สัปดาห์ที่ผ่านมา Lionsgate อัพโหลดตัวอย่างภาพยนตร์ John Wick: Chapter 3 — Parabellum ลงบนยูทูปทำเอาเหล่าแฟน ๆ ของสุดยอดนักฆ่าผู้โดดเดี่ยวรู้สึกตื่นเต้นไปตาม ๆ กัน นอกจากจะมีฉากต่อสู้ที่และตัวละครใหม่ที่ดึงดูดความสนใจจากคนดูแล้ว เพลงประกอบในเทรลเลอร์ก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจ เพราะเป็นสื่อที่ใช้บอกอารมณ์ (mood & tone) โดยภาพรวมของภาพยนตร์เรื่องนั้น ๆ ซึ่งถ้าเราไม่อยากอ่านหรือติดตามบทวิเคราะห์ที่มีอยู่มากมายในอินเตอร์เน็ต เราก็สามารถเลือกตีความจากเพลงที่ใช้ประกอบภาพยนตร์ได้ด้วยตนเอง
เพลงที่ใช้ในเทรลเลอร์คือเพลง The Impossible Dream (the Quest) ซึ่งเป็นเพลงที่มีคนนำกลับมาทำใหม่อยู่หลายต่อหลายครั้ง ตอนที่ฟังดีไซน์การร้องก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเป็นเวอร์ชั่นของ Frank Sinatra หรือเปล่า แต่เพลงที่จะชวนให้ผู้อ่านได้ฟังกันวันนี้คือ The Impossible Dream เวอร์ชั่นปี 1967 ของ Matt Monro ที่คิดว่าน่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่ได้ยินกันบ่อยที่สุด
เนื้อเพลง+คำแปล
To dream the impossible dream
To fight the unbeatable foe
To bear with unbearable sorrow
To run where the brave dare not go
จะฝันใฝ่แม้เป็นไปไม่ได้
จะสู้แม้มีศัตรูที่ไร้พ่าย
จะยังยืนหยัดแม้มีความเศร้าสุดอาดูร
จะบุกไปในดินแดนที่แม้แต่ผู้กล้ายังหวาดกลัว
To right the unrightable wrong
To love pure and chaste from afar
To try when your arms are too weary
To reach the unreachable star
จะแก้ไขความผิดพลาดที่ไม่มีผู้ใดแก้ไขได้
จะยังรักแม้ไม่ได้ครอบครอง
จะตะเกียกตะกายแม้เรี่ยวแรงจะอ่อนล้า
จะไขว่คว้าซึ่งดาราที่สูงเกินเอื้อมถึง
This is my quest
to follow that star
No matter how hopeless
No matter how far
แม้ว่าจะสิ้นหวังสักแค่ไหน
แม้ว่าจะห่างไกลสักเท่าไหร่
จะตามดาวดวงนั้นไป
เพราะชะตาลิขิตให้พิชิตดารา
To fight for the right
without question or pause
To be willing to march into hell
for a heavenly cause
จะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง
โดยไม่หยุดยั้งและปราศจากความเคลือบแคลง
จะเดินทางสู่ขุมนรก
ด้วยเจตจำนงจากสรวงสวรรค์
And I know,
if I'll only be true
to this gloriuos quest,
that my heart will lie peaceful and calm
when I'm laid to my rest.
ด้วยตระหนักว่า
หากซื่อตรง
ต่อชะตาที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้แล้ว
จิตจึงจะสงบได้
เมื่อยามสิ้นลมหายใจ
And the world
will be better for this;
that one man scorned and covered with scars
still strove with his last ounce of courage
to reach the unreachable star.
