เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storyเมย์
คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น
  • มีคนบอกว่ามนุษย์เราเกิดมาเพื่อค้นหาเป้าหมายของชีวิตและเวลาเดียวกัน ได้ถูกโปรแกรมเป้าหมายทางการเงินไว้ไม่แตกต่างกันนั่นคือทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการมีอิสรภาพทางการเงิน สามารถอยู่ได้ด้วยตนเองโดยไม่ไปฝากความหวังไว้กับคู่ชีวิต ลูกหลาน ครอบครัว หรือรัฐ

    แต่การเดินไปสู่เป้าหมายทางการเงินดังกล่าวบางคนก็เลือกปล่อยให้โชคชะตานำพาทว่าบางคนกลับกำหนดแผนการอย่างชัดเจนทั้งจำนวนเงินและ ระยะเวลาในการบรรลุเป้าหมายสำหรับบางคนที่เชื่อว่า "คนคำนวณ หรือจะสู้ฟ้าลิขิต"จะเลือกฝากชีวิตไว้ที่โชคชะตาทุกๆ 15 วัน แล้วฝันว่าสักวันหนึ่งคงโชคดีได้เป็นเศรษฐีโดยลืมสนิทว่าเงื่อนไขของสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น รางวัลที่หนึ่ง มูลค่า 6,000,000 บาท มีเพียงแค่ 1 รางวัลจาก จำนวนสลาก 1 ล้านฉบับ จึงเท่ากับมีโอกาสแค่ 1 ในล้านเท่านั้นที่จะเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลที่1 ซึ่งเมื่อเทียบกับสถานการณ์โรคมะเร็ง คนไทยมีโอกาสป่วยเป็นโรคมะเร็งประมาณ 1,000 กว่าคนต่อ จำนวนประชากร 1ล้านคน นั่นก็หมายความว่า ถาหากเรายังไม่ได้ซื้อประกันสุขภาพคุ้มดองโรคมะเร็ง เราก็ไม่น่าจะไปลุ้นรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลแต่นั่นแหละ หลายคนก็ยังเลือกเล่นหวยหรือซื้อ สลากกินแบ่งรัฐบาล จนมีคำเปรียบเปรย"คนจน เล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น" สำหรับผมเห็นด้วยอย่างยิ่งเพราะการเล่นหวยจะเล่นอย่างไรก็จนอยู่วันยันค่ำหากอยากมีโอกาสเป็นคนรวยในยุคทุนนิยม ผมขอแนะนำให้เรียนรู้ที่จะจัดสรเงินไปลงทุนในหุ้นหรือ หลักทรัพย์ทางการเงินประเภทอื่นๆมากกว่า

    ทำไมเล่นหวยแล้วยังจนอยู่วันยันค่ำ เนื่องจากถ้าลองพิจารณาเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลทุกรางวัลรวม 14,168 รางวัล จากจำนวนสลากรวมทั้งสิ้น1ล้นฉบับคิดเป็นเงินรางวัลรวม 48.000.000บาทจากราคาสลากรวมทั้งสิ้น 80,000.000 บาท คำนวณเสร็จสรรพแล้วต่อให้เรามีเงินซื้อสลาก กินแบ่งรัฐบาลทุกฉบับเงินรางวัลที่ได้กลับมา ก็ไม่คุ้มกับเงินตันที่เสียไป อย่างนี้นี่เองคนเล่นหวยจึงเป็นคนจนอยู่ร่ำไป

    ในทางตรงข้ามการลงทุนในหลักทรัพย์ทางการเงินไม่ว่าจะเป็นการออมเงินผ่านบัญชีเงินฝาก ธนาคารพาณิชย์ การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นกู้ภาคเอกชน และการลงทุนในหุ้นสามัญโดยเฉลี่ยจะให้อัตราผลตอบแทนที่มากกว่าศูนย์ ทั้งนี้จากข้อมูลการฝากประจำ 1 ปี การลงทุนใน ตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนและการลงทุน ในหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระหว่าง พ.ศ. 2547-2561 พบว่านักลงทุนจะได้ รับอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 1.89%, 4.63% และ 12.49% ตามลำดับ ยิ่งหากเรานำเงินไปลงทุนในทางเลือกที่มีความเสี่ยงมาก ก็ยิ่งมีโอกาสได้รับ อัตราผลตอบแทนสูงขึ้นอย่างไรก็ตาม การลงทุนในหลักทรัพย์ไม่ว่าจะเป็น ตราสารหนี้ (พันธบัตร หรือหุ้นกู้)หรือตราสารทุน (หุ้นสามัญ) ก็มีความเสี่ยง จากข้อมูลระหว่าง พ.ศ. 2547-2561เช่นกันพบว่าการลงทุนในตราสารทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีบางปีที่นักลงทุนอาจขาดทุนเกือบครึ่งหนึ่งของเงินลงทุน และ มีจำนวนปีที่ขาดทุน 6 ปีในช่วงระยะเวลา 15 ปีส่วนการลงทุนด้วยตราสารหนี้มีจำนวนปีที่มีการขาดทุน ปีในช่วงระยะเวลา 15 ปี แต่ถ้าเงินจำนวนดังกล่าวไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้ในปีที่ขาดทุนและเราทำการลงทุนข้ามผ่านปีที่ร้ายๆ เป็นระยะเวลาที่ยาวนานผลกำไรที่ได้จะหักล้างกับผลขาดทุน ที่เกิดขึ้นทำให้ได้รับอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้น

    และมากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินเฟ้อทั่วไปดังนั้นสำหรับใครที่อยากรวยอย่างมีเป้าหมายชัดเจนโดยสนใจต่อยอดความมั่งคั่งผ่านตราสารหนี้ หรือตราสารทุน แต่ไม่มีความรู้ไม่มีประสบการณ์ หรือไม่มีเวลาติดตามการลงทุน ก็อาจใช้ตัวช่วยการลงทุนผ่านกองทุนรวม ซึ่งมีผู้จัดการกองทุน เมื่ออาชีพคอยติดตามและบริหารเงินลงทุนให้ได้เพียงติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารพาณิชย์ใน แต่ละสาขาแต่ถ้าจะให้ดีก็ควรศึกษาหาความรู้ทาง การเงินเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลาด้วยตนเองควบคู่ไปด้วย

    บทความสาระความรู้โดย Slotxo

    เว็บสล็อตออนไลน์ https://www.finslot.com/ ที่ดีที่สุด สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยแน่นอน.

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in