เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Weverse Magazine : ENHYPENyellowthehill
[แปลสัมภาษณ์] ENHYPEN Debut Interview : SUNOO
  • interview & photos from Weverse Magazine CLICK!
    KO-TH trans by @yellowthehill (twitter)

    ถ้าหากแปลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ


    ซอนอู "เวที คือ ความสุขสำหรับผม"

    ซอนอูเคลื่อนไหวร่างกายไปตามเสียงดนตรีที่กำลังบรรเลงในสถานที่ถ่ายทำ เมื่อการถ่ายทำเริ่มต้นขึ้น สายตาของเขาก็เปลี่ยนไปในชั่วพริบตา เพ่งสมาธิไปกับการถ่ายทันที เมื่อถามไปว่าทำยังไงถึงสามารถมีสมาธิได้ไวแบบนั้น เขาก็ตอบกลับมาว่า "ก็แค่ไหลไปตามจังหวะเท่านั้นครับ" เด็กผู้ชายอายุ 17 ปี แต่กลับมีจิตใจที่ลึกดั่งคลื่นที่พัดเป็นบางคราว ภายใต้ใบหน้าอันแสนสดใสของเขา

    เมื่อวาน (4 ธ.ค.) บันทึกเทปรายการ Music Bank KBS ไป รู้สึกยังไงบ้างกับการออกรายการเพลงครั้งแรกคะ?
    ซอนอู: ผมมีพี่สาวที่อายุมากกว่ากับผม 3 ปี ตั้งแต่เด็ก ผมกับพี่สาวจะเปิดรายการเพลงทิ้งไว้ ร้องเพลงและเต้นไปด้วยกัน ทำให้มีความฝันอยากจะเป็นนักร้องนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาครับ ดังนั้นการที่ได้มาแสดงในรายการเพลงจึงเหมือนกับเป็นความฝันเลยครับ ถึงจะรู้สึกประหม่าแต่ก็ตื่นเต้นมากกว่าครับ


    เมื่อยังเป็นเด็ก คิดว่าจุดไหนที่เป็นเสน่ห์ของการทำงานที่ได้ออกทีวีคะ?
    ซอนอู: การได้ร้องเพลงและเต้นบนเวทีที่ส่องแสงอย่างสง่างาม มันดูมีความสุขจริงๆ ครับ 'ว้าว ฉันเองก็อย่างเป็นแบบนั้นนะ' 'ฉันเองก็อยากยืนตรงนั้นนะ' ก็คิดอะไรแบบนี้ครับ ผมว่าผมเกิดมาพร้อมความสนใจด้านนั้นตั้งแต่แรกเลยแหละครับ (หัวเราะ) ถึงแม้พี่สาวผมดูรายการเพลงด้วยกันกับผม แต่เธอก็ไม่ได้อยากจะเป็นดาราน่ะครับ


    มีความฝันที่จะเป็นนักร้องมาตั้งแต่เด็กเลยเหรอคะ
    ซอนอู: ครับ สมัยประถมต้น ผมร้องเพลงได้ดีมากๆ เลยครับ (หัวเราะ) ผมจำเนื้อเพลงได้ไวมากๆ ได้ยินมาว่าคุณครูหลายๆ ท่านไปคุยกับคุณแม่บ่อยๆ ว่า "ถ้าส่งไปรายการเพลงจะเป็นยังไงนะ" แต่ตอนม. 1 ผมเริ่มเสียงแตกหนุ่มครับ ผมก็ล้มเลิกความฝันการเป็นนักร้องไปเลยครับ แม้แต่ร้องเพลงก็ไม่ร่าเริงเท่าแต่ก่อน ไม่สนุกด้วยครับ พอม. 2 ก็ได้รับข้อเสนอให้ไปออดิชั่นที่บริษัทแห่งหนึ่งครับ แต่เพราะเสียงแตกหนุ่มที่ยังไม่ไม่ดีขึ้น ทำให้ไม่ผ่านออดิชั่นครับ แต่ก็ได้รับข้อเสนอจากที่นี่อีกครั้งหนึ่งครับ "มาลองออดิชั่นใหม่ตอนอีก 1 ปีให้หลังตามแบบที่นายต้องการ เป็นไง?" หลังจากนั้น 1 ปีให้หลัง ผมก็ได้รับการติดต่อกลับมาจริงๆ ครับ ผมเริ่มออดิชั่นหลายๆ ที่อีกครั้ง ได้ลองนั่นนี่ไปเรื่อย จนสุดท้ายก็มาอยู่ ณ จุดๆ นี้ได้ครับ


