เอาจริงๆ ไม่เคยคิดเลยนะว่า อาการกินอะไรไม่ลง นอนหลับ ๆ ตื่น ๆ รู้สึกเศร้าในทุกห้วงอารมณ์จะเกิดขึ้นกับตัวเอง...
เราไม่แน่ใจมากนักว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้มาจากอะไร แต่แม่และเพื่อนสนิทของเรา บอกว่ามันคืออาการของ "คนอกหัก" เฮ้ย! ครั้งแรกที่ได้ยิน ใจเรากระตุกไปวูบนึงเลยนะ นี่เราอกหักหรอวะ
แปลกแต่จริง คนที่ไม่เคยโฟกัสกับเรื่องความรักมากนัก เรียกได้ว่ามีก็ได้ไม่มีก็ได้ ตอนนี้กลับมานั่งพร้อมคำว่า อกหัก ตัวใหญ่ๆแปะอยู่กลางหน้าผาก
สำหรับเรา นี่ไม่ใช่การเลิกลาครั้งแรกของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น"แฟน" อาจเพราะการเลิกลาในครั้งก่อน มันจบด้วยดี และตอนนี้เราก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันโดยปริยาย กลับกันในตอนนี้ไม่เข้าใกล้คำนั้นเลยสักนิด เพราะว่าเราไม่เคยได้เป็นแฟนกันยังไงล่ะ...
มีเพื่อนของเราคนนึง เคยบอกว่า "สิ่งที่มึงทำให้เขาและสิ่งที่เขาแสดงออกมาให้มึง นี่มันเรียกว่าแฟนแล้วเว้ย" ณ ตอนนั้น เราได้แต่บอกปัดเพื่อนไปว่า ไม่ใช่หรอก จะเป็นได้ไง เขาไม่ได้ชอบเราสักหน่อย และที่สำคัญ ยังไม่มีใครขอเป็นแฟนเลย เราปฏิเสธออกไปแบบนั้น แต่ในใจลึกๆ กลับคิดว่า "นี่เราเป็นแฟนกันจริงๆ เหรอ"
ตลอดช่วงเวลาที่ได้คุยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน รวมทั้งไปเที่ยวด้วยกัน เรามีความสุขมากนะ แต่ไม่รู้ว่าเป็นความสุขแบบไหน เพราะเขามักจะมีเรื่องทะเลาะหรือเหวี่ยงใส่เราเสมอ ๆ และเราก็ทนเขาได้ดีซะด้วย (ฮา) LittleZ เคยบอกกับเราว่า "ความรักทำให้คนตาบอดและปัญญาอ่อน" เออ ก็จริง เราคงเป็นคนที่พิการซ้ำซ้อนไปแล้วในตอนนี้...
ในตอนนี้จากคนที่รู้จักกัน ไปทานข้าว ดูหนัง อ่านหนังสือ หาร้านกาแฟนั่ง ไปเที่ยวด้วยกัน กลับกลายเป็นคนไม่รู้จักกัน เขาเก่งนะ เขาทำได้ดี ทำได้อย่างรวดเร็ว อาจเพราะเขาเป็นผู้ใหญ่กว่า มีประสบการณ์ด้านนี้มากกว่า หรือเขามีภาระงานที่ต้องทำในแต่ละวันมากกว่าด้วยแหละ ตัดภาพมาที่เราเหมือนเห็นเหรียญคนละด้านเลยล่ะ... เรารู้ตัวว่าเราต้อง MOVE ON เรารู้ว่าเราต้องทำอย่างไร แต่เรากลับยังนิ่ง เหมือนมันชาไปหมดทั้งร่างกายและหัวใจ และ "ขอเวลา" เป็นคำเดียวที่เราสามารถบอกทุกคนได้
"(เราทำแบบนี้) มันคือหนทางเดียวที่ทุกฝ่ายจะบาดเจ็บน้อยสุด คุยกับคนที่ต่อไปไม่ได้เจอกันแล้วก็ไร้ประโยชน์ อย่าเอาเราไปเป็นลมหายใจของเธอ" - เขา
หวังว่าสักวัน ความเจ็บช้ำและอาการชาจะลดน้อยลง
ขอบคุณ...
ผู้อ่านทุกคน
ด้วยรัก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in