกลุงตลกฝืดๆหรือเริ่มทำตัวน่ารักขึ้นมา นั่นล่ะคือสัญญาณที่บ่งบอกว่าโซ่เมาแล้ว
เมื่อยยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นดื่มอีกอึก สายตายังไม่ยอมละไปจากคนเมาช่างจ้อข้างตัว แม้ท่าทีของเมื่อยจะดูสงบนิ่งมากแค่ไหน แต่โซ่ที่เริ่มดูน่ารักและยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆก็เป็นตัวกระตุ้นให้พายุเริ่มก่อตัว
และเส้นความอดทนของเมื่อยก็ขาดลงไปเช่นกันเมื่อ
“กูว่านะ”
“โซ่แม่งน่ารักว่ะ”
“โซ่ กลับ”
เมื่อยพูดกับคนข้างตัว โซ่หันมาทำหน้างอปากยู่เหมือนเด็กที่ถูกขัดใจ
“ไม่เอา ไม่กลับ”
“งั้นเรากลับนะ?”
“เมื่อยจะทิ้งเราเหรอ?”
“ใจร้ายอ่ะ”
“ไม่ใจดีกับเด็กดื้อไง”
“เอาไง จะกลับไหม?
เด็กดื้อเอาแต่ใจซบหน้าลงกับไหล่คนตัวเล็กกว่า น้ำเสียงออดอ้อนถูกกล่าวขึ้นข้างใบหูขาวๆของเมื่อย นัยน์ตากลมช้อนมองเสี้ยวใบหน้าขาวไปด้วย
“อยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอ”
“นะๆ อยู่กับโซ่อีกแปปนะ โซ่อยากสนุกต่อ”
“นะครับ แล้วโซ่จะตามใจเมื่อยทุกอย่างเลย”
“ทุกอย่างเลยใช่ไหม?”
เมื่อยหันหน้าเข้าไปใกล้โซ่มากขึ้น เสียงแหบพร่านั่นแฝงนัยบางอย่างไว้ในน้ำเสียงเนิบนาบ
“อื้ม”
“จูบเราตรงนี้”
“ตอนนี้ ตรงนี้ ”
คนเมาช้อนมองด้วยนัยน์ตาแฝงไปด้วยคำถาม ก่อนที่คิ้วเรียวจะขมวดกันมุ่นด้วยสีหน้าสงสัย
“ทำไมต้องตอนนี้อ่ะ”
“เมื่อยแกล้งเรารึเปล่า?”
“ ไหนว่าจะตามใจเราไงครับ”
“ ไม่ทำก็ได้นะ”
“ แต่เราจะกลับห้อง ”
“เราไม่ได้บอกว่าจะไม่ทำนี่นา”
“เราอยากทำตอนอยู่แค่กับเมื่อยสองคนนี่นา”
“อ่า ช่างเถอะ" ว่าจบ โซ่ขยับใบหน้าไปใกล้ๆ ริมฝีปากอิ่มทาบทับลงบนริมฝีปากเรียวของเมื่อยเบาๆ เป็นการจุ๊บแบบเด็กๆมากกว่าจูบอย่างที่เมื่อยสั่ง
แต่มันก็ไม่แย่
เพราะเมื่อยแค่อยากให้เห็นเท่านั้น
“เราว่า เราชอบให้เมื่อยจูบมากกว่าอ่ะ”เด็กขี้อ้อนยังไงก็คือเด็กขี้อ้อนถึงจะเมาก็ตาม เมื่อยอารมณ์ดีขึ้นเมื่อได้รับสัมผัสนุ่มๆจากริมฝีปากโซ่ ดังนั้นเมื่อยก็เลยให้รางวัลเด็กดีกลับด้วยการก้มลงไปกดจูบเบาๆที่ริมฝีปากนั้น ฟันคมแอบขบริมฝีปากล่างของเด็กอ้อนขี้เมานิดหน่อย โซ่ประท้วงเบาๆแต่ก็ยิ้มหวาน
“อย่ากัดสิ”
“รอเราก่อนนะครับเมื่อย”
“อืม งั้นโซ่ไปสนุกเถอะ เดี๋ยวเรารอ”
ทำอะไรได้ล่ะ ก็ต้องตามใจนี่นะ
x
“กลับหอกันเถอะเนอะ”
“เห็นไหม เราเป็นเด็กดีด้วย”
เด็กดีกลับมา ยิ้มกว้างจนตาหยี น่าเอ็นดูเสมอในสายตาของเมื่อย
“ ครับ โซ่เป็นเด็กดี”
“เด็กดีของใครนะ”
“ของเมื่อย”
“ของเมื่อยคนเดียว”
“ไม่มีรางวัลให้เด็กดีเหรอ?”
เมาแล้วเลยกล้าพูด ปกติไม่พูดหรอก ขี้อายจะตายแต่ก็แค่กับเมื่อยเท่านั้นล่ะ
“เอาไว้กลับไปเอารางวัลที่ห้องนะ…”
ขี้อ้อนไง
เพราะแบบนี้เลยทั้งชอบและไม่ชอบ
พากลับห้องแล้ว จะให้รางวัลเด็กดี
x
“เมื่อย รางวัลล่ะ”
พอถึงห้องเด็กน้อยก็ถามหารางวัลจากเมื่อยเป็นเด็ก ยืนกอดอกทำแก้มป่องเป็นเด็กๆ
ฤทธิ์แอลกอฮอร์ทำให้คนน่ารักเพิ่มขึ้นอีกราวๆ80%
ได้ ถ้าจะน่ารักขนาดนี้
เมื่อยคิดในใจและยิ้ม ขยับก้าวเข้าไปใกล้โซ่ขึ้นอีกสักนิด แขนขยับสวมกอดรั้งอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ แขนเรียวของโซ่ก็วาดกอดรอบลำคอของเมื่อยตอบเช่นกัน อุณหภูมิร่างกายถ่ายทอดไออุ่นให้แก่กัน ท่ามกลางความเงียบที่เหลือแต่เสียงลมหายใจที่ผสมปะปนกันเพราะช่องว่างระหว่างกันนั้นเหลือน้อยลง
“ แล้วเด็กดีอยากได้อะไรเป็นรางวัลครับ?”
“ เราให้ได้หมดเลย”
โซ่มองช้อนสบสายตา ไฟสีนวลสลัวในห้องแม้จะทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆได้ไม่ชัด แต่นัยน์ตาทอประกายสื่อความบางอย่างชัดเจน
แววตาที่เป็นประกายชัดว่าต้องการอะไร
แค่เมื่อยจะเข้าใจรึเปล่าก็เท่านั้นเอง
“ถ้าเราอยากได้เมื่อย”
“เมื่อยจะให้เราไหม?”
