เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น้าสาวของคุณอาร์มเป็นคนพบเจอแล้วเล่าให้ฟัง ย้อนกลับไปเมื่อ 12 ที่แล้ว คุณอาร์มอยู่กับน้าสาวและยายที่จังหวัดร้อยเอ็ด ขอแทนว่าน้าเทาละกัน กลางดึกคืนหนึ่งน้าเทานอนไม่หลับเลยลุกขึ้นมากินน้ำ คืนนั้นฝนตกปรอยๆ มีเสียงกบร้อง ลักษณะบ้านเมื่อสิบกว่าปีก่อนจะเป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูงแบบคนอีสาน ตัวบ้านอีกฝั่งหนึ่งจะมีแค่ระเบียงไม่มีผนังกั้นเพื่อรับลม พูดง่ายๆคือเปิดโล่ง กระติกน้ำจะอยู่ตรงชานบ้านติดระเบียง ขณะกินน้ำน้าเทามองฝ่าความมืดออกไปนอกบ้านไปยังบ้านฝั่งตรงข้ามที่เยื้องกันประมาณสามหลังก็เห็นไฟสีเขียวสีเหลืองกระพริบๆ น้าเล่าว่ามันคล้ายๆกับไฟที่ค่อยๆหยดลงจากจมูกผู้ชายคนหนึ่ง นึกออกไหมเหมือนเวลานำ้ตาเทียนมันไหล แล้วมันก็มีเรื่อยๆเป็นสีเขียวเหลืองส้ม น้ารู้ละว่านี่คือผีเป้า ด้วยความที่น้าไม่ค่อยกลัวผีและอยากรู้ว่าเป็นใครเลยเดินลงมาแอบดูที่บันได ตอนนั้นบันไดจะอยู่นอกตัวบ้าน น้าสังเกตเห็นว่าผีเป้าอยู่ลานบ้านหลังหนึ่ง สักพักไฟก็ดับแล้วก็ไปกระพริบอยู่หน้าบ้านอีกหลัง สักพักน้าก็รู้สึกว่าผีมันกำลังจะเดินผ่านมาทางบ้านตัวเองเลยรีบขึ้นบ้าน ปรากฎว่ามันผ่านมาจริงๆ น้าก็แอบดูผ่านกระจก มองเห็นว่าเป็นผู้ชายใส่เสื้อลายแล้วก็เดินหายเข้าไปทางวัดของหมู่บ้าน พอเช้าน้าก็เล่าเรื่องนี้ให้ที่บ้านและเพื่อนบ้านฟัง แล้วเรื่องนี้ก็กระจายไปทั่วหมู่บ้าน ตอนนั้นทุกคนกลัวมาก รีบเข้าบ้านกันตั้งแต่หัวค่ำกันทั้งหมู่บ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่บางคนก็เล่าต่อว่าผีเป้าหรือผีโพงเนี่ยตอนกลางวันมันเป็นคนปกติ แต่ตอนกลางคืนจะออกหากินกบเขียด บางคนบอกว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเลี้ยงว่านอาถรรพ์ บางคนก็ทำผิดวิชาบางอย่าง ดังนั้นมันจะกลัวคนรู้ว่ามันคือใคร ถ้ามีคนรู้มันจะเอาทรัพย์สินมาให้คนๆนั้น แต่บางทีมันก็จะทำลายโดยการโยนไม้คานหักแม่หม้ายข้ามหลังคาบ้าน (โบราณถือว่าถ้าบ้านไหนโดนแบบนี้จะเกิดหายนะในบ้าน ไม่ใช่เรื่องดี) หรือไม่ก็ถ่มน้ำลายใส่เพื่อให้กลายเป็นผีเป้าเหมือนกัน เคยมีเรื่องเล่าว่าหญิงสาวคนหนึ่งในหมู่บ้านตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกแล้วบังเอิญเจอคนรู้จักในหมู่บ้านเดินผ่านบ้านตอนดึกๆเลยเดินไปทัก ปรากฎว่าโดนถ่มน้ำลายใส่ก็เลยกลายเป็นผีเป้าเหมือนกัน คนอีสานจะคุ้นเคยกับเรื่องนี้เป็นอย่างดี
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in