หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ทำให้เรามองย้อนดูตัวเองว่า เราเคยเป็นแบบโทนีหรือเปล่า เราเคยโกหกตัวเองบ้างไหม เราเคยแต่งเรื่องราวของตัวเราเองให้ดูสวยงามในสายตาของคนอื่น แต่ความเป็นจริงคือตัวเราเองไม่ได้สวยอย่างที่คิดบ้างไหม และเล่มนี้เป็นเล่มทำให้มองย้อนดูตัวเองได้อย่างสวยงาม
เปรียบคนเขียนเป็นแพะที่สิ้นหวัง
ใจก็หยั่งรากลึกลงไปนั้น
ใจที่แสดงชั่วนั้นคือตัวเองกัน
หนีไม่พ้นพลันความจริงอันนิรันดร์
ตัวตนที่แท้จริงมีทั้งดีและไม่ดี
ชีวิตชี้ให้เห็นถึงสำคัญ
สิ่งที่เรากำลังลืมไปพลัน
หรือโกหกนั้นเพื่อตัวเอง
เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ แบ่งเรื่องราวของชีวิตของโทนี เอเดรียน เพื่อนสนิทของโทนี และเวโรนิกา คนรักเก่าของโทนี โดยแบ่งหลักๆออกเป็น ๒ หลักสำคัญ ได้แก่
๑. ภาคต้น
๒. ภาคปลาย
โดยเราขอเล่าเรื่องราวแบ่งออกเป็นสองภาคให้เพื่อนๆได้อ่านเพื่อทำความเข้าใจในหนังสือเล่มนี้ได้อย่างถี่ถ้วน โดยผ่านการไตร่ตรองของเรามาเรียบร้อยแล้ว
ภาคต้น
“ประวัติศาสตร์คือคำโกหกของผู้ชนะ”
โทนีมีเพื่อนสนิทชื่อ เอเดรียน และทั้งสองคนก็สนิทกันมาก และแถมรู้ใจกันและกัน วันหนึ่ง โรงเรียนเกิดเหตุการณ์ร็อบสันฆ่าตัวตาย เพราะเหตุผลส่วนตัว และเรื่องราวนี้เอเดรียนได้มีการเปรียบเปรยการฆ่าตัวตายของร็อบสันว่า เป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นแล้วและไม่มีใครลืมมันไปได้
หลังจากนั้น โทนีก็คบหาดูใจกับเวโรนิกา และเขาทั้งสองคนก็ดูรักกันมาก แต่ความจริงคือ โทนีรู้สึกกระอักกระอ่วนใจในบางครั้งเหมือนกัน เพราะเวโรนิกานั้นชอบเป็นผู้นำและจูงเขาไปทุกเรื่อง วันหนึ่ง เขาไปพบกับครอบครัวของเวโรนิกา และเขาพบว่า เขาถูกดูถูกและเหยียดสารพัดสิ่ง ก่อนที่ทั้งคู่จะจบความสัมพันธ์ลง
หลังจากทั้งคู่จบความสัมพันธ์ลง เอเดรียนได้ส่งจดหมายมาบอกกับโทนีว่า ตอนนี้เอเดรียนกำลังคบหาดูใจอยู่กับเวโรนิกา และโทนีส่งจดหมายแสดงความยินดีไปให้ทั้งคู่
และโทนีตัดสินใจไปแต่งงานกับมาร์กาเร็ต และทั้งคู่มีลูกด้วยกัน ก่อนจะจบความสัมพันธ์ครอบครัวที่สร้างขึ้นมา ภายใน ๓ ปีเท่านั้น ก่อนที่โทนีจะมารู้ข่าวว่า เอเดรียนฆ่าตัวตาย
“เพื่อนๆงงไหมค่ะ
ว่าทั้งเอเดรียนและเวโรนิการู้จักกันได้ไง”
(เราจะมาเฉลยในภาคปลาย)
ภาคปลาย
