เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Alive : ฆ่า(ข้า) ต้อง รอด !NO.W
ตอนที่ 13 : ต้องรอด #1
  • ..........

    ตอนที่ 13 : ต้องรอด #1

     

    ทันทีที่ผมเริ่มเข้าใกล้มันเรื่อยๆเจ้าซอมบี้ตัวมหึมาข้างหน้ามันก็วิ่งตรงมาหา พื้นอาคารสั่นสะเทือนทุกย่ำก้าวที่มันวิ่งผมวิ่งเข้าไปหามัน กระโดดข้ามหัวมันไปลงด้านหลัง ผมรีบหันกลับ กดปิดการทำงานของมีดไฟ

    “แล้วจะเปิดทำไม?”  

     

    “นอร่า!?”  เธอยืนอยู่ข้างหลังผม สภาพเธอดีขึ้นว่าแต่เธอสลบอยู่นี่หว่า?

    “รู้สึกเหมือนฉันจะไม่มีตัวตนนะ ไม่มีใครคิดจะพาฉันลงมาด้วยสักคน” นอร่าพูดเสียงฉุน

    “คือ ฉัน...” ผมกระอักกระอ่วน รู้สึกผิดขึ้นมาทันที ในใจก็คิดว่าทำไมไมเห็นตอนเธอลงมา

    “ลืม” นอร่าพูดขึ้นมาเดินตรงมาหาพร้อมกับมีดของเธอในมือ “เอาเถอะ ! ฉันไม่คิดอะไรมากหรอก” เธอพูด เดินผ่านผมก่อนวิ่งเข้าไปหาเจ้ายักษ์ตรงหน้า

    “คิดชัดๆ”  ผมวิ่งตามเธอไป

     

                ทั้งชั้นเป็นพื้นโล่งปราศจากข้าวของไม่มีแม้กระทั่งเศษกระดาษ เป็นพื้นปูนซีเมนต์สีเทาราวกับว่าชั้นนี้ยังไม่ทันจะได้ตกแต่งอะไรด้วยซ้ำก็ต้องปิดกิจการซะแล้ว

     

                นอร่าก้มก่อนฉากหลบไปทางขวาฟันเข้าสีข้างเจ้ายักษ์ มันคำรามลั่นด้วยความเจ็บปวด มันหันหลังให้ผมผมหยิบปืนที่อ๋องให้มา รัวกระสุนไปสามสี่นัดเข้ากลางแผ่นหลังกว้างๆ ของมัน มันหันขวับวิ่งมาทางผมทันที

     

                ผมเปิดการทำงานของมีดอีกครั้งอันที่จริงถ้าไม่เจอนอร่าผมคงชิ่งหนีไปแล้ว ความร้อนของมีดมากขึ้นๆผมรู้สึกได้ถึงควันที่พวยพุ่งออกมาจากด้ามดาบร้อนระอุ ผมเตรียมตั้งรับ

    “กรี๊ด !”   เสียงกรีดร้องที่คุ้นเคยดังขึ้นมันคงดังไม่มากเท่าไรถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาแต่สำหรับผมแล้วมันชัดมาก  “แคล !”  ผมหันหลังกลับหมายจะมองให้เห็นเธอ

    “ไอ้บ้าเจค !” นอร่าตะโกนลั่นไปทั้งชั้นทำเอาผมรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่กำลังเข้ามา

     

                ผมหันกลับมาอีกทีกำปั้นไอซอมบี้ยักษ์ก็แทบจะลอยเข้าหน้าอยู่แล้วผมยกมือทั้งสองของผมขึ้นกันทันหวุดหวิด มีดไฟหล่นกระแทกพื้น แรงหมัดมันทำเอาผมเจ็บแปล็บขึ้นมาทันทีพร้อมๆกับร่างที่ลอยไปหลายเมตรด้วยความเร็วที่ดูจะไม่ลดลงเลยสักนิด

     

