นิยายเรื่องนี้เรียกว่าสนุกตั้งแต่ต้นเรื่อง การปูเรื่องที่เข้มข้น แค่ได้อ่านตอนแรกก็สามารถทำให้อยากติดตามอ่านต่อได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้แค้นของนางเอกอย่าง ‘ต้วนชิงหมิง’ ที่ถูกสามีและน้องสาวคนละแม่ รวมหัวกันกำจัดนาง จนนางตายและได้กลับมาเกิดใหม่ในร่างตัวเองอีกครั้ง ทั้งความสนุกที่นางจะเริ่มวางแผนเปลี่ยนชะตาชีวิตของตนใหม่ จากที่เคยยอมคนมากก ก็เปลี่ยนเป็นคนใหม่ อำนาจที่นางควรจะได้ในชาติก่อน กลับมาเกิดใหม่ชาตินี้นางก็ได้คืนมาทั้งหมด นอกจากเนื้อหาที่เข้มข้นแล้ว ภาษาของนิยายแปลเรื่องนี้ ยังแปลได้ไหลลื่น ไม่ขัดอรรรสของนักอ่านแน่นอน ใครที่ชอบนิยายแนวจีนโบราณ ที่นางเอกกลับไปเกิดใหม่แก้แค้นแล้วละก็ ห้ามพลาดเรื่องนี้เด็ดขาด ความสนุกคือ 10/10
ค่ำคืนที่ราวกับม่านสีดำผืนใหญ่โอบล้อมภูเขาที่ห่างไกลและบ้านเรือนต่างถูกปกคลุมอยู่ภายใต้ท้องฟ้าที่เหลือไว้เพียงความมืดมิดอันกว้างใหญ่เคว้งคว้าง
มืดทะมึน
มืดมิดไปหมด
ค่ำคืนที่ไร้แสงและความอบอุ่น กระทั่งเสียงนกร้องและแมลงก็เงียบหายไป มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านยอดไม้ สั่นไหวราวกับเสียงร้องแทบขาดใจอยู่ข้างหู ราวกับเป็นเสียงกรีดร้องที่ดังที่สุดในชีวิต
สายลมพัดผ่านลอดเข้ามาตามช่องหน้าต่าง แสงเทียนและกระดาษบุตรงหน้าต่างถูกลมพัดดัง “ตึ้ง ตึ้ง” เหมือนเตือนให้รู้ว่าอีกไม่ช้าจะมีภัยพิบัติคืบคลานใกล้เข้ามา
ที่ด้านนอกเมืองของเมืองซุ่นอาน มีจวนมืดมนน่าสะพรึงกลัวอยู่หลังหนึ่ง ด้านในมีแสงไฟสลัวๆ
สถานที่แห่งนี้เป็นที่รับรองอันงดงามของจวนซุ่นอานไป๋ที่ถูกปล่อยทิ้งรกร้างมาหลายปี แต่ไม่นานกลับมีคนกลุ่มหนึ่งย้ายเข้ามา ทำให้ที่นี่ดูวุ่นวายไปหมด ผู้คนที่อยากรู้อยากเห็นเข้าไปสอบถาม ถึงได้รู้ว่าฮูหยินของจวนซุ่นอานท้องได้สิบเดือน และตอนนี้เตรียมจะคลอดที่นี่
จวนซุ่นอานไป๋เป็นถึงจวนของเจ้าเมืองไป๋คุน ฮูหยินต้วนชิงหมิงเป็นภรรยาของบุตรชายคือไป๋หย่วนฮ่าว ในความเป็นจริงต้วนชิงหมิงควรจะรอคลอดที่จวนซุ่นอานไป๋ถึงจะถูก ทำไมถึงมาคลอดที่ห่างไกลเช่นนี้ ?
ผู้คนที่อยากรู้อยากเห็นต่างก็ทายกันไปต่างๆ นานาว่า ฮูหยินคนนี้อาจจะไม่ได้เป็นที่โปรดปราน จึงตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ?
ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะทายกันอย่างไร ภายในจวนแห่งนี้ต่างก็เริ่มทำงานตามที่แบ่งไว้
ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมภายในจวน มีเพียงห้องที่อยู่ด้านหลังที่มีแสงไฟลอดออกมา ผู้คนวิ่งพลุกพล่าน ดูท่าฮูหยินคงจะใกล้จะคลอดแล้ว
ได้ยินเสียงประตูไม้เปิดออกดังเอี๊ยด มีคนเปิดประตูและยกอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยเลือดออกมา
ประตูไม้ที่แกะสลักด้วยลวดลายวิจิตรบรรจงถูกเปิดออกแล้วก็ปิดลง ทำให้กลิ่นคาวเลือดอยู่คละคลุ้งไปทั่วห้อง
เลือด
เลือดจำนวนมากไหลราวกับงูน้อยที่เลื้อยออกมาจากฉากกั้นลมรูปทิวทัศน์ภูเขาแม่น้ำ ทำให้พื้นอิฐที่เก่าแก่เปียกชื้นจนส่งผลให้เกิดกลิ่นคาวแรงและกระจายเต็มไปทั้งห้องอย่างรวดเร็ว
สาวใช้ในห้องทั้งหมดต่างพากันออกจากห้องตามสัญญาณมือลับๆ และประตูไม้ที่หนักอึ้งก็ถูกปิดลงอีกครั้ง ภายในห้องที่ว่างเปล่าเหลือเพียงฮูหยินที่นอนอยู่บนเตียง แม่นมและสาวใช้ที่หน้าตาบึ้งตึงอีกคนเดินเข้ามาใกล้
เสียงที่อ่อนแรงฟังดูร้อนรนดังมาจากฉากกั้นด้านหลัง “แม่นมเถียน เป็น.. คุณชาย หรือ คุณหนู...เร็วเข้า รีบอุ้มมาให้ข้าดู”
แสงไฟสลัวสีเหลืองนวลทำให้มองออกว่าหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงนั้นอายุราวยี่สิบปี มีดวงตาและคิ้วเรียวงามละเมียดละไมราวกับภาพวาด ข้อบกพร่องเดียวที่มีคือสีผิวดำคล้ำ ไม่ได้ขาวผุดผ่องดั่งคนทั่วไป ทว่าในความบกพร่อง นางกลับมีดวงตาที่แวววาวคู่หนึ่งมาทดแทน ดวงตาบนใบหน้าคู่นั้นเหมือนไข่มุกในสายธารา ยามได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวราวกับแสงอาทิตย์ส่องประกายนุ่มนวลและอ่อนโยน
นางคือต้วนชิงหมิง ฮูหยินของคุณชายไป๋หย่วนฮ่าวแห่งจวนซุ่นอานจือ เนื่องจากอยู่ๆ ก็เกิดโรคระบาดขึ้นภายในจวน ทำให้ต้วนชิงหมิงซึ่งใกล้ถึงกำหนดที่จะคลอด จำต้องออกมารอคลอดอยู่ในจวนที่ห่างไกลและตอนนี้นางก็เพิ่งได้ให้กำเนิด
เมื่อได้ยินคำถามของต้วนชิงหมิง ใบหน้าของแม่นมเถียนก็ปรากฏให้เห็นถึงการหยามเหยียด คำพูดของแม่นมก็ดูถากถาง ภายในห้องที่ว่างเปล่าทำให้คนรู้สึกถึงการถูกเหยียดหยาม ได้ยินเสียงตอบอย่างเย็นชาว่า “เรียนฮูหยินใหญ่ เป็นบุตรชายเจ้าค่ะ”