เมื่อยสบสายตานั้น เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยอย่างแปลกใจกับคนใจกล้าในอ้อมแขน ปกติไม่เห็นจะกล้าพูดอะไรแบบนี้เลยสักนิด
“ได้สิ”
“แต่ว่ายังไม่ใช่ตอนนี้เนอะ”
“ทำไมล่ะ”
“แล้วตอนไหนเราถึงจะได้”
คนเมาหน้างอเปะปากใส่ เมื่อยหัวเราะเบาๆ ใช้ริมฝีปากของตัวเองเอ็นดูโซ่ที่หน้าผาก ปลายจมูกรั้นๆ จบลงที่กลีบปากอิ่มนุ่มนิ่ม
เด็กน้อยของเมื่อย
“ฮื่อ”
ไม่เห็นจะเข้าใจเลย เมื่อยพูดอะไรเข้าใจยากอีกแล้ว
แต่ช่างมันเถอะ
ขอแค่ความรู้สึกร้อนๆที่ปากไม่หายไปก็พอ
โซ่คิด เสียงครางในเล็ดลอดออกมาแผ่วเบาแต่มากพอที่จะได้ยินเสียงพอใจนั้นในระยะที่ริมฝีปากแนบชิดกัน เด็กน้อยรั้งคออีกฝ่ายในขณะที่ทิ้งน้ำหนักลง แผ่นหลังกว้างสัมผัสกับเตียงนุ่มและจมลงไปเมื่อลำตัวของเมื่อยทาบทับลงมา ริมฝีปากเม้มกลีบปากของอีกคนอย่างเอาแต่ใจ อ้อนขออีกนิด เพราะเด็กน้อยโลภเกินกว่าจะพอแค่นี้ เมื่อยป้อนจูบหนักลงไป ย้ำลงไปอีก มอบความอบอุ่นและดุดัน ปลายลิ้นกวาดชิมรสภายใน เมื่อยรู้ว่าเด็กน้อยของตนเองน่ะโลภมาก ไม่พอง่ายๆ แต่เมื่อยเองก็มีมากพอให้โซ่ตักตวงอย่างไม่รู้จักหมดเช่นกัน
ริมฝีปากของโซ่ที่ผละออกมาคลอเคลียเมื่อเจ้าตัวหายใจไม่ทัน ใจเต้นระรัวเพราะความสุขที่มันมากล้น กระซิบเรียกชื่อเมื่อยด้วยเสียงพร่ายามริมฝีปากแนบชิดกัน ลิ้นเลียกลีบปากเรียวของเมื่อย ขบเม้มเบาๆก่อนสอดลิ้นเข้าไปอีกครั้งเพื่อตักตวงรสชาติ เด็กเอาแต่ใจที่เอาแต่อ้อนจะขอเพิ่ม
โซ่ชอบสัมผัสทุกอย่างที่เมื่อยมอบให้ แม้จะตามไม่ทัน แต่ก็ชอบมันมาก ปลายลิ้นกระหวัดตักตวงอย่างไม่รู้จักพอ จูบย้ำซ้ำๆอยู่แบบนั้นจนเผลอกัดปากเมื่อยไปตอนไหนไม่รู้
เมื่อยชอบ
เสียงหายใจใกล้ๆ เสียงน้ำลายเฉอะแฉะ เสียงหัวใจของโซ่
เมื่อยจูบย้ำลงไปอีก มือข้างนึงที่เคยประคองแผ่นหลังค่อยย้ายลงมาก่อนสอดเข้าใต้ชายเสื้อ บีบคั้นที่ข้างเอว เอวของโซ่เกร็งขึ้นจนแผ่นหลังลอยจากเตียง สัมผัสของเมื่อยทำให้โซ่รู้สึกร้อน ลมหายใจเริ่มติดขัดมากขึ้นทุกที ความรู้สึกที่ล่องลอยจนรู้สึกเบาหวิวเหมือนขนนกแต่ความอึดอัดที่เริ่มก่อตัวในช่องท้องก็เริ่มมากตามเช่นกัน
สัมผัสที่ตอบสนองกันระหว่างร่างสองร่างกระตุ้นให้ระดับความรู้สึกให้มันมากขึ้น มากขึ้น
จนกระทั่งเมื่อใกล้จะแตะเพดานในอีกเสี้ยววิ เมื่อยก็ถอนตัวออกมา