    เหมือนว่าคุณจะยังหลงเหลือความรู้สึกบางอย่างเมื่อได้เห็นตัวเองในจอเลยนะคะ
    ซอนอู: ส่วนตัวผมคิดว่าผมเป็น 'คนที่มีหน้าตาน่ารัก' แต่เมื่อเห็นตัวเองผ่านรูปภาพก็ตกใจเพราะหางตาที่ยาวมากกว่าที่คิดและให้ความรู้สึกที่เย็นชาด้วยครับ พอดูผ่านจอแล้วก็ได้รับรู้หลายส่วนที่ผมเองไม่เคยรู้มาก่อนมากขึ้นครับ


    คุณขึ้นชื่อเรื่อง "เล่นหูเล่นตา" ตั้งแต่ที่ยังเป็นเด็กก็ฝึกการแสดงออกทางสีหน้าพอสมควรเลยรึเปล่าคะ?
    ซอนอู: น่าจะเพราะผมดูรายการเพลงหลากหลายแบบตั้งแต่เด็กๆ เลยครับ อารมณ์ความรู้สึกผมก็อ่อนไหวมากๆ ถ้าดูหนังหรือซีรีส์แล้วมีฉากร้องไห้ ผมก็จะร้องไห้ครับ ถ้ามีเพลงเศร้าดังขึ้นมา ผมก็จะน้ำตาท่วมเลย ผมเป็นเด็กแบบนั้นครับ พอเพื่อนร้องไห้ ผมก็คล้อยตามไปด้วย (หัวเราะ) นิสัยก็ถูกสะท้อนผ่านสีหน้า ดังนั้นผมคิดว่า (การแสดงออกทางสีหน้า)น่าจะเป็นธรรมชาติของผมครับ


    ที่เคยบอกใน 'I-LAND' ว่า "เมื่อ 1 ปีที่แล้วยังคงเป็นเด็กนักเรียนธรรมดาๆ อยู่เลย" คุณซอนอูเป็นเด็กนักเรียนแบบไหนหรอคะ?
    ซอนอู: เป็นคนที่ 'สดใสม๊ากมาก' และมีความสามารถมากครับ ตอนม.ต้น ทุกๆ ปีจะมีการแข่งขันการขับร้องเพลงประสานเสียง แล้วผมก็ชอบการเต้นและร้องเพลงมากๆ ผมเข้าร่วมเป็นคนแรกๆ เลยครับ ผมชอบที่จะเป็นที่สนใจ พอผมเต้นบนทางเดินในตึก เพื่อนๆ ก็จะ "อ่า นาย เป็นอะไรเนี่ย~" ครับ (หัวเราะ) เพราะคุณพ่อคุณแม่คัดค้านเรื่องการเป็นดาราตั้งแต่เด็กครับ ผมจึงตั้งใจเรียน ตอนม.2 ก็คว้าคะแนนเต็ม 100 คะแนนในวิชาเลขเป็นครั้งแรกมาครับ แม้ในตอนนั้นโจทย์มันจะง่าย แต่คนที่ได้คะแนน 100 คะแนนมันก็ไม่ค่อยมีนะครับ! (หัวเราะ) แต่เพราะไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ความสนุกในการเรียนก็ค่อยๆ ลดลงครับ พอตอนม.3 ก็ลาออกจากที่เรียนพิเศษแล้วก็ทำในสิ่งที่อยากทำแทน ตอนม.ปลาย ผมชอบดู MV เพลง K-POP มากๆ อยู่ชมรมเต้นด้วย ในบางครั้งผมและเพื่อนๆ ก็ทำผมกันเล่นๆ ด้วยครับ เป็นนักเรียนธรรมดาๆ แบบนั้นแหละครับ