“ความเป็นจริงของจดหมาย คือ การแสดงความยินดีจริงหรือเปล่า”
เรื่องราวในภาคปลายนี้จะเป็นเรื่องราวที่เปิดเผยความจริงทั้งหมดว่า โทนีเป็นคนแบบไหน และความจริงของความสัมพันธ์ของทั้งสามจะเป็นอย่างไร
โทนีแนะนำเอเดรียนให้รู้จักกับเวโรนิกา ตอนที่ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน โดยที่โทนีไม่รู้มาก่อนว่า เอเดรียนหลงรักเวโรนิกา และเอเดรียนแอบรอเวลาที่ทั้งคู่จะเลิกกัน ก่อนที่เข้าไปเสียบ ซึ่งโทนีได้หลงลืมเรื่องราวเหล่านี้ไปแล้ว
จนกระทั่งวันหนึ่ง โทนีได้รับจดหมายจากแม่ของเวโรนิกาที่มอบจำนวนเงินถึง ๕๐๐ ปอนด์ พร้อมกับจดหมายฉบับหนึ่ง ซึ่งครั้งแรก โทนีไม่คิดจะเปิดดู แต่ในไม่ช้า โทนีตัดสินใจเปิดดู และพบความลับที่สมองของเขาทำหน้าที่หลงลืมไปแล้วนั้นเอง
เอเดรียนที่รัก ...
… ฉันหวังว่าพวกนายจะข้องเกี่ยวพัวพันจนยากแก่การถ่ายถอน และการทำลายล้างจะเป็นเรื่องที่เกิดกับพวกนายอย่างถาวร ... ใจหนึ่งฉันก็หวังว่าพวกนายจะมีลูกด้วยกัน เพราะเรื่องการแก้แค้นโดยใช้เวลา ...
โทนี
เพื่อนๆเข้าใจแล้วใช่ไหมค่ะว่า จริงๆแล้วโทนีหลอกตัวเองและเข้าใจว่า ตัวเขาส่งจดหมายแสดงความยินดีไปให้ทั้งคู่ แต่ความจริงคือ ตัวเขาส่งจดหมายสาปแช่งไปให้ทั้งคู่ต่างหาก
และเรื่องก็ดันบังเอิญไปตกอยู่กับลูกของเวโรนิกาและเอเดรียนจริงๆ ที่ลูกของเขาไม่ปกติ (ความจริงซับซ้อนกว่านั้น ก็คือ ลูกชายคนนี้คือลูกที่เกิดจากเอเดรียนและแฟนสาวอีกคนที่คือซาราห์) จึงทำให้ ทั้งสองเชื่อว่า เป็นเพราะคำสาปแช่งของจดหมายฉบับนี้ และนี่เองเป็นสิ่งที่แม่ของเวโรนิกาส่งเงินจำนวน ๕๐๐ ปอนด์มาให้ เพื่อจะได้เปลี่ยนทุกอย่างในอดีตให้ดีขึ้น
เมื่อโทนีเข้าใจทุกเรื่องแล้ว โทนีเขียนจดหมายฉบับหนึ่งไปขอโทษเวโรนิกา และโทนีได้ไปคุยกับมาร์กาเร็ต และทำให้เข้าใจว่า ทำไมมาร์กาเร็ตถึงตัดสินใจเลิกกับเขา เพราะตัวของเขานั้นเอง ที่ทำให้ทุกอย่างมันสายไป
“การจมอยู่กับความแค้น
นั้นนำพาทุกข์มามากมายเพียงใด”
เรื่องราวทั้งสองภาคก็จบลงเพียงเท่านี้ แต่ใจของเรายังไม่จบไง เพราะเราย้อนดูตัวเราเองว่า หลายครั้ง เราก็เคยหลงลืมอะไรไปบ้างแล้วหรือเปล่า เราเคยทำอะไรแบบนี้ไปบ้างไหม และเราได้แก้ไขสิ่งเหล่านี้ไปยัง
