เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เล่าได้มั้ยพี่จี้smoke.jee
EP.1 น้องมันนี่ขอเล่า สอบสัมภาษณ์รอบที่ 1 คณะศิลปศาสตร์ เยอรมัน
  • "น้องมันนี่" 1 ใน 12 ผู้มีสิทธิสอบสัมภาษณ์ คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาเยอรมันของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ใน #TCAS64 ใครกำลังจะต้องสอบสัมภาษณ์หรือกำลังเตรียมตัวสอบ บอกเลยค่ะว่าห้ามพลาดเรื่องที่น้องมันนี่อยากจะแชร์ประสบการณ์นี้ค่ะ

    Q : สวัสดีค่ะ แนะนำตัวหน่อยได้มั้ยคะ ชื่ออะไร เรียนอยู่ชั้นอะไรที่ไหนคะ
    น้องมันนี่ : สวัสดีค่ะ ชื่อ น.ส.ชิดชนก มีชัยรุ่งเรือง ชื่อเล่น มันนี่ ปัจจุบันเรียนอยู่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย สายศิลป์-ภาษาเยอรมันค่ะ

    Q:ยินดีกับน้องมันนี่ด้วยนะคะ เล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ยคะว่ารอบแรกของน้องมันนี่เป็นอย่างไรบ้าง
    น้องมันนี่:ค่ะ มันนี่นะคะก็ได้มีสิทธิในการได้เข้าไปสัมภาษณ์ในคณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาเยอรมันซึ่งเป็นคณะที่มันนี่อยากเข้าอยู่แล้วค่ะ ตอนเข้าไปสอบสัมภาษณ์ทางคณะกรรมการก็ได้ตั้งคำถาม ถามว่า

           Q 1 : ทำไมต้องเลือกภาษาเยอรมัน ภาษาเยอรมันยากง่ายอย่างไร และเรียนมากี่ปี

    ซึ่งในส่วนนี้มันนี่ก็ตอบไปในโครงสร้างแบบว่า Ich finde schwer zu.... อะไรไปแบบนี้ค่ะ + ตอบไปด้วยว่า Es ist mir einfach zu... เอาง่ายๆคือตอนนั้นมันนี่พยายามเล่นโครงสร้างเอาอ่ะค่ะ
       แต่พาร์ทที่มันนี่มั่นใจที่สุดคงจะเป็น Part เขียนค่ะ มันนี่รู้สึกว่ามันนี่เขียนผิดไปเพียงแค่ 2 จุดเล็กๆ

    Q:แล้วในปีนี้การสอบสัมภาษณ์มีอะไรที่แปลกและแตกต่างไปจากปีก่อนๆมั้ยคะ

    น้องมันนี่ : คือปีนี้เขาจะให้หมุนวงล้อสุ่มหัวข้อที่จะได้พูดอ่ะค่ะ ซึ่งปกติสมมุติว่าเวลาเราได้การ์ดในการสอบวัดระดับมันก็จะมีให้ถามคำถาม-คำตอบ แล้วมันก็จะมีตารางมาให้ไปนัดกันว่าเอ่อใครพูดก่อนพูดหลัง แต่อันนี้คือพูดในหัวข้อ Reisen(ท่องเที่ยว) และให้มันนี่พูดแบบพูดอะไรมาก็ได้ ให้เล่าอ่ะซึ่งตอนนั้นมันนี่ก็คิดในใจแล้วว่า เอ...เราจะไปเที่ยวไหนดี 55555 ก็เลยนึกได้อ่ะงั้นไปเที่ยวไต้หวันละกัน ก็เลยดึงไปว่า "เอ่อเนี่ยมันนี่ชอบคุยกับคนไต้หวันเพราะเป็นคนที่เฟรนด์ลี่" เพราะว่าตอนสัมภาษณ์ไทยมันนี่ก็เตรียมไปว่า มันนี่อยากเรียนภาษาเยอรมันเพราะจะได้ไปใช้ในการสื่อสารกับหลายๆคน รวมถึงเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ มันนี่ก็เลยพูดไปว่า เป็นคนชอบคุย อะไรแบบนี้ค่ะ คือตอนนั้นมันนี่ก็ล่กอ่ะแบบจำอะไรไม่ได้ว่าเราพูดอะไรไปบ้าง นึกอะไรออกก็พูด ถึงขนาดที่ว่าคำว่า "ชานมไข่มุก" มันนี่นึกศัพท์ภาษาเยอรมันไม่ออกก็เลยพูดไปว่า "ชาไข่มุก oder Bubble Tee"งี้เลยค่ะ มันนี่แบบนึกอะไรไม่ออกพูดอะไรไม่ออก มันนี่ก็เลยแบบดึงสติกลับมาก่อนแล้วเขาก็ถามมันนี่อีกว่า
             
           Q 2 : นายกรัฐมนตรีของประเทศเยอรมนีคือใคร ?