เสียงตอบของแม่นมเถียนเป็นเหมือนเสียงของเครื่องจักร ภายใต้แสงที่ถูกลมพัดเดี๋ยวสว่างเดี๋ยวมืด ทำให้เห็นถึงใบหน้าของแม่นมที่ปรากฏรอยย่นไปทั่ว น่าหวาดกลัวเวลาได้ยิน
เนื่องจากการคลอดที่ไม่ราบรื่น ต้วนชิงหมิงจึงได้รับความทรมานตลอดสองวันหนึ่งคืน ถึงให้กำเนิดลูกชายคนนี้ได้สำเร็จ พลังทั้งหมดในตัวของนางถูกใช้จนหมดสิ้น ร่างกายช่วงล่างที่เกิดการฉีกขาดของอวัยวะทำให้เลือดไหลออกมาไม่หยุดจนเต็มไปทั่วเตียง แม้กระนั้น ดวงตาลุกวาวคู่นั้นของนางยังจ้องมองแม่นมเถียนที่กำลังใช้ผ้าห่อตัวทารกอย่างไม่คลาดสายตา นางเอ่ยอย่างร้อนรนและวิงวอน
“แม่นมเถียน รีบอุ้มคุณชายน้อยมาให้ข้าดูหน่อยเถิด”
นี่เป็นลูกชายที่นางเกือบแลกมาด้วยชีวิต เขาเป็นบุตรชายคนโตของฮูหยินในจวนซุ่นอานไป๋ และเป็นที่พึ่งทั้งชีวิตของนาง ตอนนี้ต้วนชิงหมิงเป็นแม่ที่ผ่านความเป็นความตายมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงอยากจะอุ้มเลือดเนื้อเชื้อไขของนาง
เมื่อดูแววตาของต้วนชิงหมิงจะเห็นถึงสายตาที่ไม่คิดถึงสิ่งใดนอกเสียจากบุตรชาย แม่นมเถียนเกิดตกใจกอดเด็กทารกในมือไว้แน่นพร้อมกับก้าวถอยหลังไป
ทารกตัวน้อยแม้เพึ่งจะลืมตาดูโลก ทว่าดวงตาเบิกโตนอนสงบเงียบอยู่ในอ้อมอกของแม่นมเถียนมองไปซ้ายทีขวาที ไม่ส่งเสียงดังร้องไห้แต่อย่างใด ใบหน้าเล็กๆ นั้น แลดูอารมณ์นิ่งสงบ
ต้วนชิงหมิงมองไปยังแม่นมเถียนก็ยิ่งรู้สึกถึงท่าทางแปลกๆ ใจคอเกิดความรู้สึกไม่สู้ดี ไม่รู้ว่าจู่ๆ เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน นางพยุงร่างที่อ่อนแอขึ้นมา ลุกจากเตียงเข้าไปหาทารกที่อยู่ในอ้อมอกแม่นมเถียน
เลือดยังคงไหลออกมาไม่หยุด แม้ต้วนชิงหมิงจะร่างกายอ่อนแอ หน้ามืดตาลาย แต่นางยังคงฝืนพยุงตัวไว้และพูดด้วยเสียงอ่อนแรงว่า “ลูก...ลูกของข้า!”
“นั่นเป็นลูกของข้า ทำไมเจ้าไม่ส่งมาให้ข้า?”
แสงไฟสว่างวาบเข้ามากระทบใบหน้าแม่นมเถียน ทำให้มองเห็นร่องรอยความเหี่ยวย่น ริมฝีปากหนาเผยออยู่หลายที ในที่สุดก็ยอมพูดออกมา
“ฮูหยินใหญ่ บ่าวขอให้ฮูหยินใหญ่รออีกสักครู่จะดีกว่า รออีกครู่เดียว ฮูหยินรองจะมาถึงแล้ว...”
ทั้งสายตาและรอยยิ้มที่เหี้ยมโหดของแม่นมเถียนทำให้ต้วนชิงหมิงตกใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ลูกที่นางพึ่งคลอดทำไมต้องรอให้ต้วนอวี้หรานมาด้วย?
