เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Alive : ฆ่า(ข้า) ต้อง รอด !NO.W
ตอนที่ 20 : ภารกิจแรกก็เอาซะแล้วรึ
  • ..........

     

    ตอนที่ 20 : ภารกิจแรกก็เอาซะแล้วรึ

     

                ผมตื่นขึ้นมาในเช้าอีกวันห้องของผมไม่เล็กไม่ใหญ่ มีเตียงตรงกลาง ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ ตู้หนังสือ โซฟาเล็กๆสำหรับนั่งอ่านและกระจกใสบานใหญ่ตรงข้ามกับเตียงที่สามารถมองออกไปเห็นสภาพแวดล้อมข้างนอกที่เป็นป่าเนื่องด้วยฐานทัพเราอยู่ข้างในหุบเขา

     

                ผมรู้สึกเพลียเล็กน้อยเพราะตลอดช่วงบ่ายเมื่อวานหลังจากกินมื้อเที่ยงกับนอร่าผมก็แยกตัวออกไปฝึกคนเดียวตามที่เธอสอนผมมา ทั้งกระโดดไปมาบนตึกจำลองในชั้นใต้ดินฝึกเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเก็บเสียงให้เงียบเชียบที่สุด และอย่างอื่นที่จำเป็นอีกมากมาย

     

    เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงของนอร่า

     

    “นี่ ! รู้ใช่มั้ยว่าวันนี้ต้องทำอะไรน่ะ”

    “จ้าๆ ไปแล้วๆ”  ผมขานรับ จัดการแต่งตัวให้เรียบร้อยผมไม่เลือกที่จะใส่ชุดหน่วยจู่โจมเหมือนคนอื่นๆ เพียงแค่กางเกงขายาวเข้ารูปรองเท้าบูทสำหรับลุย แล้วก็เสื้อยืดธรรมดาสักตัว ตามด้วยเสื้อหนังสีเข้มและที่ผมสั่งทำพิเศษก็คือ เข็มขัดสนามที่มีซองสำหรับมีดและปืนหรืออุปกรณ์ต่างๆจะได้หยิบจับใช้งานได้ง่ายขึ้น

     

                ผมออกมารวมตัวกับคนอื่นๆที่ชั้นดาดฟ้า อันที่จริงเหมือนยืนอยู่บนพื้นที่โล่งๆ บนยอดเขาซะมากกว่าแต่มันก็ถูกตบตาด้วยกิ่งไม้และต้นไม้ที่จำลองขึ้นมาด้วยภาพโฮโลแกรมซึ่งมันคงช่วยพรางตัวให้ดูเนียนได้ไม่มากก็น้อย แต่เมื่อขึ้นมาผมกับไม่เห็นนอร่าและริกอยู่ในกลุ่ม

     

    “สองคนนั้นมีงานอื่นต้องไปทำน่ะ” อ๋องพูดขึ้นเหมือนกับรู้ว่าผมกำลังจะถามอะไร

    “เราจะไปกันได้ยังล่ะ” เอิร์นถามขึ้น

    “คึกรึไงฮะ?”  เปาถาม ข้างหลังสะพายสไนเปอร์ประจำตัวเปาอยู่หน่วยซุ่มยิง ส่วนเอิร์นเป็นขาลุยซะมากกว่า อ๋องนี่ยังไม่แน่ชัดเท่าไร เพราะตอนเจอครั้งแรกก็ใช้ปืนกลลุยๆแต่หลังๆ ไปซุ่มยิงบนตึกซะงั้น

    “ได้เวลาแล้ว” อ๋องพูดขึ้น

     

                ผมและคนอื่นๆ พากันเดินไปยังเฮลิคอปเตอร์ที่จอดรออยู่นานสายลมพัดเข้าปะทะแรงมากขึ้นเมื่อพวกเราเดินเข้าไปใกล้มัน ทุกคนนั่งกับที่ รัดเข็มขัดนิรภัยก่อนเครื่องจะทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าผ่านหมู่แมกไม้จำลองและสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ก่อนจะบินอยู่เหนือผืนป่า

               

    ..........

