เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเรียกความสนใจจากนักแสดงหนุ่มให้หันมอง
คิลเลี่ยนขมวดคิ้ว เวลาจวนจะข้ามวันอยู่แล้ว ใครกันนะที่กล้าโทรมาดึกดื่นแบบนี้
เสียงที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวข้างตัวปรือตามอง เขาโน้มตัวลงไปมอบจุมพิตตรงหน้าผากของภรรยา ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นจากเตียง มือเรียวคว้าโทรศัพท์ขึ้นเดินออกไปจากห้องนอน
ตัวเลขที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย ความคิดบางอย่างที่แล่นเข้ามาแทรกในสมอง ชีพจรพลันจะเต้นรัวขึ้นมาดื้อ ๆ
บ้าน่า...ไม่ใช่หรอก..
ไม่ใช่อยู่แล้วล่ะ...
ชายหนุ่มตัดสินใจกดรับสาย ยกเครื่องมือสื่อสารขนาดเล็กขึ้นแนบหู หวังว่าคนที่โทรมาเวลาแบบนี้จะไม่ทำให้เวลานอนอันแสนมีค่าเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
“...ฮัลโหล” ชายหนุ่มเงี่ยหูฟังเสียงจากปลายสาย แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงเสียงลมหายใจ
‘ขอโทษนะครับที่ผมโทรมาตอนดึก ๆ แบบนี้บางทีผมควรรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า...’
เสียงทุ้มนุ่มที่คุ้นเคยดังก้องในโสตประสาท คิลเลี่ยนยกมือขึ้นลูบหน้า น้ำตาเริ่มคลอเบ้าจนมันไม่สามารถยั้งได้อีกต่อไป เขากัดริมฝีปากล่างแน่น ความรู้สึกตีกันมั่วไปหมด
นานมาก...
นานมากแล้วที่ผมไม่ได้ยินเสียงของคุณ...
‘คิลเลี่ยน...? ยังอยู่หรือเปล่าครับ’ ปลายสายถามขึ้น
ดวงตาสีฟ้าสว่างพยายามกลั้นหยดน้ำที่ไหลออกมาไม่หยุด ใช้มือข้างที่ว่างเข็ดน้ำตาออกลวก ๆ เสียงสะอื้นดังขึ้นเบา ๆ แต่ก็พอให้คนที่ถือสายรออยู่ได้ยินมันอย่างชัดเจน
‘นั่นคุณร้องไห้เหรอ...’ คนถูกถามเม้มริมฝีปากเข้าหากันโดยอัตโนมัติ พยายามพูดเฉไฉออกไปโดยไม่ให้เสียงสั่น
“...คุณหายไปไหนมาเป็นเดือน ๆ...ทำไม ทำไมถึงไม่ติดต่อมาเลย...”
‘...ผมขอโทษ’ คริสโตเฟอร์ตอบกลับมาเพียงเท่านั้น ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด
นักแสดงหนุ่มเอนตัวลงนอนไปกับโซฟา ยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก พลางปิดเปลือกตาลงช้า ๆ ปล่อยให้เสียงลมหายใจของอีกคนดังคลออยู่
‘...คิลเลี่ยน...ผมรักคุณมากนะ...’ ประโยคที่ถูกส่งผ่านมาแม้จะเป็นประโยคบอกรักที่นานครั้งจะได้ยิน แต่เขากลับไม่ดีใจเลยสักนิด ซ้ำมันยิ่งแย่ลงกว่าเดิมอีก
ประโยคบอกรักที่พูดขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนี้...
...ผู้ชายเขาเอาไว้พูดตอนกำลังจะขอตัดความสัมพันธ์กับคนรักเท่านั้นแหละ...
“ทำไม...”
‘ครับ?’
“ทำไมผมต้องเป็นฝ่ายเห็นคุณเดินจากไปตลอดเลยล่ะ...ผมรอมานานมาก ผมรอให้โทรศัพท์ดังขึ้นมาตลอดหลายเดือน และรู้อะไรมั้ย...ผมหวังว่าคุณจะรอผมเหมือนกัน”
หยดน้ำใสเริ่มไหลออกมาอีกครั้ง ความเงียบเข้าปกคลุม สิ่งที่ได้ยินมีเพียงเสียงเสียงลมหายใจของกันและกัน
คริสโตเฟอร์ยกมือขึ้นลูบหน้า พิงศีรษะเข้ากับตู้โทรศัพท์เก่า
ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย
ตลอดเวลาที่ไม่มีแม้แต่เสียงคุณให้ได้ยิน...ผมทำงานไม่ได้
ถ้าเราไม่หยุดความสัมพันธ์นี้...เชื่อสิ เราสองคนจะตกอยู่ในสภาพที่แย่มาก...
