เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
80-day in South Korea เรียนภาษาเกาหลีระยะสั้นที่ Ewha Language Centerchynshj
Ewha Language Center ไปเรียนภาษาเกาหลีกัน :-)
  • สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์การไปเรียนภาษาเกาหลีระยะสั้นทั้งหมด 10 สัปดาห์ที่สถาบันภาษาของ Ewha Womans University ที่เรียกว่า Ewha Language Center (ELC) ในเทอมซัมเมอร์ปี 2019 ให้ฟัง ไปเริ่มกันเลย เยยย่!


    Why ELC ? ทำไมต้องไปเรียนภาษาที่อีแด

    บรรยากาศตึกเรียน (มีลิฟต์นะ แต่ใครมาสายก็รีบวิ่งขึ้นบันไดเร็วกว่า :P)

    เราชอบเรียนภาษาเกาหลีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บวกกับปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้นปี 3 มีเวลาเกือบ ๆ 3 เดือน เพื่อนในคณะหลาย ๆ คนก็ไป Work and Travel กัน เราก็อยากออกนอกประเทศบ้างแต่ WAT น่าจะหนักไปก็เลยเลือกมาเรียนภาษาที่ประเทศเกาหลี

    ตอนอยู่ที่มหาลัยเราลงวิชา KOREAN 1–4 ที่คณะอักษร จุฬาฯ ซึ่งแบบเรียนที่ใช้ก็คือของอีแด เราก็เลยคิดว่าถ้าไปเรียนที่อีแดเนื้อหาคงต่อเนื่องดี หรือถ้าได้เรียนเล่มเดิมก็จะยิ่งอุ่นใจค่ะ 

    เคยอ่านรีวิวคร่าว ๆ บนเน็ตด้วยว่าที่นี่ไม่ได้เน้นพัฒนาสกิลไหนเป็นพิเศษ ก็คือจะออกแบบคลาสเรียนให้สามารถพัฒนา ฟัง/พูด/อ่าน/เขียน ไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ ตามความเห็นของคนอื่น ๆ ที่เคยรีวิวในเน็ตก็คือถ้าอยากเน้นพูดให้เรียนซอกัง เน้นไวยากรณ์เรียนยอนเซประมาณนี้?

    เอาจริง ก่อนหน้านี้เวลาไปเที่ยวเกาหลีก็จะไปเดินชอปปิ้งแถว ๆ อีแดบ่อยมากจนรู้สึกว่าโซนนี้เหมือนเป็นคอมฟอร์ตโซนที่เราไม่ต้องปรับตัวมากก็เลยเป็นอีกเหตุผลที่เลือกที่นี่ค่ะ จะเดินทางไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างสะดวก (แต่ที่เกาหลีถ้าอยู่ในโซลก็ค่อนข้างเดินทางสะดวกทุกซอกทุกมุมอยู่แล้วค่ะ ระบบขนส่งสาธารณะดีมาก พอหันกลับมามองที่ไทยก็คือ y__y) 


    มีคอร์สแบบไหนบ้าง ? มีเวลาไม่ถึงเดือนเรียนได้มั้ย ?

    คอร์สเรียนภาษาของที่ Ewha Language Center มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบคือ

         1. Short-term program จะเรียนทั้งหมด 20 ชม/สัปดาห์ เรียนทั้งหมด 3 สัปดาห์ รวมเป็น 60 ชั่วโมงค่ะ คอร์สก็จะมีเปิดเรื่อย ๆ เกือบทุกเดือน เหมาะกับคนที่อยากมาลองเรียนแบบสบาย ๆ และมีเวลาไม่นานมาก เท่าที่ถามเพื่อนมาคือเหมือนแบ่งเนื้อหาของคอร์ส Intensive มาเป็น 1/3 และหนังสือที่ใช้ก็จะต่างจากคอร์ส Intensive ค่ะ ก็คือต้องเรียนทั้งหมด 3 คอร์สเพื่อได้เนื้อหาเทียบเทียบกับ intensive program 1 คอร์ส

    ค่าใช้จ่าย : Application Fee 60,000 KRW (สำหรับสมัครครั้งแรก) และ Tuition Fee 840,000 KRW ต่อคอร์ส

    หนังสือที่ใช้เรียน : 에센스 이화 한국어

    source: kyobo

        2. Intensive Program เรียนทั้งหมด 20 ชม/สัปดาห์ เป็นเวลา 10 สัปดาห์ รวมเป็น 200 ชั่วโมง จะเปิดคอร์สปีละ 4 รอบ ตามฤดู Spring/Summer/Autumn/Winter เลยค่ะ เหมาะกับคนที่มีเวลาประมาณ 3 เดือนขึ้นไปแล้วก็ได้รับความต่อเนื่องระหว่างคอร์ส คอร์สแบ่งเป็น 6 ระดับ ไล่ไปตั้งแต่ level 1 - level 6 หมายความว่าถ้าจะเรียนให้จบทุกระดับโดยไม่มีพื้นฐานและสอบไม่ตกเลย(เอ๊ะ..5555555) จะใช้เวลาทั้งหมด 1 ปีครึ่งค่ะ

    ค่าใช้จ่าย : Application Fee 60,000 KRW (สำหรับสมัครครั้งแรก) และ Tuition Fee 1,720,000 KRW ต่อคอร์ส และ Textbook Fee 50,000–60,000 KRW

    หนังสือที่ใช้เรียน : 이화 한국어



    อันนี้เป็นหนังสือที่เราใช้เรียน หนังสือที่คลาสใช้เรียนก็จะเป็น Student book กับ Workbook โดยสำหรับกึบ 2 ก็จะแบ่งเป็นอย่างละ 2 เล่ม คือ 2–1 และ 2–2 รวม ๆ แล้วก็คือบังคับซื้อ 4 เล่ม ราคาประมาณ 48,000 KRW ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมี study guide เป็นทางเลือก เราจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ ในเล่ม study guide ก็จะอธิบายแกรมม่าร์ละเอียดขึ้น มีแปลศัพท์ แปลบทสนทนาที่เรียนที่เล่มหลัก เป็นตัวช่วยในการเรียนที่ค่อนข้างดีก็เลยซื้อมาด้วยทั้ง 2–1,2–2 รวม ๆ 20,000 KRW ดังนั้นเราเสียค่าหนังสือไปประมาณ 68,000 KRW หรือประมาณ 2,000 THB ค่ะ

    อ้างอิงจาก: Ewha Language Center


    ไม่มีพื้นฐานเลยมาเรียนได้มั้ย ? ?

    มาได้แน่นอนนนน ก่อนเข้าเรียนทางโรงเรียนจะจัดวันให้นักเรียนทุกคนสอบวัดระดับโดยทำแบบทดสอบแกรมม่าร์/คำศัพท์บนบนเว็บของรร.ก่อน ซึ่งความยากก็จะไต่ระดับไปตั้งแต่กึบ 1–6 เลยค่ะ แนะนำว่าข้อไหนไม่รู้ไม่ควรตอบมั่วลงไปเพราะอาจจะทำให้ผลการทดสอบคลาดเคลื่อนได้น้า

    ก่อนเปิดเทอมประมาณ 1 สัปดาห์ โรงเรียนก็จะจัดการสอบวัดระดับการฟัง/พูด โดยการให้เข้าไปคุยกับอาจารย์คนเกาหลีโดยตรง ซึ่งไม่ต้องกังวลเลยนะคะเพราะอาจารย์ค่อนข้างพูดช้าและใจดีมาก ๆ บางอย่างเราฟังไม่ออกก็ขอให้เค้าช่วยพูดใหม่ ยังไงเค้าก็เข้าใจค่ะว่าเรายังไม่ชินกับภาษาเกาหลี?‍?

    คำถามก็จะค่อนข้างทั่วไปสำหรับเด็กกึบแรก ๆ แบบเรา เช่น ให้แนะนำตัวเอง แล้วก็ถามประสบการณ์ต่าง ๆ เช่น เคยมาเกาหลีหรือยัง มาครั้งแรกปีไหน ตอนนั้นชอบอาหารอะไร อาหารเกาหลีเทียบกับอาหารไทยเผ็ดมั้ย ว่ายน้ำเป็นมั้ย (out of nowhere มากค่ะพส) แล้วก็ถามว่าตอนนี้กี่โมง มีให้ดูรูปแล้วให้เราเล่าว่าเค้าพูดว่าอะไร ซึ่งตอนนั้นเกาหลีเราตะกุกตะกักมาก เอาจริงอ่านเข้าใจนะว่ารูปจะสื่ออะไร แต่พูดไม่ได้ T_____T ก็บอกเค้าไปตรง ๆ ว่าคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไร อาจารย์ก็ไม่ว่าอะไรน้า ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ชิล ๆ เลยพอคุยเสร็จอาจารย์ที่สัมภาษณ์เราก็จะบอกว่าให้เรามาดูชื่อที่บอร์ดนะว่าอยู่กึบอะไรแล้วก็วันมาซื้อหนังสือค่ะ :-)

    ถัดจากวันไปสอบวัดระดับ 2–3 วันก็จะมีอีเมล์มาบอกว่าเราจะได้เรียนกึบไหนแต่ถ้าไปที่โรงเรียนก็จะมีชื่อเราติดที่บอร์ดด้วยเหมือนกันค่ะ ซึ่งเราไปก็ที่โรงเรียนแหละเพราะเป็นวันที่เค้านัดให้มาซื้อหนังสือเรียน เหมือนถ้ามาวันนั้นจะมีส่วนลดที่ต่ำกว่าราคาปกด้วยค่ะ :-)

    เป็นบอร์ดยาว ๆ ประกาศทั้งชื่อนร ชื่ออาจารย์ เลขที่ห้องเรียนค่ะ

    PS. จริง ๆ หนังสือเรียนมาซื้อตอนเปิดเทอมวันแรกได้ค่ะ แต่เราไม่รู้ก็เลยต้องไปรรฟรีๆวันนึงเลย แง้ ซอนเซงนิมหลอกนุ T-T


    ความเร็วในการเรียนเป็นยังไง ไม่มีพื้นฐานจะไปรอดมั้ย ?

    สำหรับเราคิดว่าการสอนไปค่อนข้างเร็วแต่ก็จะสอนแบบให้เข้าใจแบบใช้ได้จริง แต่ก็ต้องอาศัยการทบทวนเองด้วยค่ะ สำหรับเราคือเราเคยเรียน Ewha 2–1,2–2 มาที่ไทยแล้ว หลาย ๆ อย่างก็จะเข้าใจมาก่อนทำให้เข้าใจและสามารถใช้พูดออกมาได้เร็วกว่าคนอื่นนิดหน่อย แต่เพื่อน ๆ ที่ไม่เคยเรียนมาก่อนก็แทบจะทุกคนในห้องแต่ก็สามารถเรียนได้นะคะ อาจารย์จะคอยช่วยตลอด ส่วนอันไหนก็เราแม่น ๆ เราก็จะช่วยสอนเพื่อนได้บ้างจนเป็นที่รักของเพื่อน ๆ เลยค่ะ ฮรี่ๆ


    สมัครยังไง ? ทำเองได้มั้ยยย ?


    เรากด apply บนเว็บด้วยตัวเองทั้งหมด โดยกดที่คำว่า Online Registration ได้เลยค่ะ ซึ่งบนเว็บจะมี instruction บอกเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดว่าขั้นตอนไหนต้องทำอะไร กรอกยังไง ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ซึ่งตอนนั้นเราเป็นนิสิตมหาลัย เอกสารที่เราต้องขอก็คือ transcript และใบรับรองสถานะนิสิตเป็นภาษาอังกฤษแล้วอัพโหลดเป็นไฟล์ pdf ให้กับทางELCค่ะ


    ต้องทำ VISA มั้ย ?