“เด็กดี... ขอรางวัลมากไปแล้วรู้ไหม”
เมื่อยหายใจถี่นิดๆ สบสายตากับโซ่ที่ปรือตามองด้วยนัยน์ตาฉ่ำน้ำคู่นั้น หอบหายใจหนักนิดๆ ใบหน้าแดงก่ำและหยาดเหงื่อที่ผุดพรายเพราะเคลิ้มไปกับสัมผัสที่นำไปของคนใจร้ายที่หยุดลงกะทันหัน โซ่กระซิบเสียงพร่า
“............ไม่รู้”
ไม่รู้จริงๆ ก็แค่ชอบที่เมื่อยทำแบบนี้กับตัวเอง
ไม่อยากให้หยุดเสียด้วยซ้ำ
เมื่อยเองก็ไม่ได้อยากจะหยุดเช่นกัน แต่ก็เอาเถอะ ก่อนที่จะหยุดไม่ได้
“ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเข้านอนกันนะครับ”
กระซิบอย่างนุ่มนวลกล่อม ปลายนิ้วสากลากเกลี่ยริมฝีปากช้ำ ดูเหมือนออกสีแดงสดขึ้นอีกนิดของโซ่ มองนัยน์ตากลมคู่นั้นที่ยังส่งสายตาออดอ้อนอย่างเอ็นดูหนักนา เด็กน้อยพยักหน้าหงึกแม้จะหน้างอ
“อาบก็ได้ ”
“แต่คราวหน้าต้องให้เราจริงๆนะ”
โซ่จุ๊บเร็วๆที่ริมฝีปากของเมื่อย หัวเราะตาหยีอย่างติดซุกซนและหนีออกจากอ้อมแขนของเมื่อยไปทันที เมื่อยมองตามแผ่นหลังกว้างที่หายเข้าไปในห้องน้ำ ‘ซน’ เมื่อยคิดพลางยิ้มกับตัวเอง จัดการย้ายตัวเองมายืนที่พื้นและเริ่มเก็บห้องสักนิด ก่อนเตรียมชุดนอนที่โซ่ชอบใส่ประจำไว้ให้รอ
.
.
.
แผ่นหลังเปลือยเปล่าของโซ่พิงกับอาบน้ำ เปลือกตาหลับลงดื่มดำกับอุณหภูมิน้ำร้อนที่พอเหมาะแม้จะทำให้ผิวขาวเริ่มขี้นสีชมพูก็ตาม ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยริมฝีปากแดงสดยามนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ รสจูบดุดันแต่อบอุ่นละมุนนุ่มที่เมื่อยมอบให้ อยากลิ้มรสมันอีก ใช่ โซ่ติดใจจูบของเมื่อย แต่สายตาที่สื่อประกายบางอย่างของเมื่อย และประโยคดุดันของเมื่อยทำให้โซ่อดที่จะใจเต้นแรงไม่ได้
‘ เด็กดี... ขอรางวัลมากไปแล้วรู้ไหม ’
ถ้าเป็นเด็กดีกว่านี้ จะขอเพิ่มอีกได้ไหม?
เป็นประโยคที่โซ่ไม่ได้ถามออกไป
มุมปากคลี่ยิ้มกว้างอย่างขัดเขินกับตัวเองก่อนทิ้งตัวให้จมลงสู่ใต้น้ำ จมอยู่ในห้วงความคิดแสนหวานของตัวเอง
x
“เมื่อยเช็ดผมให้หน่อย”
“อืม”
“มานั่งสิ”
เมื่อยไม่เคยปฏิเสธในสิ่งที่โซ่อ้อนขอสักครั้ง จะหาว่าสปอยล์ตามอกตามใจก็ถูก
ก็เด็กมันน่ารัก
เด็กน้อยก็ขยันน่ารักตอบ นั่งลงตามที่บอกอย่างว่าง่าย เป็นเด็กดีดีกับเมื่อยเสมอล่ะ แต่ก็ดื้อด้วย ดื้อกับเมื่อยคนเดียว
อะไรๆก็เมื่อยเสมอ
“ทำไมเมื่อยให้เรากลับเร็ว?”