ความสงสัยในใจยิ่งเพิ่มทวีคูณ สีหน้าของต้วนชิงหมิงซีดขาว เริ่มลนลานทำอะไรไม่ถูก “แม่นมเถียน เจ้าช่วยอุ้มคุณชายมาให้ข้าดูก่อนเถิด...”
แม่นมเถียนทำเพียงปิดปากเงียบ ไม่ขยับและตอบรับแต่อย่างใด
อากาศในห้องเหมือนมีเมฆหนามากมากดไว้ ทำให้หายใจแทบไม่ออก
“โอ้ เลือดเนื้อเชื้อไขที่คลอดออกมาเอง ช่างไม่เหมือนกันเสียจริง...” เสียงใสกังวานชัดเจนเสียงหนึ่งดังมาจากด้านนอกประตู เห็นเงาร่างหญิงสาวเดินเข้ามาอย่างไม่เร่งรีบ
สตรีนางนั้นอายุราวสิบเจ็ดสิบแปด ใบหน้ามีเสน่ห์ราวกับดวงจันทร์ แววตาวาววับทำให้คนต่างคะนึงหา บนร่างกายสวมชุดอวิ๋นเยียนซานสีเหลืองนวลปักลายดอกกล้วยไม้อย่างประณีต กระโปรงพลิ้วดังสายน้ำ ปักลายผีเสื้อคู่สีเดียวกัน ชุดคลุมด้านนอกเป็นชุดผ้าลูกไม้บางเบาลายดอกโบตั๋น ผมเกล้าสูงเสียบปิ่นลายกล้วยไม้ประดับมุกเป็นประกายระยิบระยับสะท้อนแสงไฟภายใต้เงามืด
หญิงสาวผู้นี้คือต้วนอวี้หรานน้องสาวของต้วนชิงหมิง เป็นน้องสาวที่เกิดจากอนุภรรยา เวลานี้ต้วนอวี้หรานเดินเข้ามาในห้องอย่างช้าๆ สายตาเต็มไปด้วยความสุข คิ้วงามโก่งสูง ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยันมองต้วนชิงหมิงที่เลือดยังคงเลือดไหลไม่หยุด ใบหน้าที่ดูแลอย่างดีของต้วนอวี้หรานเผยให้เห็นถึงความโหดร้ายและหยามเหยียด
“พี่สาวที่รักของข้า ข้ามาดูท่านแล้ว”
ต้วนชิงหมิงกัดฟันพูดออกมา “เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
ดวงตางดงามของต้วนอวี้หรานแฝงไปด้วยเลศนัย นางเลิกคิ้วขึ้น “เหอะๆ ข้าก็มาดูว่าพี่สาวข้าตายหรือยังน่ะสิ!”
หัวใจของต้วนชิงหมิงเย็นยะเยือกเหมือนน้ำที่จับตัวเป็นน้ำแข็งและจมลงไปอีกครั้งก็มิปาน นางจึงเลิกคิ้วขึ้นและพูดอย่างไม่เกรงกลัวว่า “เจ้าสบายใจได้ ต่อให้เจ้าตายไปแล้ว ข้าก็จะยังอยู่”
ทันใดนั้นต้วนอวี้หรานที่มีรอยยิ้มหยาดเยิ้มปานดอกไม้ก็หัวเราะขึ้นมาจนน้ำตาซึม “หรือว่าพี่สาวของข้าไม่เคยได้ยิน ว่าคลอดลูกหนึ่งครั้งก็เหมือนใกล้เข้าประตูยมโลก ประตูนี้ถ้าเข้าไปแล้วยากที่จะกลับออกมา แล้วใครจะไปรู้ล่ะ ว่าพี่สาวข้าจะโชคดีเหมือนครั้งที่แล้วหรือไม่?”
ใจของต้วนชิงหมิงพลันรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมา
ต้วนอวี้หรานพูดขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยมแลเหยียดหยาม “ไม่อย่างนั้น พี่สาวที่รักของข้าลองเดาสิว่า ข้าจะปล่อยให้บุตรชายท่านพี่มีชีวิตอยู่ต่อไปดีหรือไม่?”
