เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Cage and Key [yaoi]li_li_an
ตำหนักอัญเชิญและงานเทศกาล
  • ตำหนักอัญเชิญของโลกเบื้องหน้ากำลังมีงานเทศกาล


    อันที่จริงต้องบอกว่าสถานที่ของโลกเบื้องหลังที่อยู่ในโลกเบื้องหน้า หรือที่ประชากรแห่งโลกเบื้องหลังเรียกกันง่ายๆว่า‘ประตู’นั้น กำลังมีงานเทศกาล


    ช่วงเทศกาลประจำปีของประตูนั้น เป็นช่วงเวลาอันยุ่งยากใจของเจ้าตำหนักอัญเชิญ


    ในช่วงนี้ของแต่ละปีระเบียบอันเคร่งครัดของเหล่าผู้บำเพ็ญแห่งตำหนักอัญเชิญจะถูกคลายลงเล็กน้อย ผู้ฝึกตนเหล่านั้นจะได้รับอนุญาตให้ออกไปเที่ยวเล่นได้บ้างหากประตูที่คนผู้นั้นใช้ผ่านเข้ามายังโลกเบื้องหลังกำลังจัดงานเทศกาล


    "เพื่อเป็นการผ่อนคลายจากการทำงานหนัก" เจ้าตำหนักคนก่อนผู้อนุมัติคำอนุญาตกล่าวไว้เช่นนั้น


    "ข้าก็ทำงานหนักนะยายแก่ ทำไมไม่ให้ข้าได้ผ่อนคลายเสียบ้างเล่า" คัตสึมิพึมพำ มองภาพเหล่าลูกศิษย์หอบหิ้วขนมของเล่นจากงานออกร้านที่ประตูของตนเดินไปเดินมาในตำหนักด้วยสายตาริษยาไม่ปิดบัง


    เจ้าตำหนักคนปัจจุบันกำลังจมลงในวังวนแห่งความอิจฉาริษยาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น นึกแค้นตัวเองที่ไม่ได้เปลี่ยนกฎที่เจ้าตำหนักคนก่อนกำหนดเอาไว้แต่ต้น ก่อนเสียงราบเรียบเสียงหนึ่งจะฉุดเขาขึ้นมาจากความริษยานั้น


    "ท่านของข้า ตอนนี้ท่านก็ไม่ได้กำลังผ่อนคลายอยู่หรืออย่างไร" เสียงเอ่ยขัด ก่อนจะตามมาด้วยเสียงตุบเบาๆอันเกิดจากการวางกองเอกสารลงบนพื้นไม้


    ฮิคารุ คัตสึมิทำหน้ามุ่ย ละลายตาริษยาจากภาพของเหล่าเด็กหนุ่มสาวที่กำลังถือขนมสายไหมหัวเราะคิกคัก หันกลับมาแผดเผาไฟแค้นใส่คนช่างขัดที่เพิ่งเข้ามาในห้องแทน


    "ข้ากำลังดูแลความเรียบร้อยในตำหนักอย่างขยันขันแข็งต่างหากเล่า ที่ปรึกษาของข้า เจ้ามองอย่างไรจึงเห็นว่าข้าว่างกัน สายตาของเจ้ามันฝ้าฟางไปแล้วหรืออย่างไง" ชายหนุ่มเอ่ยตอบ พลางปัดมือไล่ภาพของพวกลูกศิษย์ที่ตนอัญเชิญมาทิ้งไป


    ผู้โดนกล่าวหาว่าสายตาฝ้าฟางไม่เอ่ยปากโต้เถียงข้อกล่าวหาใด แล้วเริ่มลงมือแจกเอกสารต่างๆที่ตนนำมาออกตรงหน้าผู้เป็นนาย ก่อนเริ่มสาธยายสิ่งที่คนตรงหน้าต้องทำด้วยน้ำเสียบเรียบเรื่อย แสดงออกชัดว่าไม่ต้องการฟังคำโต้แย้งใดจากอีกฝ่ายอีก


    คัตสึมิส่งเสียงจึ๊กจั๊กขัดใจ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยขัดสิ่งใดในระหว่างการพูดของที่ปรึกษาของตน ชายหนุ่มถูกเลี้ยงดูมาเช่นนั้น ถูกสั่งสอนมาให้ฟัง ดังนั้นแม้จะไม่ค่อยสนใจรายละเอียดมากมายที่คนตรงหน้ากำลังพร่ำอธิบายอยู่สักเท่าไร ชายหนุ่มก็ยังคงเงียบฟัง


    มาซายูกิ โชตะจบการแจกแจงสาระงานของตน แล้วเหลือบตาขึ้นสบมองกับดวงตาสีอ่อนที่เลื่อนลอยไปไกลแล้วของผู้ฟัง


    “จบแล้วหรือ สรุปแล้วข้าต้องทำอะไรบ้าง” คนฟังไม่เข้าหูเอ่ยถาม


    ที่ปรึกษาสูงสุดแห่งตำหนักอัญเชิญถอนหายใจ


    “ทางนี้เป็นคำร้องจากท่านเจ้าหอบันทึก” เขาว่า “ข้าเห็นว่าท่านควรดำเนินการตามที่ได้รับคำขอมา ส่วนกองนั้นเป็นเอกสารที่ข้าเห็นว่าควรอนุมัติ ส่วนกองตรงนี้เป็นคำร้องที่ข้าเห็นว่าควรปฏิเสธไป แต่ทั้งนี้่ทั้งนั้นท่านควรอ่านแล้วตัดสินใจเอง” ชายวัยกลางคนว่า พลางเลื่อนเอกสารแต่ละกองไปตรงหน้าผู้เป็นนาย


