รักที่แท้ หรือแค่อ่อนแอ
ในช่วงเวลาที่เรารู้สึกว่าตัวองกำลังตกต่ำ ไม่ว่าจะเป็นเพราะด้วยเหตุใด หากกำแพงความรู้สึกลดความสูงลง ผลที่ตามมาคือทุกความรู้สึกจะไหลทะลักเข้ามาราวกับคลื่นทะเลลูกใหญ่ ชายฝั่งที่ไม่แข็งแรงจะโดนถล่ม บอกลาความสวยงามที่เคยมีไปได้เลย
เมื่อตอนเป็นเด็ก ฉันก็เป็นเพียงคนหนึ่งที่ถูกชักจูงให้ไหลไปตามอารมณ์ได้โดยง่าย อะไรเกิดขึ้นนิดหน่อยก็พาลเจ้าอารมณ์ไปเสียหมด ยอมใครไม่เคยจะเป็น ไม่ใช่นิสัยที่ดีนัก ฉันแตกหักกับใครต่อใครก็เพราะด้วยเหตุผลนั้น จนเมื่อโตขึ้นมา ถึงพึ่งเรียนรู้ที่จะควบคุมความรู้สึกตัวเอง
รู้ไหมว่ามันไม่ง่ายเลย
ไม่ง่าย
แต่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
ชีวิตช่วงหนึ่งฉันเป็นนายเหนือทุกความรู้สึก ไม่มีอะไรหรือใครจะทำให้อารมณ์สั่นคลอนได้ พูดแบบมั่นใจตัวเองเลยคือ "ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม" ช่างเป็นช่วงเวลาที่หยิ่งผยองเสียเหลือเกิน ไม่รู้ว่าไปสรรหาเอาความกล้ามาจากไหน ถึงได้ใช้ชีวิตแบบที่มองผู้อื่นด้วยหางตา - แต่เฉพาะกับใครก็ตามที่พยายามจะเข้ามารุกรานความรู้สึกของฉันเท่านั้นแหละ คนที่ได้รับมือกับด้านแข็งกร้าวงี่เง่าของฉันไม่ใช่ใครอื่น
และหากฉันถึงขั้นใช้คำว่างี่เง่า ก็หมายความว่าฉันนั้นงี่เง่าจริงๆ ทุกครั้งเมื่อนึกกลับไปถึงบทสนทนายังอดไม่ได้ที่จะเบ้ริมฝีปาก การปกป้องความรู้สึกของตัวเองน่ะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง หากแต่มันก็สมควรเกิดขึ้นบนพื้นฐานความสมเหมาะสมควร ซึ่งฉันในตอนนั้นไม่มี ดื้อรั้นและปากแข็ง ผลที่ตามมาคือฉันเกือบเสียเขาไป
เรื่องหลังจากนั้นขอสรุปโดยสั้นว่าความรู้สึกที่ฉันมีให้เขาทำให้ฉันลดกำแพงของตัวเองลง จนไม่เหลืืออะไร ไม่เหลือแม้กลไกลการปกป้องความรู้สึก โทษความรักที่ทำให้ฉันเปราะบาง และการเลิกรายิ่งทำให้อ่อนแอ
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความบัดซบที่แท้จริง
โอ้ไม่ ไม่ใช่เขาที่บัดซบ เขาอาจจะเป็นทุกอย่างในชีวิตฉันแต่เขายังห่างไกลจากนิยามบัดซบอยู่ไกลโข ฉันไม่มีทางเรียกเขาอย่างสาดเสียเทเสียด้วยคำหยาบเป็นแน่ ไอ้เรื่องบัดซบที่ว่าฉันไม่ขอลงรายละเอียดลึกซึ้ง ด้วยเพราะไม่อยากให้มีขยะสายตาอยู่ในบทความมากเกินความจำเป็น
สรุปโดยสั้นคือหลังเราแยกทาง ฉันพบรักครั้งใหม่ คิดว่าทุกอย่างเป็นไปได้อย่างสวยงาม บลาๆๆ โดยที่หารู้ไม่ว่ามันคือหายนะที่แท้จริง
