เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Alive : ฆ่า(ข้า) ต้อง รอด !NO.W
ตอนที่ 9 : ถึงคราวเอาคืน
  • ……….

     

    ตอนที่ 9 : ถึงคราวเอาคืน

     

    “ใครเป็นคนคุมพวกมันทั้งหมดนี่ !” ผมตะคอกถามกระชากคอเสื้อ ยกตัวมันลอยเหนือพื้นมันหายใจติดขัดจนเอามือมาตะเกียกตะกายพยายามแกะมือผมออก

    “ไม่รู้เว้ย ! แต่ชะตาแกถึงคาดแล้วเพื่อนเอ๋ย” สายตามันมองผ่านหลังผมไปผมโยนมันกระแทกลงกับพื้นหันกลับไปเห็นศพมนุษย์ที่ขยายกล้ามเนื้อของมันจนร่างกายใหญ่โตท่าทางดูโหดเหี้ยมกำลังเดินมาหาผมช้าๆ

     

                ผมชักมีดขึ้นเตรียมพร้อมมันกวาดกำปั้นลงมา ผมเอี้ยวตัวหลบได้ทัน รู้สึกถึงลมอันหนักหน่วงที่แหวกอากาศผ่านร่างกายผมไปผมก้มตัวหลบหมัดที่สองที่มันกวาดมา แต่เสียท่าโดนลูกเตะเสยของมันเข้าอย่างจัง

     

                ร่างผมลอยลิ่วไปตามแรงเตะกระแทกกับไอชุดสูทที่กำลังจะลุกพุ่งเข้าใส่ตัวบ้านข้างหลังไม่รู้ก่อสร้างมาไม่ดีหรือมันเก่า ผมและมันกระแทกทะลุกำแพงบ้านเข้าไปกลิ้งขลุกกับพื้นบ้านข้างในอาการจุกจากการกระแทกเริ่มก่อตัวขึ้นช้าๆ

     

                ผมยันตัวกับโต๊ะหน้าทีวีเพื่อลุกขึ้นเหลือบไปเห็นไอชุดสูทที่รองรับแรงกระแทกส่วนหนึ่งไปจากผม นอนแผ่สลบอยู่กับพื้นถัดจากผมไปไอร่างยักษ์มันเดินตรงมาหน้าประตูบ้าน ก้าวหนักๆ ของมันดังตึงทุกครั้งที่มันก้าวเดิน

     

                ก่อนผมจะหนีออกมาจากฝั่งเคลโอผมยังไม่เคยเจอเจ้ายักษ์นี่มาก่อนแต่มันต้องมีจุดอ่อนสักแห่งแน่ๆ ผมตั้งสติมองไปที่ร่างกายใหญ่โตเบื้องหน้าผมตัดสินใจทะยานออกผ่านรอยแตกของกำแพงที่ผมทะลุเข้ามา มันเงื้อมหมัดผมเคลื่อนหลบด้วยความเร็วที่มากกว่า ปาดมีดไล่ขึ้นเป็นแนวทแยงจนถึงไหล่ซ้ายของมันเลือดสาดกระเซ็นตามรอยบาด ผมถอยหลบลูกเตะ อ้อมมาอยู่ด้านหลัง ฟันมันอีกหนึ่งแผลกลางหลัง มันร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด

     

                มันหันกลับมา สายตากราดเกรี้ยวกว่าเดิมวิ่งเข้าใส่ พื้นดินพลันสั่นสะเทือน ผมเตรียมกระโดดขึ้นเพื่อหลบแต่มันดันเหยียดมือสุดคว้าเข้าข้อเท้าผม เหวี่ยงลงกระแทกพื้นถนนความเจ็บสะท้านเข้าเต็มๆ ผมเอามือยันได้ทันแต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรรู้สึกเหมือนโดนรถสิบล้อทับใส่ร่าง มันยังไม่ปล่อยมือจากข้อเท้าผมมันยกผมห้อยหัวลงกับพื้นผมไม่รู้ว่าร่างกายยังตอบสนองหรือว่าโดนกระแทกเสียหายไปแล้ว

     

                มันโยนลอยผมไถลกลิ้งไปตามพื้นถนนห่างจากกลุ่มไบรอันออกไปอีกหลายสิบเมตรผมนอนนิ่ง กระอักเลือด สติเริ่มเลือนรางลงเรื่อยๆ

     

    ……….