                ตอนแรกผมใช้ขายันไว้แต่อยู่ได้ไม่นานผมก็สะดุดล้มลงไปไถลครูดกับพื้นยาว ผมหันหน้าไประหว่างที่ตัวเองกำลังไถลอีกไม่กี่เมตรจะตกตึกอยู่แล้ว หันกลับมาเจ้ายักษ์มันก็วิ่งขนาบคู่มากับนอร่า ผมใช้มือตะเกียกตะกายถ้ามีเล็บเหมือนพวกข้างล่างผมคงปักติดกับพื้นไปแล้ว ไม่ถึงเมตรแล้วผมเริ่มจะเบรกได้ทันแต่ในใจลึกๆ ก็บอกตัวเองว่า ยังไงก็ตกอยู่ดี

     

    หมับ !  นอร่าคว้าข้อมือผมได้ทันหวุดหวิดก่อนที่ผมจะร่วงลงตึกไป

     

    “ข้างหลัง !” ผมตะโกนบอกนอร่า เมื่อเจ้ายักษ์อยู่ข้างหลังเธอปล่อยมือ ผมเกาะกับขอบตึกตัวห้อยอยู่กลางอากาศ

     

                นอร่าก้มตัวหลบกำปั้นยักษ์พุ่งเข้าปาดมีดของเธอกลางลำตัวไปอีกหนึ่งที ก่อนฉากหลบอย่างรวดเร็วมันมีแรงมหาศาลอีกทั้งยังถึก แต่ทุกคนย่อมมีจุดอ่อนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

    “ใช้มีดนั่น !” ผมบุ้ยหน้าไปทางมีดไฟที่วางทิ้งไว้กับพื้นนอร่าพุ่งเข้าไปคว้ามีด เจ้ายักษ์ช้ากว่าพวกเรานิดหน่อยนั่นจึงทำให้เรามีข้อได้เปรียบอยู่บ้าง

     

    ปัง ! ปัง !  กระสุนสไนเปอร์ดังลั่นมาจากหลังผมเจ้ายักษ์ข้างหน้าทรุดตัวลงไปคุกเข่ากับพื้น เลือดสาดออกมาจากข้อเข่าที่โดนยิงเป็นปืนที่อานุภาพร้ายกาจทีเดียว เจ้ายักษ์คำรามลั่น มันใช้มือค้ำพยายามจะลุกแต่ดูท่ากระดูกข้อต่ออันแข็งแกร่งของมันคงแตกไปซะแล้ว

     

                ผมปีนขึ้นจากขอบตึกหันกลับไปพยักหน้าขอบคุณอ๋องที่ยืนส่องสไนเปอร์อยู่คนเดียวบนหลังคาตึกฝั่งตรงข้ามที่พวกหน่วยจู่โจมลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ผมมองลงไป ริกกับลูกทีมอีกคนกำลังฝ่าซอมบี้ไปทางรถที่กลุ่มไบรอันยังคงปักหลักสู้อยู่

     

                ผมหันกลับมาก็ฉากที่ด้ามดาบลาวาเข้าไปปักกลางหน้าผากเจ้ายักษ์ทะลุไปด้านหลังส่งเสียงชี่ๆ ! เหมือนเนื้อย่างบนเตาควันพวยพุ่งออกมาจากหัวมัน นอร่าใช้เท้าตัวเองยันกับไหล่ยักษ์ก่อนดึงตัวมีดออกมาเธอปิดการทำงานของมันก่อนโยนมาทางผม

    “รอให้มันหายร้อนก่อนไม่ได้รึไง”  ผมเกือบจับโดนด้ามมีดเข้าให้

    “เอ้า ! นึกว่ามันหายร้อนเร็วกว่านี้ซะอีก”  นอร่าพูดฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่าเธอยังโกรธผมอยู่ หวังว่าจะไม่ได้โกรธผมแค่คนเดียวนะเพราะเป็นกันทุกคนต่างหากนอร่าเดินลงบันไดไปไม่รอผมด้วยซ้ำ

     

                ผมรีบวิ่งลงมาข้างล่างผลักประตูอาคารออก ท้องถนนข้างนอกราวกับมีการก่อกบฏ ซอมบี้ทยอยเดินเอื่อยๆ ไปทางพวกไบรอันและริกมีอ๋องคอยซุ่มยิงจากบนอาคารผมสังเกตเห็นว่ายังมีพวกซอมบี้กลายพันธุ์อยู่บ้างปะปนในกลุ่มผมเก็บมีดไฟไว้ดึงมีดด้ามยาวของตนขึ้นมา เดินลงขั้นบันไดหน้าอาคารเพื่อเข้าไปจัดการซอมบี้