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่อ่านจบแล้ว แต่ความรู้สึกยังไม่จบ และอ่านไปได้เรื่อยๆ แบบลุกไปไหนไม่ได้ เพราะแอบลุ้นว่า เรื่องราวคืออะไรนะ และการแสดงออกของแต่ละคนทำไมเป็นแบบนี้ ซึ่งเพื่อนๆคนไหนสนใจเกี่ยวกับวรรณกรรมชีวิต ก็ลองเปิดใจอ่านวรรณกรรมนี่ดูค่ะ
ภาพยนตร์เรื่อง The Sense of An Ending
“ดูผ่าน Disney +”
เรื่องราวในหนังคล้ายกับในหนังสือมาก แต่เพราะคนแสดงทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของแต่ละตัวละคร และความเจ็บปวดของทุกตัวละครที่เชื่อมกันด้วยความรัก ความใคร่ และความปรารถนาแบบหลงผิดอย่างเรื่อยๆ
โทนี ผู้เรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยบริสตอล ได้มีเพื่อนสนิทและรู้ใจอย่างแอนเดรียน และได้รู้จักคนรักอย่างเวโรนิกา ทั้งคู่รักกันแบบหลงๆ ไม่ได้รักกันจากใจจริง เเละวันหนึ่ง เมื่อโทนีไปพบกับครอบครัวเวโรนิกา ก็ถึงจุดแตกหักของทั้งคู่ที่เลิกกัน และเอเดรียนร้องขอให้โทนีเขียนจดหมายอวยพรรักของเขากับเวโรนิกา แต่โทนีกลับเขียนจดหมายสาปแช่งไปแทน
เพราะจดหมายนั้น ทำให้ทั้งคู่รู้สึกผิดอย่างแท้จริงว่า ทั้งเอเดรียนและเวโรนิกาทำสิ่งที่ผิดไปแล้ว ดังนั้น ทั้งคู่พยายามทำดีไถ่โทษ แต่แล้ว เรื่องบางอย่างก็เกิดขึ้นระหว่างเอเดรียนกับซาราห์ (หญิงอีกคน) ทำให้ลูกของทั้งคู่ออกมาผิดปกติ และกรรมก็ตกกับเวโรนิกาที่ต้องมาดูแล และในไม่ช้า โทนีก็รู้สึกสำนึกผิด ก่อนเขียนจดหมายไปขอโทษเวโรนิกา เเละโทนีได้แต่ขอโทษเอเดรียนในใจ เพราะเอเดรียนนั้นได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายไปเรียบร้อยแล้วนั้นเอง
หนังเรื่องนี้เป็นหนังแนวดูแล้วเครียดกับเส้นเรื่องทั้งหมด เพราะว่า ความทุกข์ทั้งหมดนั้น เกิดขึ้นกับทุกคนทั้งสิ้น เพราะเพียงแค่การที่ไม่ให้อภัยของโทนี ทำให้ทุกคนทุกข์
ดุจดั่งที่พระเยซูเคยบอกว่า หากเขาตบหน้าขวา ก็จงยื่นหน้าซ้ายให้เขาตบด้วย เพราะคำสอนนี้แสดงให้เห็นถึงความให้อภัย และเมตตารักใคร่ต่อกัน
ซึ่งคล้ายคลึงกับคำสอนของพระพุทธเจ้าที่กล่าวว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เพราะทุกผลของการกระทำเกิดจากการกระทำของเราทั้งสิ้น ซึ่งก็เหมือนกับว่า สิ่งที่เรากำลังทุกข์อยู่นั้น เพราะเรากระทำนั้นเองขึ้นมาทั้งสิ้น ไม่มีใครเป็นผู้กระทำสิ่งนั้นขึ้นมาได้ ถ้าไม่ใช่ตัวเอง
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in