เพราะมีเพียงในฝันเท่านั้นที่ผมจะได้เห็นคุณ
ผมอยากมาเล่าถึงความฝันของผม
ความฝันที่มักจะเดินเข้ามาหาผมในเวลาเจ็ดโมงเช้า
“สวัสดีครับ เดี๋ยวหมอขอตรวจอาการประจำวันหน่อยนะครับ”
ความฝันที่ใช้เสียงหวานหูนั้นพูดคุยกับผม
“อาการปกติดีนะครับ ดีมากเลย”
ความฝันที่ใช้มือนุ่มนิ่มของเขาบีบแน่นที่แขนให้เป็นกำลังใจ
“วันนี้หมอต้องไปแล้วนะครับเดี๋ยวหมอจะกลับมาใหม่นะ”
ความฝันที่มีเขาเป็นเพียงภาพจินตนาการที่ผมสร้างขึ้นมาเพราะความเป็นจริงแล้วมีเพียงความมืดเท่านั้นที่ผมมองเห็น
“คุณหมอครับ”
“ว่าไงครับ”
“วันนี้ช่วยอยู่กับผมก่อนได้ไหมครับ”
“ได้สิครับ”
ผมได้ยินเสียงประตูที่ปิดลง นั่นน่าจะเป็นพยาบาลที่มาด้วยกันเดินออกไป ส่วนคนที่ผมขอให้อยู่ด้วยกันคงจะเป็นเจ้าของเสียงลากเก้าอี้ที่มาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง
“วันนี้หมออยู่ด้วยนานไม่ได้นะครับ”ผมอยากจะน้อยเนื้อต่ำใจกับประโยคพวกนั้นแต่เสียงหวานที่อ่อนลงกับแรงบีบกระชับที่หลังมือนี่ก็ทำให้ผมใจอ่อนได้ทุกที
ผมเงียบและเขาก็เงียบ
หนึ่งคนใช้ดวงตา หนึ่งคนใช้หูฟัง
“วันนี้มีอะไรจะถามหมออีกรึเปล่า”
“ผมอยากถามถึงดอกไม้น่ะครับ”
“…”
“ตอนที่มันสวยที่สุดคือตอนไหนเหรอครับ”
“นั่นสินะสำหรับหมอคงจะเป็นตอนที่มันเพิ่งเกิดล่ะมั้ง ดอกไม้ดอกเล็กๆ ที่ค่อยๆเติบโตไปตามกาลเวลาและสิ่งแวดล้อมรอบตัว” ผมนั่งฟังอย่างตั้งใจ นึกจินตนาการภาพตามที่เสียงเจื้อยแจ้วอธิบายถึงดอกไม้ที่ผมถามอย่างละเอียดเพื่อให้คนที่ไม่เคยมองเห็นนึกภาพตามได้ง่าย ถ้าได้เห็นมันจริงๆ จะสวยมากแค่ไหนกันนะ จะเป็นสีแบบไหน ตอนที่มันเพิ่งเกิดจนกระทั่งโตเต็มที่จะสวยเหมือนอย่างที่คนอื่นเขาพูดกันรึเปล่า
ทุกๆ วัน ผมมักจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงหรือมากน้อยกว่านั้นแล้วแต่ที่งานของคุณหมอจะยอมให้ผมได้นั่งฟังเรื่องต่างๆ ที่ผมสงสัย บ้างก็พระอาทิตย์ตอนที่มันขึ้นจนกระทั่งตกดินมีสีแบบไหน ถามถึงตัวอักษรในหน้าหนังสือทีไม่ใช่อักษรเบลแบบที่เขาได้สัมผัส จนกระทั่งวันนี้เป็นดอกไม้
ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่ผมถามคุณหมอก็ไม่เคยปฏิเสธที่จะตอบ หนำซ้ำยังอธิบายอย่างละเอียด ใช้เสียงหวานที่มักจะปรับให้ดูเคร่งขรึมเวลาที่คุณกับคุณพยาบาลแต่กับผมกลับใช้เสียงธรรมชาติที่แม้จะไม่ได้หวานใสเหมือนเสียงหญิงสาวแต่สำหรับผมมันน่าฟังยิ่งกว่า
ผมมองไม่เห็นตั้งแต่จำความได้ ไม่แม้แต่จะเคยได้เห็นหน้าพ่อแม่ของตัวเองหรือบางทีผมอาจจะจำไม่ได้ไปแล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหน้าตาตัวเองเป็นยังไงมีคุณหมอหลายคนที่กลายมาเป็นหมอประจำตัวของผมแต่แล้วก็ทำได้แค่ผ่านไปเพราะไม่สามารถช่วยอะไรผมได้ ผมเคยคิดท้อจนอยากฆ่าตัวตายไปซะ ตายไปจากโลกที่เห็นได้แค่ความมืดมิดนี้ซะให้มันจบๆไป
จนกระทั่งผมอายุ 20 วันเกิดที่ของขวัญนั้นพิเศษยิ่งกว่าปีไหนๆ
“หมอต้องไปแล้วนะครับ”
ผมเอนตัวนอนราบไปกับเตียง หลับตาลงนึกภาพตามถึงดอกไม้ดอกเล็กสีขาว ดอกลิลลี่ที่คุณหมอชอบก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
บางทีเขาอาจจะลืมถามอะไรคุณหมอไปอีกอย่าง
ระหว่างดอกไม้กับรอยยิ้มของคุณหมอ อะไรที่สวยกว่ากันนะ?
#yourethedream
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in