     

    “กรี๊ด !”  แคลร้องลั่นเมื่อแขนเจ้าซอมบี้ที่นอร่าสะบั้นดิ้นอยู่ข้างๆเธอ

    “ต้องลุกแล้วแคล” ไบรอันประคองแคลขึ้นมาจากพื้นสถานการณ์แย่ลงเรื่อยๆ พวกมันทั้งอึดและเคลื่อนไหวได้เร็วกว่าซอมบี้ทั่วไปมากกระสุนกำลังร่อยหรอลงเรื่อยๆ

    “อาคารเยื้องกลับไปทางเดิมอีกหน่อย มีตรอกเล็กๆ ทะลุไปถนนอีกเส้นนึงได้  รีบไปเร็ว !” นอร่าตะโกนบอกสะบัดมีดในมือตัดกรงเล็บยาวเฟื้อยที่เกือบจะสะบั้นคอราฟไปหมาดๆ

    “เร็วเข้าราฟ ยกกระเป๋าขึ้น” อลิซเดินนำคณะตามนอร่าที่คุ้มกันแทบรอบด้านให้

    “เดี๋ยวสิ ! เจคยังไม่มาเลย รอเจคก่อน”  แคลพูด

    “พวกเราต้านพวกมันไม่ไหวแล้วแคล ถ้าเราไม่ไปตอนนี้เราจะตายกันทั้งกลุ่มนะ”ไบรอันออกแรงดึงแคลไปกับตน

    “เจค !” แคลตะโกนสุดเสียงขณะไบรอันกำลังออกแรงดึงตัวเธอเข้าไปในตรอก

    “ต่อจากนี้พวกนายต้องเดินตัดถนนหลักทะลุอีกตรอกนึงไปยังถนนหลักอีกเส้นมันจะไกลรัศมีการโจมตีมากกว่า”นอร่าบอกกับไบรอันและอลิซ ตอนนี้ทั้งหมดอยู่บนถนนหลักถัดมา เหล่าผู้รอดชีวิตเมื่อเห็นซอมบี้ต่างพากันรีบวิ่งหนีตายไปทางนิวเคลโอบ้างก็ถูกซอมบี้รุมทึ้งกิน

    “แล้วเธอจะไปไหนนอร่า” อลิซถามยิงซอมบี้ที่กำลังปีนผนังในตรอกที่ตนผ่านมาเข้ากลางหัว มันหลุดลงกระแทกพื้นแน่นิ่งสนิทจุดอ่อนยังคงเดิมแต่คงยากถ้าไม่แม่นพอ เพราะร่างกายมันแข็งแกร่งกว่าเดิม

    “ฉันต้องกลับไปช่วยเจ้านั่น ถ้าฝ่ายเคลโอได้ตัวหมอนั่นไป ได้เกิดเรื่องแย่ๆขึ้นแน่” นอร่าทำท่าจะหันกลับไปยังตรอก

    “ระวังตัวด้วยนะนอร่า เธอก็เป็นหนึ่งในคนที่พวกมันต้องการตัวเหมือนกัน”อลิซว่า

    “อื้อ !” นอร่าพยักหน้ารับ  หันไปหาแคลที่น้ำตาซึมอยู่ข้างๆ ไบรอัน

    “นี่ แฟนเธอยังไม่ตายสักหน่อย เดี๋ยวเขาก็ตามเธอไปเองแหละ” นอร่าว่า สบตาไบรอันที่จับมือแคลแน่นกลัวเธอจะดิ้นหลุดไปไหน ไบรอันพยักหน้าให้เธอเหมือนรู้ว่าเธอต้องไป

    “โชคดีนอร่า”  ราฟตะโกนอวยพรให้นอร่า ที่เดินลับเข้าไปในตรอก เธอยกมือขึ้นโบกกลับ

     

    ..........