     

                ริกและลูกทีมถึงกลุ่มไบรอันแล้วทำให้ผมอุ่นใจขึ้นอีกหน่อยส่วนนอร่านี่เป็นนักจัดการซอมบี้ตัวยงเหมือนที่ไบรอันเล่าไม่มีผิด เธอสะบั้นหัวแขน ขา ซอมบี้อย่างว่าง่าย ซอมบี้รอบตัวเธอค่อยๆ หายไปอย่างรวดเร็วผมคงไม่ต้องห่วงเธอเท่าไร

     

                ผมฟันซอมบี้นักดับเพลิงขาดเป็นแนวทแยงกลายเป็นสองส่วนเอี้ยวตัวหลบกงเล็บของซอมบี้หญิงในชุดคลุมทดลองสีขาวที่มีแต่คราบเลือดเกรอะกรังผมตัดเล็บยาวเฟื้อยของมันขาดร่วงกับพื้นก่อนหมุนตัวถีบส่งร่างมันลอยไปกระแทกซอมบี้ตัวอื่นที่อยู่ถัดไปอีกหลายเมตรผมมุ่งหน้าเดินต่อเพื่อจะไปหาแคล

    “ดีใจที่เจอนายเจค” ไบรอันทัก มือยังคงจับชะแลงฟาดซอมบี้อยู่

    “เช่นกัน”  ผมจับหลังหัวซอมบี้แน่น ก่อนทุ่มลงกระแทกพื้นถนนกะโหลกมันแตกดังโพละเลือดกระจายไปทั่ว อวัยวะภายในไหลนองเปรอะพื้น

     

                ผมเดินอ้อมตัวรถเปิดประตูเบาะหลังก้าวเข้าไปข้างในก่อนปิดประตูดังปึง แคลหันมาทางเสียงประตูปิด

    “ทายสิใครเอ่ย?”  ผมทัก

    “เจค !” เธอตะโกนด้วยความดีใจ ก่อนถลาเข้ามากอดผมตามทิศที่ได้ยินเสียงผมกอดเธอตอบ เรากอดกันอยู่พักหนึ่ง ไม่พูดอะไร ก่อนผมจะผละออก

    “รู้อะไรมั้ยข้างหน้านี่เป็นนิวเคลโอแล้วนา” ผมบอกเธอ

    “อลิซบอกฉันแล้วล่ะ เราจะได้อยู่แบบสบายๆ สักทีเนาะ”

    “ใช่...”  ผมกำลังจะพูดแต่ก็มีเงามืดเข้ามาข้างตัวซะก่อน

    “ฉันว่าพวกเธอรีบออกมาจากรถดีกว่านะ” แวบเดียวร่างนอร่าก็มาโผล่ข้างประตูผมมองผ่านออกไปเห็นยักษ์สองตัวกำลังเดินหน้ากระหายเลือดมาทางพวกเราทั้งกลุ่ม

    “มันมีกี่ตัวกันแน่เนี่ย”  ผมพูดเมื่อมองไปทางพวกมัน

    “อะไรเหรอ?”  แคลถามผมเปิดประตูออก ขณะริกยืนใช้สันปืนฟาดซอมบี้อยู่

    “ซอมบี้ระดับบอสน่ะ” ผมออกมายืนนอกตัวรถ พยุงเธอออกจากรถช้าๆ

     

                เสียงหวอเตือนภัยดังมาจากป้อมอาณาเขตของนิวเคลโอที่กำลังก่อสร้างเมืองอยู่พวกนั้นคงรู้แล้วว่าทางนี้เกิดอะไรขึ้น ผมสังเกตเห็นเงาทหารในชุดเกราะมากมายยืนเรียงกระดานเป็นอาณาเขตอยู่ใต้กำแพงกั้นที่ทำจากปูนสูงเพียงระดับเอวที่สร้างขึ้นเพียงเพื่อกำบังและกั้นอาณาเขตการก่อสร้างเท่านั้น

