รีวิวเว้ย (322) "และดูเหมือนว่าผู้ใหญ่เหล่านี้ อย่างน้อยก็ในสังคมของเรากำลังถืออำนาจไปกำหนดกฎเกณฑ์อนาคตของพวกเขาว่าต้องเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ โดยบ่อยครั้งไม่เคยเข้าใจเลยว่า พวกเขาไม่ได้อยู่บนเส้นเวลาเดียวกับผู้ใหญ่ พวกเขาไม่ได้พูดภาษาเดียวกับเรา" คำโปรยปกหลังของหนังสือเล่มนี้ดูเหมือนจะเป็นการส่งสารให้กับคนมนช่วงอายุหนึ่ง ๆ ได้ขบคิดและตั้งคำถาม ว่า "ด้วยตัวเลขอายุหรือช่วงวัยที่แตกต่างกัน เราจะยังสามารถบังคับกะเกณฑ์บุคคลอื่นจากตัวเลขอายุของตัวเราได้หรือไม่ (?)" คล้ายกับโมงยามที่เราเป็นเด็ก ผู้ใหญ่มักพร่ำบ่นเสมอ ๆ จนกลายเป็นคำพูดติดปากว่า "เด็กสมัยนี้..." ซึ่งแน่นอนว่าเราเองก็ไม่ชอบคำพูดที่ถูกผู้ใหญ่พูดถึง เมื่อเรากลายเป็นผู้ใหญ่ เราเองกลับเลือกใช้คำว่า "เด็กสมัยนี้..." กับคนที่อายุน้อยกว่าเช่นกัน

หนังสือ : หนูนิ้วโป้ง: วัฒนธรรมและเทคโนโลยีของมนุษย์มิลเลนเนียล

โดย : Michel Serres แปล สายพิณ ศุพุทธมงคล

จำนวน : 128 หน้า

ราคา : 180 บาท 

"หนูนิ้วโป้ง: วัฒนธรรมและเทคโนโลยีของมนุษย์มิลเลนเนียล" หนังสือที่พูดถึงเรื่องราวของการพบเจอกันระหว่างมนุษย์ช่วงวัยที่แตกต่างกัน อย่างคนเจนเนอเรชันต่าง ๆ ที่ต้องพบเจอกันในสังคมหนึ่ง ๆ การพบเจอระหว่างกันส่งผลให้เกิดปัญหาในเรื่องของการอยู่ร่วมกันและความเข้าใจกันของคนแต่ละกลุ่ม รวมถึงก่อให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจอันเกิดจากความไม่เข้าใจและความไม่พยายามเข้าใจซึ่งกันและกันของคนแต่ละกลุ่ม 

"หนูนิ้วโป้ง: วัฒนธรรมและเทคโนโลยีของมนุษย์มิลเลนเนียล" เป็นหนังสือที่ถูกเขียนขึ้นโดยคนเอายุเยอะที่ออกมาบอกเล่าเรื่องราวของคนอายุน้อยที่เขาต้องพบเจอในฐานะของอาจารย์มหาวิทยาลัย การสังสรรค์กันของขนต่างช่วงวัยโดนเฉพาะในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยและโลกการศึกษาหลายครั้งมักนำมาซึ่งปัญหาและความปวดหัวเสมอ ๆ 

"หนูนิ้วโป้ง: วัฒนธรรมและเทคโนโลยีของมนุษย์มิลเลนเนียล" ชักชวนให้เราทำความเข้าใจในความแตกต่างของคนต่างช่วงวัย โดยเฉพาะการกลับไปทำความเข้าใจของคนที่ช่วงวัยน้อยกว่าของกลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า เมื่อโลกเดินทางเข้าสู่ยุคสมัยที่ความรู้มิได้หยุดลงที่หน้าห้องเรียนและตัวผู้สอนเพียงคนเดียว เมื่อความสู่พัฒนามาสู่การแสวงหาคำตอบได้เพียงปลายนิ้วโป้งสัมผัส และเมื่อความรู้ไม่มีกรอบจำกัดในเรื่องของเวลาและสถานที่ เหตุนี้การรับมือกับคนช่วงวัยแบบ "หนูนิ้วโป้ง" จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการอยู่ร่วมกันของคนทุกกลุ่มในสังคม 

"สังคมหนึ่ง ๆ ไม่ได้ประกอบสร้างขึ้นมาจากคนแบบเดียวกันหรือกลุ่มเดียวในสังคม" นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ "หนูนิ้วโป้ง: วัฒนธรรมและเทคโนโลยีของมนุษย์มิลเลนเนียล" ชี้ชัดให้เราได้เห็นและเข้าใจ รวมถึงหนังสือเล่มนี้ ยังชี้ชวนให้เห็นและเข้าใจถึงพลวัฒน์ในทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นตลอดช่วงเวลาของประวัติศาสตร์ และพลวัฒน์ของปรัชญาที่ชี้ชวนให้เราทำความเข้าใจและตั้งคำถามต่อความแตกต่างของผู้คนในแต่ละสังคม พร้อมทั้งช่วยให้เราสามารถทำความเข้าใจและสร้างกลไกให้คนในสังคมอยู่ร่วมกันได้ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ วัยแตกต่างกันแค่ไหน ถ้าเปิดใจและพยายามทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน นั่นจะช่วยให้โลกกลม ๆ ใบนี้น่าอยู่เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย