เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ซีรีส์จบแต่คนไม่จบBlueblog.cat
5 เหตุผลที่ควรดูซีรีส์ Twenty Five, Twenty One
  •                ถ้าให้พูดถึงซีรีส์เกาหลีมาที่แรงในขณะนี้ ชนิดที่ว่าติดเทรนทวิตเตอร์ทุกครั้งที่ออนแอร์กันเลยทีเดียว อย่างเรื่อง Twenty Five, Twenty One ที่เป็นซีรีส์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ เล่าถึงมิตรภาพ การเติบโต และความฝันของวัยรุ่น 5 คน ในยุค 90 ซึ่งแต่ละคนนั้นล้วนได้รับผลกระทบจากวิกฤเศรษฐกิจ IMF ปี 1998 กันทั้งสิ้น และเป็นที่มาของคำโปรยที่น่าสนใจและทำให้เรื่องน่าติดตามที่ว่า

    'ความฝันของพวกเขา ถูกพรากไปโดยยุคสมัย!!' 


    หลังจากที่ซีรีส์ได้ออนแอร์ผ่านมา 8 ตอน วันนี้ฤกษ์งามยามดี ก่อนจะไปดูตอนที่ 9 ที่กำลังเข้มข้นกันเลยทีเดียว เราขอมาบอก 5 เหตุผลที่ทำไมถึงควร(ต้อง)ดูซีรีส์เรื่องนี้กัน เริ่ม!


    1.เป็นซีรีส์แนว Coming of Age ที่พล็อตดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

                     ใช่แล้ว...ยี่สิบห้า ยี่สิบเอ็ด เป็นซีรีส์แนว Coming of Age น้ำดี ที่ชวนให้ทุกคนรู้สึกว่าได้เติบโตและเรียนรู้รสชาติของการเป็นผู้ใหญ่ไปพร้อมกับตัวละครในเรื่อง พล็อตเรื่องเล่าถึงปัจจุบันและอดีตยุค 90 ที่เชื่อมโยงกันผ่านการอ่านไดอารี่ของเด็กคนหนึ่ง เธอได้พาเราไปรู้จักกับ นาฮีโด แพคอีจิน โกยูริม มุนจีอุง และจีซึงวาน วัยรุ่น 5 คนที่เติบโตท่ามกลางผลกระทบจากวิกฤเศรษฐกิจ IMF ปี 1998 กลายเป็นเรื่องของความฝัน มิตรภาพ ความรัก และความทรงจำในวัยเยาว์ที่แม้จะเจ็บปวดแต่ก็ยังคงสวยงาม โดยซีรีส์เล่น "พล็อตทวิสต์" กับคนดูเข้าอย่างจัง กับการแกงตั้งแต่ต้นเรื่องว่า อ้าว!สรุปแล้วนาฮีโดกับแพคอีจินไปกันไม่รอด ไม่ได้คู่กันหรอกเหรอ? เพิ่มความน่าติดตามเข้าไปอี๊ก




    2.ความหมายของชื่อเรื่อง Twenty Five, Twenty One 

                      สงสัยกันมั้ยว่า ทำไมถึงชื่อเรื่องถึงชื่อ 25,21? คือเค้าบอกไว้ว่า นี่คือเรื่องราวของคนสองคนที่พบกันครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 22 และ 18 ปี และรักกันตอนที่อายุ 25 และ 21 ปี ซึ่งตอนที่แพคอีจินและนาฮีโดเจอกันครั้งแรกนั้น นาฮีโดยังเรียนอยู่ม.ปลาย และเป็นนักกีฬาฟันดาบที่มีความฝันอยากติดทีมชาติ ส่วนแพคอีจินเป็นอดีตลูกชายเศรษฐี กำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่มหาวิทยาลัย แต่บ้านล้มละลายเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจยุคนั้น เมื่อทั้งสองคนโคจรมาพบกันก็ได้เริ่มสร้างความทรงจำต่าง ๆ มากมาย จนเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่พึ่งพาอาศัยกัน คอยเป็นกำลังใจสำคัญให้กันและกัน และอาจเป็นความสุขเดียวในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ถ้าหากไม่มีกันและกันแล้ว...เราไม่อาจรู้เลยว่าทั้งสองคนจะก้าวผ่านมันไปได้อย่างไร




    3.กว่าจะมาเป็นนาฮีโดและโกยูริม

                       คิมแทรี รับบทเป็น นาฮีโด วัย 18 ปี เป็นผู้หญิงที่มีแพชชั่นในการฟันดาบอย่างแรงกล้า มีความมุ่งมั่น ทุ่มเทพยายามในการฟันดาบอย่างไม่ท้อถอย เพื่อไปให้ถึงฝันในการเป็นตัวแทนนักกีฬาฟันดาบทีมชาติ และโบนา ในบทบาท โกยูริม นักกีฬาฟันดาบทีมชาติระดับเหรียญทองการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ผู้ที่เป็นทั้งความหวังและกำลังสำคัญในกีฬาฟันดาบของประเทศเกาหลี 

                      จะเห็นได้ว่าในเรื่อง ทั้งโกยูริมและนาฮีโดต่างก็เป็นนักกีฬาที่เก่งกาจกันทั้งคู่ แต่เบื้องหลังของการมาเป็นนักกีฬาฟันดาบที่ทั้งเก่ง และมีจังหวะ ท่วงท่าของการฟันดาบที่สวยงามนั้น ทั้งคู่ต้องเข้าคลาสเรียนฟันดาบกับนักกีฬาเจ้าของเหรียญทองตัวจริงเสียงจริง เป็นเวลากว่าครึ่งปีกันเลยทีเดียว อันนี้ต้องขอยอมใจในความทุ่มเท เพื่อความสมจริง ให้คนดูได้อินไปกับตัวละครจริงๆ



    4.ใครคือพ่อของคิมมินแช?

                       มาถึงเรื่องที่หลายคนรวมถึงเราสงสัยว่าหนูน้อยนักบัลเลต์คิมมินแชที่อ่านไดอารี่ของนาฮีโดให้เราฟังนั้นพ่อของเธอคือใครกันแน่!? ทุกคนคงทราบกันดีว่า เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของนาฮีโด ตามที่เห็นในเรื่องแน่นอน แต่! เหตุการณ์หลายๆอย่างชวนสงสัยว่าสุดท้ายแล้วนาฮีโดกับแพคอีจินไม่ได้ลงเอยกันเหรอ? เกิดเป็นประเด็นมากมายในโลกออนไลน์ กับการสืบหาพ่อตัวจริงของคิมมินแช เพราะน้องมินแชนั้น นามสกุลคิม ไม่ใช่แพค! ทำเอาลุ้นไปด้วยเลยว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะดำเนินไปทางไหน จะพาทุกคนไปถึงฝั่งฝันอย่างไร และจะแฮปปี้เอนดิ้งหรือไม่...



    5.ความรักที่ไม่หวือหวา แต่อบอุ่น และเติบโตไปด้วยกันของแพคอีจินกับนาฮีโด

                          เนื่องจากครอบครัวล้มละลายความฝันที่จะไปนาซ่าของแพคอีจินก็ดับลงไปด้วย ครอบครัวต้องแยกย้ายกันอยู่ แพคอีจินที่เป็นลูกชายคนโตต้องพึ่งพาตัวเองอย่างมากในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ถึงแม้จะเคยใช้ชีวิตสุขสบายมาก่อน แต่แพคอีจินก็ไม่เคยย่อท้อขยันทำงานพาร์ทไทม์ทุกอย่างในหมู่บ้านจนต่อมาก็ได้เป็นผู้ประกาศข่าวในที่สุด เพื่อความฝันที่ว่าจะพาครอบครัวกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง โดยหนึ่งในกำลังใจสำคัญของแพคอีจินในช่วงเวลาที่โหดร้ายสำหรับเขานั้นแล้วคือ นาฮีโด เด็กสาวนักกีฬาฟันดาบที่ชอบอ่านการ์ตูน Full House และเป็นลูกค้าประจำของร้านเช่าการ์ตูนที่แพคอีจินทำงานอยู่ด้วย เมื่อทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน จึงเกิดเป็นความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกัน เป็นความสบายใจ เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กันและกัน เวลาที่แพคอีจินอยู่กับนาฮีโดแทบจะเป็นเวลาเดียวที่เขามีความสุขแบบที่ยิ้มออกมาได้จริงๆ และคิดว่าความสุขนั้นมันอยู่ใกล้แค่เอื้ิอม ทั้งที่จริงๆแล้ว คำว่าความสุขนั้นห่างไกลจากตัวแพคอีจินมากเลย แต่นาฮีโด เป็นคนบอกกับแพคอีจินว่า ต่อให้ทุกอย่างจะถูกพรากไป แต่อย่ายอมให้ใครมาพรากความสุขไปจากเราเลย เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน มามีความสุขกันเถอะ! เป็นคำพูดที่มีความหมายต่อแพคอีจินมาก เมื่อวันเวลาผ่านไป เราจะเห็นพัฒนาการด้านความสัมพันธ์ของทั้งคู่มากขึ้น ทั้งสายตาของแพคอีจินที่มอบความอบอุ่นและหวังดีให้นาฮีโดอยู่เสมอ สายตาที่ใสซื่อ ที่มีแต่ความจริงใจของนาฮีโดที่มีต่อแพคอีจิน ขอบอกเลยว่ายี่สิบห้ายี่สิบเอ็ดเป็นซีรีส์ที่พาทุกคนเติบโตไปพร้อมกันกับตัวละครในทุกด้านจริงๆ สำหรับใครที่สนใจ สามารถติดตามได้ทาง Netflix ทุกวันเสาร์อาทิตย์ เวลาสามทุ่มบ้านเรานะ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดจริงๆค่ะ!

                           



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in