    “เราต้องรีบเข้านิวเคลโอให้เร็วที่สุด” ผมบอกริก

    “ก็อยากจะทำงั้นอยู่หรอกนะ แต่ทีมเราเพิ่งมีคำสั่งให้คุมสถานการณ์ทางนี้ให้ได้น่ะสิ”

    “ทีมที่เหลืออยู่แค่สามคนถ้าไม่นับพวกเราเนี่ยนะ” ผมถามไม่อยากเชื่อกับคำสั่งบ้าๆ นี่

    “แค่ล้มพี่เบิ้มพวกนี้ได้ก็พอแล้วล่ะ”  ริกพูด “ขอกำลังสนุบสนุนทางอากาศเราไม่มีอาวุธต่อกรกับพวกมันแล้ว” ริกหันไปบอกกับลูกทีมที่ทำหน้าที่สื่อสาร

    “ทางนั้นว่าไง”

    “กำลังมาครับ” ลูกทีมตอบอย่างขันแข็ง

    “พวกเธอควรจะเลี่ยงไปถนนอีกเส้นนะ” ริกแนะนำซึ่งทุกคนก็เห็นด้วยเพราะถ้าอ้อมเจ้ายักษ์ไปอาจจะง่ายกว่าและเร็วกว่าปะทะกันโต้งๆ

    “เราสามารถทะลุตรอกนั่นไปได้” อลิซชี้ไปยังตรอกแคบๆ ทางฝั่งเดียวกับที่อ๋องซุ่มอยู่มันอยู่ห่างไปไม่กี่เมตร

    “งั้นก็รีบไปกันเถอะ” ไบรอันว่า พลางเดินไปทางตรอก

     

    ผมปิดประตูรถ ยืนจับมือแคลไว้ มองไปยังพวกยักษ์ที่เหมือนดูเชิงพวกเราอยู่

     

    “งั้นเราสองคนก็ไปกันมั่งเถอะ” ผมบอกแคล พาเธอเดินอ้อมตัวรถจะไปยังตรอกที่ว่า

    “มาแล้วนั่นไง !” ราฟตะโกนอย่างดีใจเมื่อเห็นเฮลิคอปเตอร์กำลังมาทางพวกตน

    “ไม่น่าจะมาเร็วขนาดนี้” ผมบ่นกับตัวเองก่อนหันไปมองริกที่มองไปยังฮ. เช่นกัน แต่ที่แปลกกว่าก็คือมันบินมาจากทิศตรงข้ามกับนิวเคลโอน่ะสิ

    “นั่นมันเคลโอ !” นอร่าตะโกน

     

                เฮลิคอปเตอร์หมุนลำตัวเป็นแนวขนานเผยปืนกลขนาดใหญ่ที่ติดตั้งไว้ข้างหลังมีคนบังคับมันอยู่ด้วย

     

    มันรัวกระสุนลงมาแบบไม่คิด ห่ากระสุนไล่มาตามถนนกำจัดซอมบี้ไปเป็นสิบๆที่โดนลูกหลงไป อีกไม่กี่เมตรก็ถึงกลุ่มเราแล้ว

    “หาที่กำบังเร็วเข้า !” ริกตะโกนสุดเสียง

     

                กลุ่มไบรอันพากันวิ่งเข้าไปในตรอกเพื่อหลบกระสุนเสียงรัวกระสุนรวมทั้งคลื่นลมเหนือหัวที่เกิดจากใบพัดทำเอาผมแทบจะไม่ได้ยินอะไรนอกจากเสียงปืนและใบพัดของฮ.