     

    “แคล...” ผมได้ยินเสียงเธอตะโกนเรียก ผมพยายามยันตัวลุกขึ้นอีกครั้ง

     

    ตึง ! เจ้ายักษ์ล้มลงกระแทกพื้น อยู่ดีๆ มันก็ล้มลงผมเห็นคนในชุดเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษเมื่อครั้งก่อนห้าหกคนสองคนในกลุ่มดูคุ้นตามากที่สุด เจ้าคนที่ติดตลกที่ชื่อริกเดินตรงมาหาผม

    “อะไรกัน แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วรึไง” ริกพูด เนื้อตัวเต็มไปด้วยคราบเลือดในมือทั้งสองข้างมีทั้งมีดและปืนสั้น เจ้าคนสุขุมนั่นถือสไนเปอร์เนื้อตัวไม่เลอะคราบเลือดเท่าไรคงเป็นเจ้านี่ที่จัดการเจ้ายักษ์ที่กำลังจะฆ่าตน

    “เอ้า ลุกขึ้นได้แล้ว ดูซิว่านายลากตัวอะไรมาบ้าง”  ริกพูดผมเอื้อมมือไปคว้ามือริกก่อนดึงตัวเองขึ้นยืน ตัวผมยังโงนเงนถึงแม้ว่าจะพิเศษแต่ก็ยังเป็นมนุษย์อยู่ดี

    “ฉีดนี่ซะ มันจะทำให้นายกลับเป็นปกติอีก แล้วก็ระวังด้วยล่ะ ของมันแพง” ริกยื่นหลอดวัคซีนอะไรสักอย่างให้ ผมรับมาถือพิจารณาชั่วครู่

    “จิ้มๆ ไปเหอะ ตรงไหนก็ได้” ริกบอกเมื่อเห็นผมทำท่าลังเล

     

                ผมถอดปลอกออกแทงเข็มเข้ากลางหน้าอกตัวเอง กดปลายเข็ม ของเหลวข้นไหลเข้าไปในร่างความรู้สึกร้อนผ่าวซ่านไปทั่วทั้งตัวก่อนจะเปลี่ยนเป็นความเย็นเหมือนกับทั้งตัวชุ่มไปด้วยแอลกอฮอล์ ร่างกายรู้สึกดีขึ้นมาทันทีบาดแผลหายสนิท ความเจ็บปวดหายหมด

    “นี่มันยาอะไรกัน” ผมถาม ทึ่งกับประสิทธิภาพของมัน

    “พัฒนาการด้านยาของนิวเคลโอน่ะ ส่วนใหญ่ไว้ใช้กับพวกทหารเราๆ เนี่ยแหละเพราะต้นทุนและทรัพยากรในการผลิตมันหายาก”ริกตอบ หันไปช่วยเพื่อนตนยิงเหล่าซอมบี้ที่ยังถาโถมมาไม่หยุดหย่อน

    “ฉันว่านั่นคงเป็นเจ้าคนบงการขบวนแห่นี่” นอร่าเดินตรงเข้ามายังกลุ่มเจ้าหน้าที่และผมที่ยืนอยู่กลางถนน

    “ทีนี้พวกเธอก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วนี่ปล่อยของได้เต็มที่”  เจ้าหน้าที่คนหนึ่งระหว่างเปลี่ยนแม็กอย่างรวดเร็วก็หันมามองผมกับนอร่า

    “นั่นสินะ ได้เวลาโต้กลับแล้ว”  ริกว่า สายตาจับจ้องไปยังชายชุดสูทที่ดูมีออร่าโหดเหี้ยมกว่าคนอื่นกำลังเดินอยู่ใจกลางวงล้อมซอมบี้และกำลังตรงมาหาพวกเรา

    “แน่นอน”  ผมและนอร่าพูดขึ้นพร้อมกัน

     

    ..........

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in