เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My Mad Fat StoryParnyuhoo
วิตก-เกรดตก (1)
  • เกรดไม่ใช่ทุกอย่าง
    เกรดดี ไม่เท่ากับ ประสบความสำเร็จในชีวิต
    เกรดไม่ดี ไม่เท่ากับ ล้มเหลวในชีวิต

    ประโยคนี้คนเกรดไม่ดีอย่างเราควรเป็นคนพูดไม่ใช่หรอ
    เห็นทุกคนรีวิวเกรดโก้ๆแล้ว อยากรีวิวเกรดกากๆของตัวเองบ้าง ชีวิตมี 2 ด้านเสมอ
    การเรียนมหาลัยอาจมีคนสองประเภท
    1.เก็บเอ 2.หนีเอฟ
    เราเป็นอย่างหลัง
    ในยุคโซเชียลเรามักเห็นแต่สิ่งสวยงาม
    ก็แน่ล่ะ เรื่องไม่ดีใครเขาจะโพนทนากัน
    อัลแบร์ การ์มูร์เคยกล่าวว่า คนเรามักเล่าเรื่องแย่ๆของตัวเองให้คนที่แย่พอๆกันฟัง เนื่องจากเราไม่ได้ต้องการปรับปรุงแก้ไข หากต้องการเพียงคนเข้าใจและเห็นใจเท่านั้น
    ซึ่งก็เป็นความจริง

    การปลอบโยนและการโบยตีตัวเอง ต้องทำให้พอดี ตัวฉันดูเหมือนจะเอียงไปทางปลอบโยนเสียมากกว่า

    ปลอบ:
    เกรดคือการวัดผลแค่ในช่วงขณะ
    โบย:
    แต่เกรดก็แสดงถึงวินัยและความรับผิดชอบ

    ฉันไม่รู้ว่าหลังๆที่ทุกคนไม่ค่อยโบยตีฉัน อาจเพราะหมดศรัทธาในตัวฉัน และกลัวฉันจะหมดอาลัยในชีวิตกระมัง ฉันไม่รู้ แต่ขอบคุณมากที่ไม่มีใครซ้ำเติม หรือปกติเขาไม่ซ้ำเติมกันนะ
    ภาพการที่คนล้มแล้วถูกเหยียบซ้ำมันอยู่ในมโนภาพของฉัน อาจเพราะสารเคมีในสมอง

    หมอบอกว่า ฉันเป็นโรควิตกกังวล (Anxiety) ตอนแรกฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร สับสนกับซึมเศร้า (Depression) ด้วย อธิบายง่ายๆ อาจจะเหมือนมองโลกในแง่ลบ (ตลกตรงที่ตอนเด็กๆหรือโตแล้วก็ตาม เมื่อให้อธิบายตัวเองมักจะเขียนว่าเป็นคนมองโลกในแง่ดี~) กังวลไปก่อนล่วงหน้า หรือคนชอบเรียกว่า วิตกจริต คิดว่าถ้าเราทำอย่างนี้ คนนั้นจะต้องบลาๆ ไม่อยากทำให้ใครไม่พอใจ แต่เป็นไม่ได้ที่เราจะตามใจทุกคน และบางทีคนอื่นอาจไม่สนใจหรือเดือดร้อนไปกับการกระทำของเรามากขนาดนั้น ตัวใครก็ตัวคนนั้น เพราะฉะนั้นที่คิดเอาไว้ว่าคนอื่นจะไม่พอใจ เขาอาจจะไม่สนใจเราก็ได้ นี่คือวิธีคิดให้สบายใจของคนวิตกกังวล ความคิดแย่ๆมันอยู่แค่ในหัวของเรา

    หมอเคยถามว่า คิดว่าความกังวลมีประโยชน์ไหม? เราตอบว่ามี เพราะทำให้ไม่ประมาทและเตรียมรับมือได้ดี แต่ถ้ามีมากไปล่ะ ถ้ากังวลมากจะถึงขั้น Panic คือลน ทำอะไรไม่ได้เลย ไม่มีสมาธิ คิดนู่นนี่ตลอดเวลา วนหลูป อยากหนีปัญหา เช่นวันก่อนสอบถ้า Panic มาก อาจอยากหนีการสอบ หรือหนีไปจากที่นี่เลย หรือผลสอบออกก็อยากหนีออกจากมหาลัย จนถึงขั้นหนีจากการมีชีวิตเลยด้วยซ้ำ ใครไม่เป็นคงไม่เข้าใจ เรื่องนี้มีประเด็นดราม่าเยอะแล้วล่ะ มุมมองของคนในสังคมนี่แหละ ขอไม่พูดถึงละกัน สรุปว่ากังวลมากไปไม่ดีแน่ๆ จนคุณหมอเคยถามว่า หมอเขียนใบรับรองแพทย์ให้ไหมว่าฉันเป็นวิตกกังวล ตอนนั้นปฏิเสธ แต่กลับมาคิดอีกที มันรุนแรงและส่งผลทางตรงอย่างมากเหมือนกันนะ จนหมอบอกจะออกใบให้เลย

    จะว่าโทษความผิดปกติ โทษสารเคมีในสมองอย่างเดียวก็ไม่ได้ อยู่ที่ตัวเองจะเปลี่ยนแปลงด้วยไหม แต่สารเคมีก็มีส่วนจริงๆ ขอบคุณที่บ้านมากที่เข้าใจและยอมรับและรักษา ไม่โทษที่ฉันอย่างเดียว

    To be continued...
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in