    ทราบมาว่าคุณทำผมให้เมมเบอร์บ่อยๆ
    ซอนอู: ตั้งแต่เด็กๆ ผมถักเปียให้พี่สาวหรือไม่ก็ไปซื้อเครื่องหนีบผมมาเองแล้วทำผมให้พี่สาวครับ เคยมีความฝันอยากจะเป็นช่างทำผมอยู่สักพักหนึ่งด้วยครับ ผมเห็นคุณแม่และพี่สาวถักไหมพรมหรือปักผ้าบ่อยๆ ก็เลยได้รับอิทธิพลมาครับ ตั้งแต่เด็กๆ ผมติดสติ๊กเกอร์ ระบายสี พับกระดาษ ผมทำอะไรแบบนี้บ่อยๆ กลายเป็นว่าผมชอบการตกแต่งนั่นนี่ไปเลยครับ ผมชอบกลิ่นหอมด้วย ก็ได้รับมาจากพี่สาวครับ ผมเห็นพี่สาวซื้อน้ำหอมมาฉีด ผมก็เริ่มสนใจครับ ชอบกลิ่นที่สดชื่นๆ แล้วก็เบาๆ เหมือนกลิ่นเลมอนครับ พอพูดถึงแล้ว ผมว่าผมสนใจเรื่องความสวยความงามมาตั้งแต่แรกอยู่พอสมควรเหมือนกันนะครับเนี่ย (หัวเราะ)


    ทราบมาว่าคุณซอนอูทำผมให้คุณซองฮุนในเดบิวต์โชว์ แต่คุณซองฮุนดูไม่สนใจเท่าไหร่ (หัวเราะ)
    ซอนอู: (หัวเราะ) ผมถนัดทำผมยาวหรือผมประบ่ามากกว่าน่ะครับ ผมทำผมให้พี่สาวเยอะมากๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วผมไม่ได้ทำผมตัวเองเท่าไหร่เลยครับ ผมเพิ่งจะเริ่มทำผมตัวเองเมื่อตอนม.ต้นครับ ผมมีเพื่อนผู้หญิงที่ผมสั้น ผมก็ทำผมให้เธอ ผมทำผมให้เพื่อนผู้ชายด้วยครับ ผมได้ลองทำผมทั้งผมสั้นผมยาว ก็คิดว่าสมัยม.ปลายได้เรียนรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ


    ช่วงนี้คุณนิกินอนเตียงของคุณซอนอูหรอคะ? (หัวเราะ)
    ซอนอู: ครับ ผมนอนคนเดียวตลอดจนถึงก่อนหน้านี้ ตอนครั้งแรกมันก็รู้สึกแปลกๆ ที่นอนด้วยกันครับ แต่เพราะนิกิจะถามด้วยความมั่นใจตลอดเลยครับว่า "ยังนอนอยู่ข้างๆ ผมใช่ไหม" (หัวเราะ) พวกเราก็เลยนอนด้วยกันเรื่อยๆ ครับ แต่ช่วงนี้ ผมรู้สึกเหงานิดหน่อยเมื่อต้องนอนคนเดียวครับ ผมคงจะชินไปแล้วน่ะครับ (หัวเราะ)