     

                ผมหันตัวกำบังแคลไว้ก่อนทิ้งตัวลงหลบหลังรถริกกับลูกทีมก็ทำเหมือนผมเช่นกัน ส่วนนอร่าเธอหายไปอีกเช่นเคย

     

    “อั้ก !”  กระสุนทะลุกระจกฝั่งคนขับพุ่งเข้าทะลุคอลูกทีมเลือดสาดกระจายก่อนร่างเจ้าหน้าที่จะล้มลงกับพื้นเลือดไหลไม่หยุด 

     

                เสียงปืนหยุดลงแล้วดูท่าไม่กระสุนหมดก็คงเกิดอะไรสักอย่างผมลุกขึ้นแหงนหน้าขึ้นไปมองเครื่องบินที่หมุนไปมาทำท่าจะตก นักบินเสียชีวิตไปแล้วฝีมืออ๋องอีกตามเคย

     

    “ราฟ !” อลิซวิ่งพรวดเข้าไปหาร่างของราฟที่วิ่งเข้ามาในตรอกไม่ทันโดนกระสุนเข้าไปเต็มๆ หลายนัดได้ ราฟจึงไม่มีโอกาสได้พูดอะไรก่อนจากอลิซร้องไห้โฮด้วยความโศกเศร้าที่เพื่อนร่วมทางมานานได้ตายจากไปก่อนลุกขึ้นด้วยความเคียดแค้น วิ่งเข้าไปจัดการซอมบี้ข้างๆ ตัว

     

    โครม ! ตูม ! เสียงโลหะหนักตกระทบดังขึ้นข้างหลังมันคือเฮลิคอปเตอร์ของทีมเราตอนแรกที่คาตึกอยู่ตอนนี้มันตกลงกระทบพื้นเสียงดังข้างๆเจ้ายักษ์พอดิบพอดี ก่อนระเบิดกระจายชิ้นส่วนว่อนไปทั่วเจ้ายักษ์ตัวหนึ่งโดนลูกหลงใบพัดปักเข้าไปข้างลำตัวเต็มๆ มันทรุดลงดึงใบพัดออกเลือดไหลนองแต่ก็ยังคงเดินมาทางพวกเรา

     

                ตูม ! อีกลำที่เพิ่งมาพุ่งหลาเข้าไปในตัวตึกถัดไปในทิศตรงข้ามกับเจ้ายักษ์ก่อนระเบิดดังลั่นทำเอาตึกทั้งตึกแตกร้าวพังทลายลงมา อยู่ๆความรู้สึกเจ็บก็ปะทุขึ้นมาตรงสีข้างผมเอามือกุมก่อนพบว่าตัวเองเลือดไหล

    “เจค...” แคลพูดเสียงค่อย เธอยังนอนอยู่กับพื้นเอามือกุมหน้าท้องตนไว้เลือดสีแดงไหลออกผ่านร่องมือของเธอช้าๆ

     “แคล !”  ผมตกใจกับภาพที่เห็นผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองโดนยิงและมันทะลุโดนแคลเข้าไปด้วย ผมคุกเข่าข้างๆ เธอ

    “ต้องรีบพาไปนิวเคลโอด่วนไม่งั้นเสียเลือดตายแน่” ริกที่นั่งพิงตัวรถมองเจ้ายักษ์ที่กำลังมาส่วนตนก็นั่งเนิบๆ รอกำลังเสริม ริกไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร

    “อดทนไว้นะแคล เธอต้องไม่ตาย ฉันจะพาเธอไปรักษาเดี๋ยวนี้แหละ” ผมช้อนตัวเธอขึ้นอุ้ม

    “เอ้านี่ ! ยาระดับล่าง พอช่วยได้บ้าง” ริกโยนขวดยาให้ ผมรีบเปิดฝาก่อนป้อนเธอโดยเร็ว

    “เราต้องไปแล้ว แคล !” ไบรอันกับอลิซที่วิ่งเข้ามาต่างก็ตกใจเมื่อเห็น

    “ฝากด้วยนะริก” ผมลุกขึ้น หันไปพูดกับริก

    “อื้อ ! รีบไปเถอะ” ริกสะบัดมือราวเร่งให้พวกเราไปเร็วๆ

    “ฉันอยากเห็นหน้าเธอสักครั้งจังเจค” แคลพูด

    “เธอต้องได้เห็นแน่แคล เธอต้องได้เห็น เธอเข้มแข็งอยู่แล้ว จริงมั้ย”ผมวิ่งตามไบรอันและอลิซ ผ่านตรอกเพื่อทะลุไปยังถนนอีกเส้นหนึ่ง

    “นั่นสินะ เจคยังทนได้ทำไมฉันจะทนไม่ได้ล่ะ”

     

    ..........

               

                

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in