มีความคิดอยากแต่งกลบทมานานแล้วตั้งแต่เรียนปีหนึ่งใหม่ ๆ แต่ก็ไม่ได้แต่งสักที เพราะกลอนกลบทนั้นขึ้นชื่อว่าแต่งยากที่สุด ยิ่งฉันท์กลบทล่ะก็...เอ๊ยยย เคยอ่านหนังสือกลบทศิริวิบุลกิตติ์ซึ่งเป็นหนังสือรวบรวมกลบทประดามีในไทย อ่านแล้วก็ อืมมม คนแต่งก็นะ ว่างเหลือเกิน แต่งกลอนธรรมดาว่ายากแล้ว ยังเพิ่มการเล่นคำ สัมผัสนู่น สลับนี่ ซ้ำคำตรงนั้น ซ้อนคำตรงนี้ งุนงงไปหมด แต่เฮ้ยย เพราะอ่ะ ไพเราะมากกก ใครที่เคยอ่านกลอนที่แต่งเป็นกลบทจะรู้ว่าเพราะจริงไรจริง การใช้คำสละสลวยไปหมด ว่าง ๆ ก็เลยอยากลองแต่งบ้าง :)
กลบทที่เราแต่งเทียบเคียงจากหนังสือ "ผจงจารเทียบโบราณกวี : กฏบนกลบท" ของคุณคมทวน คันธนู แค่ชื่อหนังสือก็ทำให้คันไม้คันมือล่ะอ่ะ ไม่รอช้า พลิกดูทันที อืมมม ยากหมดเลย ข้อยแต่งตามบ่ได้เดิกกก 555 ไป ๆ มา ๆ ก็เลยมาลงที่กลบทนาคเกี่ยวอลงกฏ วิชชุมมาลาฉันท์ ซึ่งดูจะแต่งตามได้ง่ายที่สุด ด้วยฉันทลักษณ์ของฉันท์ที่บังคับให้ทุกคำเป็นครุหมด สัมผัสระหว่างวรรคก็ดูจะไม่ยากเย็นอะไร (เพราะเคยแต่งมาบ้างแล้ว) ส่วนกลบทก็บังคับแค่สองคำสุดท้ายของวรรคที่สองกระหวัดกลับไปเป็นสองคำแรกของวรรคถัดไป เพิ่มสัมผัสในเข้าไปอีกนิดหน่อย ผลงานกลบทชิ้นแรกในชีวิตจะเป็นยังไง ไปดูกัน
ค่ำคืนยืนหนาว เปลี่ยวเปล่าดาวหาย
หายดาวหาวคลาย จันทร์เปล่งเต่งนวล
นวลเต่งเนื้อน้อง ครวญครองเย้ายวน
ยวนเย้าเฝ้าชวน น้องนั่งบังเงา
เงาบังฝั่งพฤกษ์ รำลึกตรึกตรอง
ตรองตรึกนึกน้อง เนื้อนิ่มพริ้มเพรา
เพราพริ้มยิ้มแย้ม พวงแก้มบางเบา
เบาบางคางเจ้า มนกลมสมนาง
นางสมผมสวย รื่นรวยอวยหอม
หอมอวยอบออม มืองามตามสาง
สางตามลามลูบ ก้มจูบไหล่พลาง
พลางไหล่นวลนาง เนื้อแนบแอบชิด
ชิดแอบแยบยล ดาลดลหัวใจ
ใจหัวมัวไหม้ รักลนพ่นพิษ
พิษพ่นก่นแสบ ฟุบแฟบแปลบปลิด
ปลิดแปลบแลบลิด รอนสิทธิ์ชิดเชย
เชยชิดติดพัน มาพลันผันเปลี่ยน
เปลี่ยนผันหันเหียน น้องห่างวางเฉย
เฉยวางร้างรา ทีท่าคุ้นเคย
เคยคุ้นลืมเลย ช้ำทรวงดวงแด
แดดวงพวงดอก มาหลอกชอกช้ำ
ช้ำชอกตอกตำ ผลักผล็อยลอยแพ
แพลอยน้อยเงิน ขัดเขินเกินแก้
แก้เกินเยินแพ้ รักคุดหลุดลอย
ลอยหลุดสุดยื้อ เมื่อยมือคือจบ
จบคือไม่คบ แยกทางวางปล่อย
ปล่อยวางห่างเจ้า แม้เศร้าไม่น้อย
น้อยไม่อยากคอย ค่อยคล้อยลอยลา.....
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in