และโลกใบนี้
จะสงบสุขและดีขึ้นได้
หากยังมีบุรุษที่แม้ร่างเต็มไปด้วยบาดแผลและถูกเหยียดหยาม
มุ่งมั่นต่อไปด้วยความกล้าหาญทั้งหมดที่เหลืออยู่
เพื่อพิชิตดวงดาวที่สูงเกินจะไขว่คว้า
หลายคนอาจจะทราบมาบ้างว่าเพลงนี้ถูกถอดความและเรียบเรียงใหม่เป็นภาษาไทยมาแล้วคือเพลง "ความฝันอันสูงสุด" โดยมีท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาคเป็นผู้ประพันธ์เนื้อร้อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระราชนิพนธ์ทำนอง และคุณสันติ ลุนเผ่เป็นผู้ขับร้อง ส่วนเพลงต้นฉบับนั้นมีอีกชื่อหนึ่งคือ The Quest หรือภารกิจ ประพันธ์เมื่อปี 1965 เพื่อประกอบในละครเวทีเรื่อง Man of La Mancha หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดอน กีโฆเต้ (Don Quixote) ดัดแปลงมาจากนวนิยายสเปนชื่อเดียวกัน เป็นนวนิยายแนวเสียดสีที่นับได้ว่าเป็นแรงบันดาลใจและแต่งออกมาได้ยอดเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่ง เนื้อหาในเพลงเป็นตอนที่ดอน กีโฆเต้ตอบคำถามของนางดุลสิเนอาที่ว่า "ภารกิจ (quest) ของท่านที่ว่านั้นคืออะไร?" และสิ่งที่ตอบในเพลงนี้ก็คือสิ่งที่ดอน กีโฆเต้คิดว่าเขาเกิดมาเพื่อทำสิ่งเหล่านี้ให้สำเร็จลุล่วง อย่างไรก็ดี ตัวละครดอน กีโฆเต้นั้นเป็นตัวเอกในนวนิยายแนวเสียดสี กล่าวคือความจริงแล้วเขาเป็นเพียงขุนนางยศน้อยที่คลั่งไคล้นิยายอัศวินและฝันอยากจะมีชีวิตผจญภัยและยิ่งใหญ่เหมือนในนิยายที่เขาชอบอ่าน สิ่งที่เขาพูดดูจะเพ้อฝันอยู่ในจินตนาการของตัวเอง แต่ในบางครั้งกลับโน้มน้าวใจของคนปกติทั่วไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
และหากเราจะมองบทเพลงนี้ผ่านบริบทของจอห์น วิคในภาคใหม่นี้ แน่นอนว่าสิ่งที่ตีความออกมาคงจะต่างออกไป เท่าที่จำได้ในช่วงท้ายของภาคสอง จอห์น วิคตัดสินใจออกจากการเป็นสมาชิกของเดอะ คอนทิเนนทอล ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากมาก เหมือนขึ้นหลังเสือแล้วก็คงจะหาจังหวะลงยากเสียหน่อย เนื้อหาตรงนี้ก็น่าจะสอดคล้องกับเพลง The Impossible Dream หรือ The Quest ที่ทีมสร้างเลือกมาประกอบตัวอย่างหนังเพื่อบอกใบ้คนดูว่าเหตุการณ์ต่อไปจอห์น วิคกำลังทำ Quest หรือภารกิจที่ยากนักที่จะทำให้สำเร็จ แต่เขาก็มุ่งมั่นและมีใจแน่วแน่แล้วว่าจะลงจากหลังเสือตัวนี้ให้ได้ ซึ่งไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นเขาจะไม่หยุดจนกว่าจะทำให้สำเร็จ
สิ่งที่ผู้ชมทั้งหลายคาดหวังจากจอห์น วิคในภาคล่าสุดนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเนื้อเรื่องในส่วนที่จอห์น วิคจะเอาตัวเองออกมาจากองค์กรที่มีอำนาจและอิทธิพลอย่างมากมายมหาศาลนี้ได้อย่างไร เขาจะทำสำเร็จได้โดยตัวเองเพียงคนเดียวเหมือนที่ผ่านมาได้หรือไม่ แต่จากตัวอย่างภาพยนตร์ที่ปล่อยออกมาแล้ว เราคงจะเดาได้ว่าเรื่องในครั้งนี้อาจจะใหญ่เกินไปสำหรับตัวเขาเพียงคนเดียว ทำให้ต้องเปิดตัวตัวละครใหม่ที่อาจจะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้จอห์น วิคทำภารกิจในครั้งนี้ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี แฟน ๆ ก็คงต้องไปดูเฉลยกันในโรงภาพยนตร์ช่วงเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ หวังว่าหลังจากได้ดูไปแล้วจะมีโอกาสมาเขียนถึงบทสรุปในเรื่องนี้อีกครั้ง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in