    ถ้าสมัครคอร์สเดียวและอยู่ในเกาหลีไม่เกิน 90 วันไม่ต้องทำวีซ่าค่ะ เข้ามาปกติเหมือนเป็นนักท่องเที่ยวได้เลย ถ้าสมัครเกิน 2 คอร์สต้องทำวีซ่านักเรียนภาษา D-4 ค่ะ ซึ่งเคสเรามาเรียนแค่คอร์สเดียวก็เลยไม่ต้องทำวีซ่านั่นเอง ฮ่าาา 

    ปล.แต่ช่วงโควิดเราอีเมล์ไปถาม ELC จนท.บอกว่าจะเข้าประเทศได้คือต้องมีวีซ่าเท่านั้นจึงจำเป็นจะต้องสมัคร 2 คอร์สขึ้นไปเพื่อให้ทาง ELC ออกเอกสารสำหรับขอวีซ่า D-4 ให้ค่ะ


    ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไหร่ $_$

    ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตีเป็นเงินไทย (1000KRW = 29 บาท)
    ค่าคอร์ส+ค่าสมัคร = 51,620 THB (1,780,000 KRW)
    ค่าหนังสือเรียน = 1,972 THB (68,000 KRW)
    ค่าบริการโอนเงินไปต่างประเทศ BBL = 1,150 THB (ปี2019)
    ค่าที่พัก (6 มิ.ย. — 25 ส.ค.) = 50,600 THB
    ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ = 12,000 THB 
    ค่าโทรศัพท์ 3 เดือน = 3,000 THB 

    รวม ๆ 4 อย่างนี้ก็ประมาณเลขกลม ๆ ได้ 120,400 THB ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ ค่ะ

    ค่าใช้จ่ายส่วนตัวแล้วแต่บุคคลมาก ๆ เลยค่ะว่ากินอาหารแพงมั้ย นอกบ้านทุกมื้อมั้ย ชอปปิ้งบ่อยมั้ย เดินทางบ่อยหรือเปล่า อะไรแบบนี้ค่ะ :-) 

    อาหารมื้อนึงถ้าซื้ออาหารง่าย ๆ ตามร้านสะดวกซื้อเช่น ข้าวสามเหลี่ยม แซนด์วิชก็ตก 1,500 - 3,000 KRW ถ้ากินนอกบ้านส่วนมากถ้ากินในร้านก็จะ 6,000–8,000 KRW อัพ ถ้ากินหมูย่าง เนื้อย่าง บุฟเฟ่ต์มื้อนึงก็อาจจะ 15,000 KRW อัพ บางทีมีค่าไปคาเฟ่กาแฟแก้วนึงก็ 4000–7000 KRW ค่ะ ดังนั้นก็แล้วแต่เลยว่าทุกคนจะใช้แบบไหนเนอะ ถ้าทำอาหารกินเองบ้าง ไม่เที่ยวบ่อย เราคิดว่าเดือนละ 15,000 บาทก็อยู่ได้ค่ะ แต่เรามีเวลาไปสนุกแค่ 3 เดือนเราเลยอยากจะใช้ชีวิตสบาย ๆ อยากไปไหนก็ไป อยากกินไรก็กินก็เลยเสียหายหนักเลยค่ะ ?


    ตอนนี้ยาวมากแล้วว ขอจบไว้ที่ตรงนี้ก่อน ตอนถัด ๆ ไปจะมาพูดถึงเพื่อนในห้อง สไตล์การเรียนการสอน วิธีการสอบ การหาที่พักค่าา ???

    ถ้าใครมีคำถามหรือสงสัยเรื่องไหนสามารถ comment ทิ้งไว้หรือติดต่อมาทางคอนแทคด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ???

    See you next chapters :-D

    Contact me
    Twitter: @chynshj
    Instagram: chynshj

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in