    ที่เคยบอกกับคุณซองฮุนใน 'I-LAND' ว่า "ผมเองก็อยากสนิทกับพี่นะครับ" ตอนนี้สนิทขึ้นรึยังคะ?
    ซอนอู: เรื่องนี้ผมยืนยันได้อย่างมั่นใจเลยครับ (หัวเราะ) สนิทขึ้นมากๆ จริงๆ ครับ จากตอนแรกที่รู้สึกกระอักกระอ่วน แต่เมื่อยิ่งรู้จักกันมากขึ้น ก็ยิ่งมีส่วนที่เข้ากันได้ดีมากกว่าที่คิดครับ แกล้งกันเยอะด้วยครับ ผมว่าพี่ซองฮุนคงคิดว่าผมน่ารักครับ ดังนั้นผมเลยคิดกับตัวเองบ่อยๆ ว่า "นี่ฉันน่ารักขนาดนั้นเลยหรอ" (หัวเราะ)


    นิสัยของคุณซอนอูที่คอยดูแลเพื่อนๆ คนอื่นใน 'I-LAND' นี่ เห็นได้ชัดมากเลยค่ะ
    ซอนอู: น่าจะเพราะผมชอบคนน่ะครับ ผมชอบการอยู่กับผู้อื่นมากกว่าการอยู่คนเดียวครับ ผมให้ความสนใจกับผู้อื่นมากด้วยครับ ถ้ามีใครที่มีสีหน้าที่ไม่ค่อยดี ผมก็จะเป็นห่วง 'เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่านะ' พอไม่สามารถให้คำแนะนำที่พอจะช่วยเหลือได้ ก็จะ 'อ่า ทำยังไงดี' แบบนี้ แล้วมันจะมีคนที่รู้สึกเศร้าไปกับเพื่อนใช่ไหมล่ะครับ (หัวเราะ) ผมเองแหละครับ


    คุณเจย์เคยบอกเกี่ยวกับคุณซอนอูว่า "เป็นน้องที่ให้ทำอะไรแล้วไม่รำคาญ"
    ซอนอู: อาจจะเป็นเพราะว่าทัศนคติเปลี่ยนไปตอนที่เป็นเด็กฝึกล่ะมั้งครับ พี่สาวเองก็บอกผมว่า "นายน่ะเป็นเด็กไม่ยอมโตจริงๆ นะ แต่ช่วงนี้ดูเหมือนว่าจะโตขึ้นแล้ว" (หัวเราะ) ที่จริงแล้วตอนที่ยังเป็นเด็กฝึกช่วงแรกๆ ผมได้ยินบ่อยๆ ว่า ผมทำได้ไม่ดีเพราะช่วงเวลาที่ผมเป็นเด็กฝึกมันสั้นน่ะครับ มันเป็นช่วงที่ร่างกายก็ไม่แข็งแรงด้วย แต่ก็ไม่อยากยอมแพ้ รู้สึกเศร้าใจมากๆ เลยครับ แต่ผมก็สู้ต่อไปครับ เพราะทุกๆ ครั้งที่เป็นแบบนั้น คุณแม่จะบอกว่า "แต่ถึงอย่างนั้น มันก็เป็นสิ่งที่ลูกชอบและเป็นสิ่งที่ลูกอยากทำนะ เพราะฉะนั้นอย่ายอมแพ้ มันจะดีกว่าถ้าลูกไม่เสียใจนะ" ผมว่านั่นน่าจะทำให้ผมโตขึ้นครับ เมื่อก่อน ผมจะทำอะไรซักอย่างได้ไม่นานครับ มีโอกาสที่จะทำเบื่อกลางคันแล้วล้มเลิกไป แต่ตอนนี้ผมอดทนมากขึ้นอีกนิดแล้วลองสู้ซักตั้ง ผมว่าผมเริ่มเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีและเป็นคนที่อดทนมากขึ้นครับ