     

    “เอาล่ะพวกเธอสองคนคงรู้แล้วนะว่าพักหลังเจ้าหน้าที่เคิร์กมีท่าทีที่แปลกออกไป”เสียงผู้ชายพูดขึ้น น้ำเสียงฟังดูมีอำนาจเขานั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานไม้หรูภายในห้องที่ประดับประดาไปด้วยเฟอร์นิเจอร์เรียบง่ายแต่ดูแล้วให้ความรู้สึกมีอำนาจมันคือห้องทำงานของ ผบ. ศูนย์แห่งนี้

    “ครับ/ค่ะ” เสียงทั้งคู่ที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานขานรับ

    “ภารกิจของคุณคือเฝ้าดูการเคลื่อนไหวเจ้าหน้าที่เคิร์กไว้และคอยรายงานผม เรื่องที่ผมจะบอกก็มีแค่นี้แหละไปได้แล้ว”  ผบ.ว่า

    “ครับ/ค่ะ”  ทั้งคู่หันหลังกำลังจะเดินออก

    “อ้อ จัดการทุกอย่างตามที่พวกคุณเห็นเหมาะสมล่ะ”  ผบ.กล่าวเสริม

    “ได้ครับ”  ริกปิดประตูตามหลังก่อนหยุดยืนอยู่หน้าประตูกับนอร่า

    “อะไร” นอร่าถามเมื่อเห็นริกหยุด

    “ไม่รู้สิ เคิร์กเนี่ยนะ ไม่อยากจะเชื่อ”

    “กังวลไปก็เท่านั้นแหละ สู้เอาเวลาไปหาข้อมูลดีกว่า”  นอร่าหันหลังเดินออกไป

     

    ……….

     

                พวกเราใช้เวลาสักพักกว่าจะหลุดออกมาจากอาณาเขตป่าก่อนจะกลับมาสู่พื้นที่แห้งแล้งว่างเปล่าราวกับทะเลทรายที่อยู่รอบนอกของเมืองนักบินพาพวกเราผ่านหมู่บ้านที่ถูกยึดครองด้วยเหล่าซอมบี้ มันเป็นหมู่บ้านเล็กๆชานเมืองที่เงียบสงบ ก่อนเราจะมาถึงย่านตัวเมืองในที่สุด

     

                ตึกรามต่างๆ ตั้งเรียงซ้อนกันยุ่งเหยิงมันเป็นเมืองใหญ่ มีถนนหลายสายวิ่งผ่าน อาคารมากมายทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่โรงเรียน สถานีตำรวจ ร้านอาหาร หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันควรจะมีในเมืองที่เจริญแล้ว

     

    “พวกคุณต้องเดินเท้ามุ่งหน้าไปทางเหนือของเมือง” นักบินพูดขึ้นมันดังในหูฟังที่พวกเราสวมกันทุกคน

    “ไม่งั้นพวกมันจะเห็นพวกเรา” นักบินว่าต่อ ก่อนจะลดระดับเพดานบินลงจนลงจอดบนอาคารหลังหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นโรงแรมหรือไม่ก็สถานที่ราชการสักแห่งเพราะมันมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์อยู่บนดาดฟ้า

     

                ทุกคนตรวจเช็คสัมภาระที่เอามาก่อนลงจากเครื่องอ๋องยกมือเป็นสัญญาณก่อนที่นักบินจะพาเครื่องขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้งเพื่อกลับไปยังฐานที่มั่นที่พวกเราจากมา

     

    “ไม่ได้ออกมาข้างนอกซะนาน” เอิร์นพูดขึ้นด้วยความดีใจ

    “มันมีอะไรน่าสนใจรึไง” เปาถาม

    “นั่นดิ ว่าแต่ตึกนี้สูงเอาเรื่องนะเนี่ย”  อ๋องมองไปยังอาคารรอบๆ ที่อยู่ต่ำกว่าตึกนี้เกือบทั้งหมด

    “เราใช้วิ่งข้างบนดาดฟ้าดีกว่ามะ จะได้ไม่ต้องไปเผชิญพวกมันข้างล่าง”เปาเสนอ

    “ไอเอิร์นมันจะไหวเร้อ”  อ๋องถามกลับ มองไปยังเอิร์นที่ทำหน้าเห็นด้วย

    “งั้นก็ต้องลงไปชั้นล่างสิน่า แล้วมันมีกี่ชั้นล่ะเนี่ย” เปาพูดขึ้น ทำเอาทุกคนหน้าเจื่อนไปตามๆ กันเมื่อคิดได้ว่าเราอยู่ชั้นบนสุดอีกทั้งตึกนี้ยังสูงที่สุดในละแวกอีกด้วย

    “กว่าจะลงไปถึงกูผอมพอดี” เอิร์นพูดทำเอาอ๋องกับเปาพากันหัวเราะ

    “ผมว่าลงไปจนได้ระดับเดียวกับดาดฟ้าตึกอื่นแล้วดูกันอีกทีดีกว่าว่าจะเอาไงต่อ”ผมเสนอ

    “ก็คงต้องเป็นยังงั้นล่ะนะ”  อ๋องเห็นด้วย

     