หากจะมีสิ่งหนึ่งสิ่งเดียวบนโลกที่ฉันรังเกียจเดียดฉันท์ คือการที่ใช้ใครหนึ่งคนเพื่อทำร้ายใครอีกคน แม้แต่ตอนนี้ที่กำลังเขียนอยู่ก็ยังไม่แคล้วสะอิดสะเอียนจนอยากอาเจียนออกมา การกระทำแบบนั้นมีแต่คนขี้ขลาดเขาทำกัน ต่ำช้าเสียจนหาคำเปรียบเปรยได้ไม่เลวพอ หากแต่ทุกอย่างนั้นฉันไม่โทษใคร นอกจากตัวเอง ในเมื่อเรื่องทุกอย่างฉันเป็นฝ่ายเริ่มตัดสินใจ ผลที่ตามมาจะร้ายดีอย่างไรก็ต้องยอมรับให้ได้เช่นกัน
ฉันเคยหลงผิด คิดไปว่าความรู้สึกนั้นคือรัก เหอะ... ช่างเป็นหญิงโง่เขลาเบาปัญญา มันไม่เคยเป็นความรัก ไม่แม้แต่จะใกล้เคียง เพราะทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาของความอ่อนแอไม่เคยเป็นความจริง และฉันมีความยินดีเป็นอย่างมากที่หลุดพ้นมาได้เสียที หากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ขอรู้จักคนคนนี้แม้แต่หางตา ฉันจะไม่มองเขาไปกว่าคนที่ไม่มีค่าเพียงคนหนึ่ง ขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้ตาสว่าง ไม่มีทางอีกแล้วที่จะพลาดพลั้งซ้ำสอง
หากคิดจะรัก ความรู้สึกนั้นควรเกิดขึ้นบนพื้นฐานของความพร้อมในทุกวิถีทาง โดยเฉพาะความแข็งแกร่งของจิตใจ ครั้งหน้าครั้งใดหากฉันจะรักใคร ฉันขอเอ่ยคำนั้นในวันที่พร้อมอย่างแท้จริง
เหนือสิ่งอื่นใด ในความบัดซบมันก็ยังไม่เลวร้ายไปเสียทั้งหมด
เพราะในตอบจบฉันยังได้พบกับความดี
ตอนที่ฉันไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร เขาคือคนแรกที่เข้ามาในความคิด ฉันรู้ว่าเขาจะเข้าใจ และก็เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด หากทุกอย่างบนโลกนี้มีท่าทีว่าจะหันมาเป็นปรปักษ์ ฉันขอเดิมพันอย่างหมดหน้าตักว่าเขาจะไม่ใช่คนที่ใช้มีดแทงกันจากข้างหลังแน่นอน ฉันไว้ใจเขา ไว้ใจด้วยความรู้สึกที่มองไม่เห็น ไม่ใช่ความรู้สึกไว้ใจเสมือนเช่นตอนเรายังเป็นคนรักกัน ไม่ ตอนนี้เราไม่ได้อยู่สถานะนั้นอีกต่อไปแล้ว ฉันยังนึกหาคำนิยามได้ไม่สวยงามเท่าที่ใจนึก จึงขอพูดอย่างเรียบง่ายเอาไว้เพียงว่า จากมนุษย์คนหนึ่งถึงอีกคน ฉันมีความไว้ใจให้เขาโดยไม่มีข้อสงสัย และหากวันใดมีความจำเป็นที่จะต้องยื่นอาวุธใส่มือกันและกัน เราสองคนจะไม่มีทางหันมาทำร้ายกันเอง
ศัตรูที่แท้จริงไม่เคยเป็นคนข้างกาย บางครั้งคนเราก็มีทำผิดกันไปบ้าง แต่ไม่ว่าเราจะทำอะไรลงไป เจตนานั้นไม่เคยจะหมายสร้างความเจ็บปวด ไม่มีความผิดใดที่ความรักให้อภัยไม่ได้ สุดท้ายแล้วสิ่งใดจะมีค่ามากไปกว่ามิตรแท้ที่พร้อมจะอยู่ตรงนั้นเสมอเมื่อเราต้องการ เพราะความรักไม่จำเป็นที่จะต้องได้รับการพิสูจน์ ที่ต้องการทั้งหมดคือมือที่ยื่นมาในเวลาที่ยากลำบาก และหากเขาเป็นที่พึ่งในคราวคับขันของฉันได้ ฉันเองก็สามารถเป็นไหล่ให้อิงในเวลาที่เขาต้องการได้เช่นกัน
ขอบคุณ
- Victoria D. Gwyneth
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in