    รู้สึกประทับใจมากๆ ค่ะ ในตอนที่คุณตกรอบครั้งแรกใน 'I-LAND' คุณยอมรับผลครั้งนั้นอย่างคูลๆ เลยว่า "ครับ เข้าใจแล้วครับ!" หรือในตอนที่คุณได้รับคำติเตียนจากวิดีโอไดอารี่ '-note' ก็ด้วย
    ซอนอู: ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องที่มันเกิดขึ้นไปแล้วได้ใช่ไหมล่ะครับ ดังนั้นผมจึงน้อมรับคำติชมเพื่ออนาคตที่ดีกว่าและคิด "มาทำให้ดีกว่าเดิมในครั้งหน้ากัน" แทนครับ เมื่อก่อนผมมักจะรู้สึกผิดบ่อยๆ ครับ ผมจะยกตัวอย่างด้วยอาหารนะครับ ผมไปกินบุฟเฟ่ต์ ตั้งใจว่าจะกินเยอะๆ เลยอดข้าว แต่พอได้กินจริงๆ ไม่นานก็อิ่มแล้วก็จะรู้สึกผิดครับ (หัวเราะ) แต่ทุกครั้งที่ผมเป็นแบบนั้น คุณแม่จะบอกแบบนี้บ่อยๆ เลยครับว่า "ลูกน่ะ ทำไมถึงรู้สึกสึกผิดขนาดนั้น ทุกครั้งที่ลูกเล่าเรื่องแบบนั้นทีไร คนฟังก็รู้สึกไม่ดี แล้วมันก็ไม่ดีต่อลูกด้วย" ดังนั้นผมจึงไม่พูดอะไรแบบนั้นและยอมรับสถานการณ์แทนครับ


    การวอร์มร่างกายที่ยากลำบากในตอนแรกใน 'I-LAND' แต่ในที่สุดก็รับมือกับมันได้ อีกทั้งใน V-LIVE เอง คุณบอกว่า คุณกำลังป่วยอยู่ระหว่างที่แสดง SAVE ME ในยูนิตโวคอล คุณเอาชนะมันได้ยังไงหรอคะ?
    ซอนอู: เพราะในตอนแรกผมเอาแต่นึกถึงตลอดว่าทำไมผมถึงตัดสินใจมาทำตามความฝันนี้ ผมจึงคิดว่าผมทำได้หมดครับ มาถึงขนาดนี้แล้ว จะมายอมแพ้ได้ยังไงน่ะครับ ถ้าอ่อนแอขึ้นมา มันน่าเสียดายครับที่เวลาที่เสียไปทั้งหมดจนถึงตอนนี้มันเปล่าประโยชน์ ผมคิดหลายอย่างมากๆ เลยครับ 'ถ้าไม่ทำสิ่งนี้แล้วฉันจะทำอะไรได้บ้างนะ' แน่นอนว่า แม้จะป่วยอยู่ แต่ผมไม่สามารถคิดถึงสิ่งอื่นได้เลยนอกจากทำงานของตัวเองให้เสร็จสิ้นไป ผมจึงทำไปครับ ผมไม่สามารถเลี่ยงได้ใช่ไหมล่ะครับ 'ไหนๆ ก็ลงมือแล้ว ก็ทำเพิ่มอีกแล้วกัน' ก็คิดแบบนั้นครับ


    วันถัดจากวันประกาศวันเดบิวต์ คุณบอกว่า "ฉันจะเตือนตัวเองเสมอถึงเหตุผลที่เลือกสายงานนี้และจะเป็นนักร้องที่ดี" ผ่านวิดีโอไดอารี่ '-note'
    ซอนอู: ผมคิดว่าเพื่อชีวิตที่มีความสุขแล้วทัศนคติแบบนั้นมันจำเป็นครับ ตอนที่ผมเป็นเด็ก ผมจะร้องเพลงหรือเต้นตามทีวี มันสนุกครับ และความสนุกนั้นก็ทำให้ผมเลือกอาชีพนี้ครับ ผมท้าทายตัวเองเสมอเลยครับ เพราะผมคิดว่าผมคงจะมีความสุขและไม่มีทางเสียใจถ้าผมเลือกเส้นทางนี้ ถึงแม้ว่าเส้นทางที่ผมเลือกนี้จะยากลำบากบ้างก็ตาม แต่ถ้าผมก้าวต่อไป นึกถึงความสุขที่ได้สัมผัส ผมก็คงทำงานได้อย่างมีความสุขและสนุกมากขึ้น และคงอยู่กับมันไปได้อีกนานครับ