                อาคารแห่งนี้เป็นโรงแรมภายในประดับประดาอย่างหรูหราและยังคงสภาพเดิมไว้ได้ ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไร เพราะคงไม่มีซอมบี้ตัวไหนมันเดินขึ้นมาถึงข้างบนสุดหรอกและนั่นทำให้ทุกคนรวมทั้งผมพากันคิดว่าอาจจะมีผู้รอดชีวิตที่นี่ก็ได้แต่แล้วพวกเราลงมาเป็นสิบๆ ชั้นก็ยังไม่เจอวี่แววผู้รอดชีวิตสักคน

     

    “เฮ้อ ! กว่าจะถึง” เอิร์นถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อพวกเราเดินลงมาถึงชั้นที่สิบห้า ก่อนจะเห็นอาคารอีกหลังหนึ่งซึ่งมันก็ยังอยู่ในอาณาเขตโรงแรมนี้อยู่ดี

    “เอาล่ะ เตรียมพร้อม” อ๋องพูดแง้มประตูทางหนีไฟออกช้าๆก้าวเดินออกไปอย่างเงียบๆ ทุกคนประทับปืนพร้อมยิงยกเว้นผมที่ไม่ชอบใช้ปืนเท่าไร

    “รู้สึกจะไม่มีอะไรนะ” เอิร์นว่า

    “อย่าประมาทดีกว่า” เปาตอบ

     

                พวกเราอยู่ในชั้นที่ไม่ใช่ห้องพักแต่กลับเป็นเหมือนฟลอร์เต้นรำขนาดใหญ่มีทั้งเวทีการแสดง โต๊ะอาหารมากมายวางระเกะระกะ ข้าวของมากมายเสียหายทิ้งเรี่ยราดตามพื้นแต่พวกเราก็ยังไม่เจอศพหรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ

    “นั่น…”  เอิร์นชี้ไปยังดาดฟ้าของอีกอาคารหนึ่งผ่านกระจกใสที่ทำล้อมรอบชั้นนี้ไว้ทั้งชั้น

    “แน่ใจนะว่ามันไม่มีทางเชื่อมไปตึกนู้นจากตึกนี้น่ะ” เปาถามทุกคน

    “ไม่มีหรอก ถ้ามีเดี๋ยวก็รู้ ลงมือเลย”  อ๋องพูด

     

                เอิร์นควักเอามีดความร้อนออกมาซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนจะมีเอิร์นเปิดการทำงานของมีดและเริ่มแทงทะลุกระจกใสมันเริ่มละลายเมื่อโดนความร้อนหลายพันองศาเอิร์นปาดเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่พอที่เราจะกระโดดผ่านออกไปได้สบายๆ พร้อมกันสองคน

    “เอาซะกว้างเลย” ผมพูดเมื่อเห็นเอิร์นทำ

    “เผื่อๆ ไว้ก่อน จะได้วิ่งกันสะดวกไม่ต้องระแวงว่าจะติด”  เอิร์นตอบพร้อมกับเลื่อนบานกระจกไปพิงไว้ข้างๆพร้อมกับเก็บมีด

    “ประมาณสามสี่เมตร”  อ๋องบอกกับทุกคน

    “ขอคนสุดท้ายละกัน” เอิร์นพูดขึ้นทันที

    “ให้ผมโยนไปมั้ยล่ะ” ผมเสนอความคิด

    “มันจะดีรึ?” เอิร์นหันมามองหน้าผมแบบทึ่งๆ

    “งั้นกูไปก่อน”  เปาพูด เดินกลับไปเตรียมระยะวิ่ง  ยืนสูดหายใจเข้าออกชั่วครู่ก่อนตัดสินใจวิ่งพรวดไปข้างหน้า เมื่อสุดขอบตึก เปาออกแรงกระโดดสุดแรง ทะยานออกไป

    “เอาแล้วไง !” เอิร์นอุทานขึ้นเมื่อเห็นว่าเปาโดดไม่ถึง แต่กลับกลายเป็นว่าเปาสามารถคว้าขอบตึกได้และปีนขึ้นไปได้สำเร็จก่อนหันมาทำสีหน้าเยาะเย้ยเอิร์น

    “เฮอะ ! อย่าให้ถึงตากู”

    “จะเริ่มก่อนเลยก็ได้นะ” อ๋องว่าเมื่อได้ยินเอิร์นพูด

    “ไม่ดีม้าง” เอิร์นตอบซึ่งผมคิดว่าดีแล้วล่ะที่เอิร์นตัดให้กว้างเพราะผมสามารถกระโจนออกไปช่วยได้ทันเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น

     

    ปัง ! เสียงปืนดังขึ้น ทุกคนพากันตกใจไปตามๆ กัน ก่อนหันหน้าไปทางต้นเสียงร่างของเปาล้มลงกับพื้น

    “ไอเปา !”  เอิร์นตะโกนด้วยความตกใจ

     

    ……….


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in