……
เมื่อมองต้วนชิงหมิงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมานอยู่บนเตียง สายตาที่มองไปยังหน้าประตูด้วยความหวัง ต้วนอวี้หรานกลับหัวเราะเสียงดังสะใจ “พี่สาว ท่านอย่าได้คิดว่าท่านพี่จะมาช่วย...ให้ข้าบอกความลับแก่ท่านดีหรือไม่ ท่านพี่อยู่นอกประตูนี้เอง อยากจะพบเขาหรือไม่เล่า?”
คำพูดของต้วนอวี้หรานเต็มไปด้วยความอำมหิตเลือดเย็น ราวกับว่านางรู้ว่าท่านพี่เป็นความหวังเดียวของต้วนชิงหมิง ในใจของนางมีเพียงความหวังเดียวเท่านั้น ท่านพี่มาช่วยแล้วหรือ?
ท่านพี่มาแล้ว ข้ากับลูกจะไม่เป็นไรใช่ไหม?
ต้วนชิงหมิงรู้ว่าไป๋หย่วนฮ่าวรักใคร่ต้วนอวี้หรานเป็นที่สุด ขอเพียงที่ใดมีต้วนอวี้หราน ท่านพี่ก็จะอยู่ใกล้ๆ เสมอ
ปกติแล้วท่านพี่จะตามใจต้วนอวี้หรานเป็นพิเศษ ทว่าเรื่องนี้เป็นชื่อเสียงและหน้าตาของจวนซุ่นอานไป๋ รวมไปถึงนางและบุตรชาย ท่านพี่ในฐานะสามีและพ่อคนหนึ่งคงไม่ยอมให้ต้วนอวี้หรานทำอะไรได้ตามอำเภอใจ?
คิดได้ดังนั้นนางจึงพยุงร่างกายที่อ่อนแรงขึ้นมา พูดกับต้วนอวี้หรานด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าต้องการพบท่านพี่!”
เด็กคนนี้เป็นบุตรชายคนโตของจวนไป๋ ท่านพี่จะต้องหาวิธีปกป้องพวกเราใช่หรือไม่? จะต้องเป็นเช่นนั้นแน่
“เหอะ” ต้วนอวี้หรานหัวเราะเยาะหลังจากที่ต้วนชิงหมิงพลางส่ายหัวมองนาง “พี่สาวที่รักของข้า เจ้าจะไร้เดียงสาอะไรเช่นนี้...คิดว่าอยากจะเจอท่านพี่ก็ได้เจออย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นเจ้าเคยคิดหรือไม่ว่า เหตุใดเจ้าคลอดบุตรชายคนนี้ออกมา คนที่เข้ามาเป็นข้า ไม่ใช่ท่านพี่เล่า?”
ใช่แล้ว...นี่เป็นคำถามที่นางไม่เคยคิดมาก่อน นางคลอดลูกชายคนโตให้ไป๋หย่วนฮ่าว ทำไมท่านพี่ถึงไม่เข้ามาในห้อง แต่กลับเป็นต้วนอวี้หราน?
ไม่รู้ว่าต้วนชิงหมิงนึกอะไรขึ้นมาได้จึงส่ายหัว “ไม่ ข้าจะต้องพบท่านพี่!”
ต้องได้พบท่านพี่เท่านั้น ถึงจะหยุดน้องสาวที่แสนโหดร้ายของนางได้
ต้วนอวี้หรานมองไปยังต้วนชิงหมิงอย่างไม่สะทกสะท้าน นางเย้ยหยัน “แต่ตอนนี้ท่านพี่ไม่อยากพบเจ้า...ใครให้เจ้าคลอดลูกที่อัปลักษณ์เช่นนี้ ทั้งยังถือดีเป็นฮูหยินใหญ่ของท่านพี่ ถ้าไม่ใช่เพราะแกมาเป็นมารผจญ!