    น้องมันนี่ : ละแบบในหัวของมันนี่ตอนนั้นคือนึกได้แต่ชืื่อ Angela Merkel แต่จริงๆแล้วคือ Frank-Walter แต่ตอนนั้นคือด้วยความมึนๆงงๆของมันนี่เองก็เลยตอบ Angelaไปค่ะ ซึ่งพอมาเปิดเน็ตดูตอนสอบเสร็จแล้วก็ปรากฏว่า ถูกจริงๆด้วย !! นายกรัฐมนตรีคือ : Angela Merkel แต่ประธานธิบดีคือFrank-Walter Steinmeier ค่ะ 
                                                     Frank-Walter Steinmeier
                                    ประธานธิบดีคนปัจจุบันของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

                                                                     
                                                              Angela Merkel 
                                นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

    น้องมันนี่ : แล้วเขาก็ถามอีกด้วยค่ะว่า "นายกรัฐมนตรีภาษาเยอรมันคืออะไร" มันนี่ก็ตอบไปว่า Bundeskanzler ซึ่งก็เป็นที่ถูกต้องแล้วค่ะ แล้วคณะกรรมการก็ โอเค มันนี่ก็เลยแบบเอ่องั้นไม่ไปไร Part ก็อาจจะแบบเน่าๆไปละก็เลยไปตอบตรง Part ภาษาไทยดีๆเอาค่ะ

    Q 3 : อยากเข้าเพราะอะไร

    น้องมันนี่ : มันนี่ก็เลยตอบไปแบบมี 3 เหตุผลที่อยากเข้าคือ 1.ความชื่นชอบในเยอรมัน มันนี่ก็เล่าเสริมไปอีกว่า คือตอนแรกมันนี่ไม่รู้จักอะไรเลยแต่พอได้มาเรียน ได้เห็นตัวเองในรูปแบบใหม่ เหมือนเราได้พยายามทำอะไรมากๆเพื่อสิ่งที่เราชอบ พอรู้ว่าเราชอบอะไรก็เลยมางาน open house ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ละก็ได้เจอรุ่นพี่ค่ะ แล้วก็ 2.ตอนเจอรุ่นพี่แนะนำก็รู้สึกว่าเค้าเฟรนด์ลี่ มีอัธยาศัยดี มันนี่ก็เลยอยากเป็นคนนั้นบ้างให้กับรุ่นน้องค่ะ อันที่สามคือธรรมศาสตร์อ่ะมันมีภาษาอื่นให้เรียน ก็เลยเสริมไปอีกว่า"จากที่พูดไปนะคะว่า ตอนไปไต้หวันมันนี่ก็คุยกับคนที่นั้น คุยกับคนอื่นๆ เพราะว่าการที่เราได้คุยกับคนอื่นๆนั้นมันได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ละก็จะได้รับความน่าสนใจใหม่ๆด้วยค่ะ."

    Q 4 : ภาษาเยอรมันทำให้เรารู้สึกภาคภูมิใจอย่างไรบ้าง?
    น้องมันนี่ : ข้อเสียของมันนี่คือเป็นคน Perfectionist เกินไปแต่การเรียนภาษาเยอรมันทำให้มันนี่รู้ว่า บางครั้งการผิดหวังมันก็เป็นขั้นตอนหนึ่งที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ค่ะ เราเรียนรู้ที่จะผิดหวังและชื่นชมในความพยายามของตัวเองได้ ว่าเราทำเต็มที่แล้ว

    Q 5 : และถ้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้วต้องเรียนยากและเจอกับปัญหาจะทำอย่างไร?

    น้องมันนี่ : มนุษย์คนเราค่ะมันboundarylessค่ะ ถ้าเราพัฒนามันก็ไม่มีทางที่เราจะไม่ชนะอุปสรรคเหล่านี้ไปได้ค่ะ

    Q: ขอบคุณน้องมันนี่นะคะที่วันนี้มาร่วมแชร์ประสการณ์ของการสอบสัมภาษณ์ที่ผ่านไปมา ยังไงก็เป็นกำลังใจให้น้องมันนี่นะคะ ขอให้ทุกอย่างอยู่ข้างน้องมันนี่แล้ววันที่ 22 เราจะยิ้มไปด้วยกันค่ะ
    น้องมันนี่ : ขอบคุณค่ะ 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in