    รู้สึกประทับใจมากๆ ที่คุณใช้ลวดสลิงในการถ่ายทำเทรลเลอร์เดบิวต์แต่กลับสงบนิ่งได้
    ซอนอู: อ่า ที่จริงตอนนั้นผมกลัวมากๆ เลยครับ (หัวเราะ) ผมกลัวที่สูงมากกว่าที่คิดครับ และมันก็เป็นครั้งแรกที่ใช้ลวดสลิงด้วยครับ ผมต้องปล่อยมือทั้งสองข้างและต้องหมุนตัวกลางอากาศ เอาจริงๆ ในตอนแรกผมไม่มือสั่นเลยนะครับ แต่พอผมเห็นสตาฟหลายๆ ท่านมาเพื่อมาถ่ายทำแล้ว ถ้าผมไม่ปล่อยมือ การถ่ายทำก็จะยืดออกไปใช่ไหมล่ะครับ ดังนั้นผมก็คิดว่า 'ทำให้มันจบๆ ไปเถอะ' โชคดีที่มันผ่านไปได้ด้วยดีครับ ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ถ่ายทำโดยใช้ลวดสลิงใช่ไหมครับ พอคิดแบบนั้นผมก็ต้องตั้งใจมากกว่าเดิมครับ


    มีความทรงจำในช่วงที่เตรียมตัวสำหรับอัลบั้มเดบิวต์ที่ยังคงจำได้ไหมคะ?
    ซอนอู: ในเพลง 'Given-Taken' มันจะมีท่อน '그 빛을 날 불태웠지' ที่ผมต้องร้องและเต้นไปพร้อมกันกับพี่ซองฮุนและจองวอนครับ ในตอนแรกผมไม่ใช่เซนเตอร์ครับ ท่อนนั้นลงตัวหลังจากที่เมมเบอร์ทุกคนลองทุกตำแหน่งแล้ว เมื่อได้รับการคอนเฟิร์มพาร์ทแล้ว พวกเราสามคนก็ซ้อมการแสดงกัน แต่เพราะพละกำลังหรือไม่ก็ไลน์เต้นที่แตกต่างกัน แม้แต่การจะเต้นตรงกันก็ยากครับ และเพราะพี่ซองฮุนและจองวอนฝึกมานานกว่าผมด้วย ผมจึงต้องตามส่วนที่ผมยังขาดอยู่ให้ทัน ในตอนแรกมันก็เหนื่อยครับ แต่พอพวกเราฝึกซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็เต้นตรงกันได้ครับ


    เสียงต่ำของคุณซอนอูในพาร์ทนั้นมีเสน่ห์นะคะ
    ซอนอู: พาร์ทพี่ฮีซึงเป็นความรู้สึกที่เริ่มต้นเพลงอย่างสงบๆ แล้ว ต่อจากนั้นก็เป็นพาร์ทของผม จุดที่สำคัญคือการเปลี่ยนมู้ดครับ คุณโปรดิวเซอร์เองก็เน้นว่ามันจะต้องมีพลัง ผมจึงพยายามละทิ้งน้ำเสียงนุ่มๆ ของผมออกแล้วอัดเสียงด้วยพลังให้ได้มากที่สุด ก็เลยกลายเป็นเสียงต่ำไปได้ครับ (หัวเราะ) แต่ถึงอย่างนั้น การอัดเสียงก็ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับเพลงอย่าง 'Flicker' หรือ '10 Months' แต่เพลงอื่นๆ ก็มีรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจง ดังนั้นผมจึงต้องฝึกมากขึ้นเพื่อเข้าถึงอารมณ์ครับ