ตำแหน่งฮูหยินไป๋จะต้องเป็นของข้า!
ต้วนอวี้หรานปรายตามองไปยังต้วนชิงหมิงอย่างไม่สบอารมณ์ พลางถอนหายใจออกมา “พี่สาว เจ้ามันช่างอัปลักษณ์เสียเหลือเกิน...ที่จริงแล้ว เจ้าคงไม่รู้หรอกว่าหลายปีที่ข้าจำใจยอมให้ท่านพี่ร่วมหอกับเจ้า ทั้งยังมีลูกอีกสองคน...ไหนๆ พูดแล้วข้าขอพูดให้หมดก็แล้วกัน เพราะตอนนั้นข้ายังมีรากฐานไม่มั่นคง แต่ตำแหน่งฮูหยินต้องเป็นผู้ที่เข้มแข็งและมีอำนาจ จนบีบให้ท่านพี่ไม่มีทางเลือกจำเป็นต้องหาหมากสักตัวมาช่วยให้ท่านพี่รากฐานมั่นคง บัดนี้เจ้าทำสำเร็จแล้ว เจ้าก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป!”
เจ้ามันหมดประโยชน์แล้ว!
เรื่องจริงที่โหดร้ายทำให้ความหวังในใจของต้วนชิงหมิงค่อยๆ ดับวูบไป
เพียงครู่เดียว นางก็เข้าใจเรื่องเกือบทั้งหมด
ตอนนั้นนางต้องแต่งเข้าจวนไป๋ในฐานะฮูหยิน ต้วนอวี้หรานเข้ามาในฐานะฮูหยินรอง นางเข้ามาคอยดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ทั้งยังเคยบีบให้ฮูหยินที่มีอำนาจตายมาแล้ว และจัดการฮูหยินจางที่คอยขัดขวางท่านพี่อย่างลับๆ รวมถึงยังช่วยดูแลกิจการค้าขายของตระกูลไป๋ให้มีชื่อเสียงอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หลายปีที่ผ่านมาสองมือของต้วนชิงหมิงเปื้อนเลือดมาไม่น้อย ทั้งหมดก็เพื่อไป๋หย่วนฮ่าว
แต่ตอนนี้ต้วนอวี้หรานจะใช้ชื่อของท่านพี่มาส่งนางไปยังยมโลกอย่างนั้นหรือ?
ผู้ชายคนนั้นที่เคยมอบความรัก ให้เกียรติ ความสุข และความไว้เนื้อเชื่อใจต่อนาง เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว จึงอยากจะตัดนางทิ้งอย่างไม่ไยดีเชียวหรือ?
ไม่…นางจะไม่ยอมแพ้!
ต้วนอวี้หรานพูดเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เงาไฟจากตะเกียงตรงหน้าขยับไหวไปมา “มือของเจ้าเปื้อนเลือดของคนมานับไม่ถ้วน ท่านพี่บอกกับข้าว่า พอคิดถึงเรื่องเก่าๆ ที่เจ้าทำมาทั้งหมดยิ่งรู้สึกรังเกียจเจ้า ฉะนั้นเจ้าควรจะเดาได้...ว่าคืนนี้ก็คือท่านพี่ที่ให้ข้ามาจัดการกับเจ้า...นางอัปลักษณ์”
คำพูดต้วนอวี้หรานที่ว่า ‘นางอัปลักษณ์’ คำนั้นเป็นเหมือนมีดแหลมที่กรีดลึกลงไปในใจของนาง
นางอัปลักษณ์...ต้วนชิงหมิงทำเรื่องเลวร้ายมามากมาย สุดท้ายสิ่งที่ได้กลับมาเป็นเช่นนี้หรือ?