    หากคนเป็นนายเพียงพยักหน้าเออออไม่ใส่ใจ แล้วผลักกองเอกสารกลับไปทางที่ปรึกษาของตนทีละกอง


    “อืม เข้าใจแล้ว เจ้าว่าไงข้าว่าตามนั้น ตราประทับอยู่บนโต๊ะ เจ้าจัดการเองได้เลย--” คัตสึมิว่าเสียงใส ก่อนเสียงร่าเริงที่เอ่ยปัดภาระให้คนอื่นนั้นจะค่อยๆเบาลงจนขาดห้วงไปด้วยอานุภาพสายตาเย็นเยียบอันลือชื่อของที่ปรึกษาสูงสุดของตำหนักอัญเชิญ


    “เอ่อ...ก็ได้ ข้าจะจัดการเรื่องอนุมัติเอกสารให้เดี๋ยวนี้ล่ะ!” ชายหนุ่มว่า กุลีกุจอหอบกองเองสารไปที่โต๊ะด้วยความกระตือรือร้นที่เสแสร้งอย่างยิ่ง


    ที่ปรึกษาสูงสุดแห่งตำหนักอัญเชิญไม่ได้ว่าอะไรกับท่าทางน่าเหนื่อยใจของผู้ที่เป็นทั้งเจ้านายและลูกศิษย์ของตน ชายวัยกลางคนเพียงหอบเอากองเอกสารที่อีกฝ่ายขนไปไม่หมดตามไปให้ที่โต๊ะ แล้วนั่งลงมองผู้เป็นนายทำงานอย่างใจเย็น


    คัตสึมิขยับตัวยุกยิก ไม่สบายตัวนักกับสายตาที่จ้องมองมา จริงอยู่ที่เขามีภูมิต้านทานต่อสายตาเยือกแข็งของที่ปรึกษาของตนไม่น้อย อันที่จริง...ต่อให้พลิกฟ้ารื้อดินหาทั้งโลกเบื้องหน้าและโลกเบื้องหลังก็คงหาผู้มีภูมิต้านทานเท่าเทียมกับเขาได้ยากยิ่ง แต่กระนั้นชายหนุ่มก็ยังไม่สบายตัวนักเมื่อถูกอีกฝ่ายจ้องมอง


    “นี่ ที่ปรึกษาของข้า” เขาเปิดบทสนทนา ต้องการเบี่ยงความสนใจของอีกฝ่ายออกไปจากมือที่กำลังประทับตราลงบนเอกสารต่างๆเสีย ก่อนที่เขาจะเผลอประทับตราผิดพลาด


    “ถ้าข้าทำงานพวกนี้เสร็จแล้ว ข้าขอออกไปเที่ยวงานเทศกาลได้หรือเปล่า” คัตสึมิว่า พลางประทับตราลงเอกสารต่อไปอย่างขยันขัแข็ง หวังเอาใจ แล้วกล่าวเสริมอีก


    “แบบที่เจ้าตำหนักคนก่อนเคยว่าไว้ไง เพื่อเป็นการผ่อนคลายจากการทำงานหนัก"


    ชายหนุ่มล่อลวงด้วยการยกคำพูดของคนที่ที่ปรึกษาของตนเคารพนับถือมาอ้าง


    คัตสึมิถูกตีตรวนไว้ที่ตำหนักแห่งนี้โดยอาคมของเจ้าตำหนักคนก่อน และผู้ถือกุญแจหนึ่งเดียวที่ปลดปล่อยชายหนุ่มออกสู่โลกภายนอกได้คือที่ปรึกษาของเจ้าตำหนักคนปัจจุบัน ที่ปรึกษาของเขาที่ยังยึดมั่นในคำพูดของเจ้าตำหนักคนก่อนอยู่ทุกชั่วลมหายใจ


    แต่คนอย่างมาซายูกิ โชโตะย่อมไม่หลงไปกับคำลวงกระจอกของผู้เป็นนาย


    “ไม่ได้ขอรับ” ผู้มีอำนาจปลดกุญแจเพียงหนึ่งเดียวตอบกลับรวดเร็ว


    คัตสึมิทำหน้ามุ่ย อ้าปากเถียง


    “อะไรกันเล่า ทำงานแล้วไม่ได้อะไรตอบแทนแบบนี้มันถูกที่ไหนกัน”ชายหนุ่มตบโต๊ะโวยวาย


    “...”


    โชโตะเงียบไป เขาเองก็เป็นผู้ถือหลักเมื่อทำงานก็ควรได้ผลตอบแทนอย่างหนักแน่นคนหนึ่ง ดังนั้นคำค้านของเจ้าตำหนักของเขาในคราวนี้จึงฟังมรนำ้หนักผิดวิสัย


    “เจ้าตำหนักของข้า ท่านก็รู้ว่าข้าก็ไม่อาจปล่อยให้ท่านออกไปข้างนอกได้” ที่ปรึกษาสูงสุดแห่งตำหนักอัญเชิญกล่าว


    “แต่ที่ท่านพูดมาก็ถูก ไม่ควรมีใครต้องทำงานโดยไม่ได้รับสิ่งตอบแทน” เขาเว้นช่วง ยกมือขึ้นแตะปลายคางครุ่นคิด


    “หากท่านจะยอมลดของตอนแทนการทำงานลงเหลือเพียงขนมหรือของเล่นเล็กๆน้อยๆจากงานเทศกาลข้างนอกนั่นล่ะก็--” ชายวัยกลางคนเอ่ยข้อเสนอออกมา ก่อนจะถูกขัดโดยเสียงตอบรับของคนเด็กกว่าที่ทะลุขึ้นกลางปล้อง


    “ตกลง!!” ชายหนุ่มว่า พร้อมๆกระแทกตราประทับลงบนเอกสารดังตึงใหญ่  

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in