ถ้าวันนั้นผมไม่หลงดวงตาสีฟ้าสวยของคุณ...ในวันนี้เราอาจจะได้นั่งดื่มกาแฟด้วยกันอย่างมีความสุขก็ได้
เป็นฝ่ายผู้กำกับหนุ่มที่เริ่มต้นบทสนทนาใหม่อีกครั้ง
‘...ออกมาเจอกันหน่อยได้มั้ยครับ’ คนถูกถามเหยียดริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย
“เพื่ออะไรเหรอคริส...เพื่อให้ผมออกไปบอกว่าผมรักคุณมากนะ ผมไม่อยากให้มันจบลง ได้โปรดอยู่กับผมได้มั้ย แต่แล้วมันก็เหมือนเดิม คุณกลับบ้านคุณ ผมไปบาร์นั่งกินเบียร์เย็น ๆสักขวด แล้วถามตัวเองว่าตลอดเวลาเกือบปีผมรอบ้าอะไรอยู่!”
ปลายสายนิ่งเงียบ ปกติแล้วคริสโตเฟอร์แทบจะพูดอยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้...เขาพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ฟังเสียงของคนตัวเล็กพูดระบายออกมา
“...เมื่อเช้าผมยังคิดอยู่เลยว่าคุณจะโทรมาบอกว่ามีบทหนังให้ลองอ่านดู...ตลกดีนะ...” ดวงตาสีฟ้าปรือตามองไปยังรูปถ่ายที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างตัว
รูปตอนอยู่ในกองถ่ายเรื่อง Inception...
...รูปของเขา...กับคริส
‘คิลเลี่ยน...ผมไม่อยากเห็นคุณเจ็บปวด ไม่เลย โดยเฉพาะถ้าเหตุผลมันเกิดจากผม แต่สำหรับเรื่องนี้...คุณตอบผมทีสิครับ ว่าควรจะทำยังไง...’
เสียงที่เล็ดลอดออกมาสั่นเครืออย่างที่ไม่เคยเป็น นักแสดงหนุ่มพรู่ลมหายใจออกมา เราต่างก็ลำบากใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครผิดทั้งนั้น
จะผิดก็ตรงที่...เราปล่อยให้ความรู้สึกเกินเลยไปมากขนาดนี้ จนเราขาดกันไม่ได้...
“อย่าถามผมเลยคริส...คุณรู้ว่ายังไงผมก็เข้าข้างตัวเองอยู่ดี...” ร่างเล็กทิ้งช่วงประโยค ปล่อยลมหายใจอุ่นร้อนออกมาอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มพูดต่อ
“...แต่ยังไง...ผมก็เคารพการตัดสินใจของคุณนะ”
‘ถ้างั้นก็...’ ผู้กำกับหนุ่มหนุดพูด พลางเม้มริฝีปากเข้าหากันแน่น ดวงตาสีฟ้าในหน้าร้อนวูบไหว เขาอ้าปาก พยายามทวนคำพูดทุกอย่าง แต่กลับไม่มีเสียงเปล่งออกมา
เป็นคิลเลี่ยนเองที่อยากรีบจบบทสนทนานี้ อย่างน้อย ๆ เขาจะได้ร้องไห้ได้เต็มเสียงเสียที
“ตลอดเวลาที่เราได้ทำงานร่วมกัน...ได้อยู่ด้วยกัน ผมมีความสุขมาก...ผมดีใจที่ได้เจอผู้กำกับเก่ง ๆแบบคุณนะ...”
เขารู้ตัวดีว่าเสียงของตัวเองสั่นขนาดไหน แค่บังคับให้ตัวเองพูดยังยากเลย
คริสโตเฟอร์ค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลง พลันคิดถึงใบหน้าเรียบเฉยกับดวงตาสีฟ้าสวยที่ดูเย็นชา
ดวงตาที่ทำให้เขาตกหลุมรักตั้งแต่วันแรก
‘...ผมก็ดีใจที่ได้เจอคุณ...คิลเลี่ยน ผมคงคิดถึงดวงตาของคุณ คิดถึงเสียงของคุณ ริมฝีปากของคุณ...ทุก ๆ อย่าง...’
หยดน้ำตาพาลจะไหลออกมาอีกรอบ นักแสดงหนุ่มหัวเราะน้อย ๆ
“ตลกดีนะที่เราต่างต้องการกันมากขนาดนี้...แต่กลับทำได้แค่ซ่อนมันไว้...”
‘คิลเลี่ยน...’
“ลาก่อนนะ...คริส” มือเรียวเตรียมกดวางสาย ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายยังรั้งไว้อีกครั้ง
‘...ผมวานอะไรคุณอย่างนึงได้มั้ยครับ’
อย่า...
ได้โปรดอย่าพูดสิ่งที่คุณคิดออกมา
‘ไม่ว่าผ่านไปนานกี่ปี...อยากให้รู้ไว้นะครับว่าผม...ยังคงรักคุณ...’
Pizza.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in