ต้วนอวี้หรานยกมือขึ้นมาป้องปาก ชื่นชมความเจ็บปวดทรมานบนหน้าของต้วนชิงหมิง ยิ่งนางทรมานมากเท่าไร รอยยิ้มบนหน้าและสายตาของต้วนอวี้หรานก็ยิ่งสาแก่ใจ ต้วนชิงหมิงบุตรสาวจวนต้วนและฮูหยินจวนไป๋ เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าเจ้าจะมีวันนี้เช่นกัน
“อันที่จริงเจ้าน่าจะเข้าใจไม่ใช่หรือ? ที่เมื่อก่อนท่านพี่ยังพอเกรงใจเจ้า แต่ตอนนี้แม่เจ้าตายไปแล้ว และแม่ข้ากำลังจะเป็นฮูหยินแทน อำนาจและความภาคภูมิใจของเจ้า ตอนนี้เป็นข้าแทนแล้ว ไหนเจ้าลองพูดสิว่า เจ้ายังมีประโยชน์อะไรอีก?”
หลิวหรงเป็นฮูหยิน?
ต้วนชิงหมิงมองไปยังใบหน้าน่าเกลียดของต้วนอวี้หราน อยู่ๆ กลับฉุดคิดได้ว่าในเมื่อต้วนอวี้หรานสามารถอดทนและแสดงท่าทีนอบน้อมมาได้ตั้งหลายปี ถ้าเช่นนั้นหลิวหรงเล่า?
ทันใดนั้น ในใจต้วนชิงหมิงพลันเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออก
ต้วนอวี้หรานเบื่อจะแยแสต้วนชิงหมิง จึงหันไปมองแม่นมเถียนและพูดอย่างเย็นชาว่า
“ส่งเจ้าเด็กนั่นมาให้ข้า”
แม่นมเถียนเดินขึ้นมาสองก้าว ส่งทารกที่อยู่ในมือให้ต้วนอวี้หราน นางค่อยๆ ใช้เล็บที่ทาเล็บสีแดงสดลูบไล้เบาๆ บนหน้าของเด็กน้อย น้ำเสียงแฝงไปด้วยความพิลึกเจ้าเล่ห์
ถ้าเจ้าเกิดมาเป็นลูกข้า ข้าจะหาสิ่งที่ดีที่สุดในใต้หล้ามาให้...แต่น่าเสียดาย ที่เจ้าไม่ใช่ลูกข้า!
สองปีก่อนต้วนอวี้หรานท้อง แต่นางไม่ระวังลื่นล้มจนต้องเสียลูกไป จากนั้นนางก็ไม่ได้ตั้งท้องอีก ฉะนั้นนางจะยอมให้ลูกต้วนชิงหมิงมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?
สิ่งที่ต้วนอวี้หรานไม่มีแต่ต้วนชิงหมิงกลับมี ถ้าเช่นนั้นนางก็จะทำให้เหมือนๆ กัน เอาพวกมันทั้งสองไปจัดการให้หมด!
ทารกที่พึ่งคลอดออกมาได้ยินเสียงที่แข็งกร้าวของต้วนอวี้หรานจึงร้องไห้เสียงดังขึ้นมา ใบหน้าต้วนอวี้หรานดูลุกลี้ลุกลน นางจึงยื่นมือไปบีบคอของเด็กน้อย ทารกในมือนางดิ้นเพียงครู่เดียวเสียงร้องก็ค่อยๆ เงียบลงจนสุดท้ายไม่มีเสียงใดอีก!
ต้วนชิงหมิงร้องออกมาปานจะขาดใจ มือทั้งสองคว้าไปมาในอากาศเพื่อต้องการหยุดฉากทรมานนี้
“อย่า...อย่าทำ...”
แต่จะหยุดได้อย่างไรกัน? ลูกชายต้วนชิงหมิงที่พึ่งลืมตาดูโลกตายในน้ำมือของต้วนอวี้หรานอย่างทรมาน
“ไม่ ไม่นะ”
ไม่รู้ว่านางเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน นางดิ้นสุดชีวิตให้พ้นจากการถูกมัดเพื่อจะแย่งลูกกลับมาจากแขนของต้วนอวี้หราน
“เอาลูกของข้าคืนมา...”