เจ้าหนูจำไมสงสัย เมื่อยยิ้มกับคำถามติดจะเอ็นดูเสียด้วย ถึงโซ่ไม่ใช่เด็กๆแล้ว อายุเท่ากันด้วยซ้ำ
แต่ก็เป็นเด็กน้อยของเขาคนเดียวไง
“หวงครับ”
เมื่อยก้มไปจุ๊บหัวที่หมาดแล้วเบาๆ โซ่เงยหน้ามองตาใส ส่ายหน้าไปมาอย่างปฏิเสธ “แต่เราน่ารักกับเมื่อยคนเดียว” ปฏิเสธพร้อมหันไปกอดเอวเมื่อยไว้
“เราก็หวงเมื่อยเหมือนกันล่ะ”
“เมื่อยน่ารัก เราไม่อยากให้ใครเห็นว่าเมื่อยน่ารัก”
“เราน่ารักเหรอ?”
‘โซ่น่ารักกว่าอีก’
เมื่อยปฏิเสธประโยคนั้นในใจ แถมเขาไหมที่ต้องหวง เขาหมกตัวอยู่แต่ในคณะกับหอ ไม่ได้ออกไปไหน แต่โซ่สิ เทียวไปเทียวมาจนคนเขารู้จักหมดแล้ว วันนี้ก็เหมือนกัน ความน่ารักของโซ่ที่เขาควรจะได้เห็น ได้รู้เพียงคนเดียวแต่กลับไม่ใช่แบบนั้น
หวง จนอยากดึงโซ่มากอดไว้ให้รู้ว่าโซ่เป็นของเขา
ของเมื่อยคนเดียวเท่านั้น
โซ่ของเมื่อย
“เราน่ารักก็รักเรามากๆนะโซ่”
“อือ”
โซ่ตอบสั้นๆพลางหลับตาพริ้ม
โซ่ไม่รู้หรอกว่าเมื่อยหมายถึงรักแบบไหน สำหรับโซ่ ความรักของโซ่ก็คือเมื่อยอยู่แล้ว
ความรักเล็กๆของเด็กซื่อบื้อ
x
เปลือกตาปิดพริ้ม จังหวะกระเพื่อมขึ้นลงของแผ่นอกอย่างสม่ำเสมอ เด็กน้อยที่ชื่อโซ่กำลังจมอยู่กับฝันแสนหวาน คนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จมองใบหน้านั้น ไม่ต่างจากที่คาดเท่าไหร่ วันนี้เด็กน้อยของเมื่อยซนแค่ไหน เมื่อยรู้ดี มุมปากจุดรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อย ระหว่างที่ทิ้งน้ำหนักลงที่นอนฝั่งซ้ายที่ถูกเว้นว่างไว้ สอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มช้าๆ เป้าสายตาก็ยังคงอยู่ใบหน้าไร้กังวลของคนที่นอนหลับปุ๋ย
โซ่นอนฝั่งขวา เมื่อยนอนฝั่งซ้าย ไออุ่นที่แบ่งปันกันใต้ผ้าห่มผืนเดิม บนเตียงเดิม ในห้องเดิม โคมไฟหัวเตียงดับลงไปแล้ว หน้าผากเลื่อนอิงซบกันแผ่วเบา
จนกว่าจะรุ่งเช้าวันใหม่และทุกคืน
จากนี้และตลอดไป
'จูบเราตรงนี้'
'ตอนนี้ ตรงนี้ '
จูบไปรึเปล่านะ?
เขาเองก็ไม่รู้
นิ้วไล้กลีบปากของตัวเอง ความทรงจำที่มีอยู่ก็เลือนลาง แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน มันก็ดีทั้งนั้นล่ะ โซ่คิดในระหว่างที่กดปลายจมูกลงบนแก้มเนียนของเมื่อยแผ่วเบา โซ่เองก็โลภมากพอที่จะกอบโกยอะไรอีกนิดด้วยการกดจุ๊บที่มุมปากด้วย
เด็กดีของเมื่อยทิ้งร่องรอยอุ่นๆซุกซนไว้ที่มุมปากแล้วจากไป
โซ่เลยไม่ได้เห็นรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากนั้น
x
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in