    หลังจากผ่านการเตรียมตัวอย่างยาวนาน ก็ได้เจอกับเอนจีนผ่านเดบิวต์โชว์ที่เป็นออนไลน์แทน
    ซอนอู: ผมรู้สึกเหมือนได้เจอกับเอนจีนจริงๆ เลยครับ ผมคิดว่า "คุณค่าจากการตั้งใจทำงาน มันได้ผลตอบแทนมาเป็นการได้รับความรักจากแฟนๆ สินะ" เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ทำให้ผมน้ำตาไหลเลยครับ รู้สึกขอบคุณมากๆ หัวใจที่อยากจะไปพบหน้าแฟนๆ มันก็พองโตมากขึ้น ตั้งแต่เด็กๆ ที่แข่งขันการขับร้องเพลงประสานเสียงหรืออยู่ชมรมเต้น ทำให้ผมรู้ดีครับว่ามันรู้สึกยังไงเมื่อได้อยู่ต่อหน้าผู้ชม ผมรู้สึกถึงพื้นที่ว่างที่ไม่มีแฟนคลับเท่ากับที่ผมรู้สึกดีเลยแหละครับ


    ถ้าได้เจอแฟนๆ ด้วยตัวเอง อยากจะทำอะไรเป็นสิ่งแรกคะ?
    ซอนอู: น่าจะถามไปว่ามาสนใจผมได้ยังไง มาชอบได้ยังไง ถามอะไรแบบนี้ครับ (หัวเราะ)


    ทราบมาว่าคุณซอนอูหารีแอคชั่นแฟนๆ ใน V LIVE เก่งมากแล้วก็โต้กลับไปค่อนข้างบ่อยเลย มีคอนเม้นท์หรือรีแอคชั่นจากแฟนๆ ที่ยังจำได้อยู่ไหมคะ?
    ซอนอู: ผมจำจดหมายลายมือที่ได้รับจากแฟนท่านหนึ่งใน 'I-LAND' ได้ครับ (จดหมาย)มีเนื้อความประมาณว่า "ฉันไม่รู้ว่านายมีช่วงเวลาที่ยากลำบากรึเปล่า แต่ฉันก็คิดเสมอว่านายคงจะมีช่วงเวลานั้นแน่ๆ ขอให้นายเลิกแสดงด้านที่สดใส แค่เป็นนายที่อยากจะเป็น ได้มีความสุขก็คงจะดีนะ" พอได้เห็นจดหมายนั้น ก็รู้สึกว่า 'คุณคนที่คิดและให้ความสนใจกับผม รู้จักผมทั้งหมดเลยสินะ'  ขอบคุณมากจริงๆ ครับ


    สำหรับคุณซอนอูแล้ว เวทีคืออะไรคะ?
    ซอนอู: คือสถานที่ที่ผมปรารถนาอยากจะยืนบนนั้นมาตลอดครับ คิดบ่อยมากเลยครับว่าจะต้องมีความสุขในทุกๆ ครั้งที่ได้ยืนบนเวที อ่า.. ผมไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่าจะต้องแสดงออกยังไงดี แม้แต่ตอนที่ได้แสดง 'Let Me In (20 CUBE)' ในการแสดงเดบิวต์โชว์ ผมก็รู้สึกถึงเอนโดรฟินมันหลั่งไปทั่วร่างกายเลยครับ มันคงจะเยี่ยมไปเลยถ้าได้ยืนบนเวทีแล้วมีแฟนๆ มาคอยเชียร์ให้กำลังใจ แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ (COVID-19) น่ะสิครับ...


    เวทีคงจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณซอนอูจริงๆ สินะคะ
    ซอนอู: ครับ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in