ตอนนี้ต้วนชิงหมิงไม่เหลืออะไรอีกแล้ว นางจะไม่ยอมสูญเสียลูกของตัวเองไปอีก
ท่าทางที่บ้าคลั่งของสตรีตรงหน้าทำให้ต้วนอวี้หรานถึงกับตกใจจนถอยหลังไปสองก้าว มองต้วนชิงหมิงที่ถูกแม่นมเถียนกดไว้อีกครั้ง นางจึงวางใจและพูดอย่างเย้ยหยัน
“พี่สาวที่รักของข้า...ถ้าข้าแย่งท่านพี่มาได้แล้ว ค่อยปล่อยลูกของเจ้าดีไหม? หรือว่าเจ้าอยากให้ข้ารับเลี้ยงทารกนี่เหมือนที่แม่ข้าทำ? สุดท้ายก็ตายอย่างน่าอนาถในหอนางโลม”
เมื่อได้ยินคำพูดที่บอกเป็นนัย ร่างกายของต้วนชิงหมิงก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว ที่แท้...อวี้เอ๋อร์ตายในน้ำมือของแม่ลูกคู่นี้
แล้วบ่าวคนที่คอยดูแล คอยทะนุถนอมเอาใจใส่และให้ความรักกับนางเล่า!...แท้จริงแล้วทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจอมปลอมหรือ? มีเพียงนางคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องอะไรแม้แต่น้อย เหมือนเป็นหุ่นเชิดให้คนพวกนี้เล่น?
ต้วนชิงหมิงทรมานร้าวรานเหมือนโดนมีดกรีดลึก น้ำตาไหลรินอาบใบหน้า นางลืมตาขึ้นใช้สายตาแดงก่ำมองไปยังต้วนอวี้หราน
หลิวหรง! ต้วนอวี้หราน!
ที่ผ่านมานางหูตามืดบอดหรือเพราะโง่ที่สุดในใต้หล้า จึงมองหน้าตาที่แท้จริงของแม่ลูกโหดเหี้ยมอำมหิตคู่นี้ไม่ออก!
ต้วนอวี้หรานค่อยๆ ก้าวเดินอย่างเนิบช้าไปหาต้วนชิงหมิง นางหยิบผ้าเช็ดหน้าที่ปักลายดอกไป่เหอฮวาออกมาสะบัดเบาๆ ปิดปากและจมูก เข้ามากระซิบใกล้หูของต้วนชิงหมิง เอ่ยเสียงต่ำที่เต็มไปด้วยความอำมหิตปนความอ่อนโยน
“พี่สาว เจ้าสู้ข้าไม่ได้หรอก ตั้งแต่เด็กจนโตขอเพียงเป็นสิ่งที่ข้าชอบ...เจ้าก็มอบทั้งหมดให้กับข้าไม่ใช่หรอกหรือ...แต่ครั้งนี้ สิ่งที่ข้าต้องการคือชีวิตของเจ้า เจ้ายอมให้ข้าแต่โดยดีเถิด...” คำพูดของต้วนอวี้หรานแต่ละคำเป็นเรื่องที่ต้วนชิงหมิงไม่คาดคิดมาก่อน!
นางรักน้องสาวคนนี้มาก ยอมให้หมดทุกอย่างมาตลอด แต่มาถึงตอนนี้มันสมควรแล้วหรือ ?
“เพราะเหตุใด ทำไม…”
ทำไมคนสนิทของนางถึงมีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตเช่นนี้? ต้วนชิงหมิงมองไปยังต้วนอวี้หรานอย่างสิ้นหวัง ร่างกายสั่นเทิ้มไปทั้งตัว
“ทำไมกัน?”
ทำไมทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้ ?
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in