หนังสือเรื่องชิบาวังโกะ หมาน้อยหัวใจญี่ปุ่น เล่ม 2 (พาเพลินกัน 4 ฤดู)
ความหลังสำหรับหนังสือเล่มนี้ เราอยากอ่านหนังสือเล่มนี้มานานแล้ว แต่เนื่องจากตอนที่อยากได้ตอนนั้น ราคาสูงเกินกว่าจะซื้อ และเมื่อดวงกมลสมัยนำมาลดราคา เราเลยตัดสินใจซื้อ แต่เสียดายที่เล่มแรกไม่มีขายค่ะ มีขายเฉพาะเล่ม 2-4 และอยากได้เล่มแรกมากก็หาซื้อไม่ได้ค่ะ ถึงแม้ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ได้เช่นกัน เพื่อนๆรู้ไหม พอเราได้มาก็ไม่ผิดหวังเลย |
ความประณีต ความละเอียดอ่อนของญี่ปุ่นมีมาตั้งแต่ยุคสมัยไหนแล้ว
“ประเพณี วัฒนธรรมคือ
รากเหง้าประวัติศาสตร์ของบรรพบุรุษเรา”
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยที่อยากเรียนรู้ประเพณี วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นผ่านการ์ตูนสีสันสดใส ดังนั้น ถ้าหากใครเริ่มสนใจที่จะจัดเหมือนเราก็คงต้องรีบหน่อย เพราะหนังสือเล่มนี้ที่ดวงกมลสมัยใกล้หมดแล้วค่ะ
“เจ้าหมาน้อยนามว่าว่าชิบาวังโกะนี้
มาพร้อมมีเจ้าแมวเหมียวตามมาด้วย
ไปที่ไหนก็ไปด้วยและเพียรนำทางช่วย
เรียนรู้ด้วยกันถึงประวัติศาตร์เอย”
เรื่องราวน่าดูตามกาลสมัย
กิโมโนเป็นเสื้อผ้าที่เริ่มต้นมาในสมัยนาราโดยได้รูปแบบมาจากจีนก่อน และค่อยนำมาปรับใช้เป็นชุดประจำชาติ การสวมใส่กิโมโนต้องระวังอยู่อย่างมาก เพราะทั้งสีสันที่ใส่ ก็จะนำพาให้คนเข้าใจผิดได้ อย่างเช่นการเข้าใจผิดว่าแต่งงานหรือยังโสดอยู่เป็นต้น
การสวมใส่ชุดกิโมโนในงานสำคัญๆก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้อระวัง โดยเฉพาะผู้หญิที่แต่งงานแล้ว การสวมใส่ชุดกิโมโน โดยมีตราสัญลักษณ์ของตระกูลสามีนั้นถือว่า สำคัญมาก และห้ามนำมาสวมใส่เดินไปเล่นมา ต้องสวมใส่เฉพาะงานสำคัญเท่านั้น
หลายอย่างน่ารู้
เจ้าหมาน้อยชิบาวังโกะพร้อมแมวเหมียวได้มาร่วมงานเทศกาลวันเด็กผู้หญิง โดยจะต้องมีการจัดเรียงตุ๊กตา เตรียมของในการจัดวาง และทำไมถึงต้องจัดวางในตำแหน่งนี้ คือ มีการอธิบายให้หมด พร้อมกับทำให้เราคิดว่า “คนญี่ปุ่นเขาละเอียดอ่อนในการคิดเริ่มต้นตัวแต่เด็ก เป็นการปลูกฝังให้เด็กแต่ละคนโตขึ้นมาอย่างดีในสังคม”
ฟ้าร้องมาพร้อม
ละครคาบูกิเป็นละครที่มีเอกลักษณ์ที่ให้คนทั่วไปได้ดู ถ้าเทียบกับใครก็คงจะเป็น “ลิเก” และถ้าเทียบกับจีนก็คงเป็น “งิ้ว” เพราะเนื่องจากคาบูกิมีรากเหง้ามาจากงิ้วส่วนหนึ่ง (เราหาข้อมูลเพิ่ม) ดังนั้น ผู้หญิงมีสิทธิ์เล่นเป็นผู้ชาย ซึ่งไม่ต่างจากงิ้ว และผู้ชายมีสิทธิ์เล่นเป็นผู้หญิง (จากในหนังสือ ชิบาวังโกะ) และเป็นการนำเรื่องราวพื้นบ้านพร้อมเรื่องราวสมัยก่อนมาฉายสร้างความสนุกสนานและรื่นเริง
ขนมของญี่ปุ่นตามหน้าเทศกาล
ชิบาวังโกะพร้อมแมวพาไปดูวิธีการทำขนมโบราณในญี่ปุ่นที่มีทานตามงานเทศกาลและในบ้าน แถมยังพาไปเรียนรู้เกี่ยวกับเทพเจ้าต่างๆที่เกี่ยวกับฟ้าฝน พร้อมยังจบท้ายที่เรื่องเกี่ยวกับจดหมายว่า เเม้กระทั่งเรื่องจดหมาย คนญี่ปุ่นก็ทำออกมาได้อย่างประณีต ดังนั้น คนญี่ปุ่นนำจดหมายที่เขียนถึงกันข้างหน้าหลัง 10 ปีไปลงดินเพื่อทำไทม์แคปซูลกันเถิด
หนังสือหลังปกของเรื่องชิบาวังโกะ เล่ม 2
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่อ่านเข้าใจง่าย เพราะมีการแบ่งกรอบ แบ่งเนื้อหาอย่างเห็นได้ชัด และเนื้อหาก็ต่อเนื่องกันจนทำให้รู้ประวัติความเป็นมาของแต่ละเทศกาล ประเพณี วัฒนธรรมและประวัติศาตร์ของญี่ปุ่นอย่างคาวาอิ
ตัวละครในเรื่องที่น่ารัก น่าเอ็นดู
“สิบปีต่อมา มาเปิดกันดูค่ะว่า
เจ้าชิบาวังโกะกับผองเพื่อนเขียนอะไรกันไว้บ้าง”
หนังสือชิบาวังโกะ หมาน้อยหัวใจญี่ปุ่น เล่ม 3 (ความสนุกสนานในแต่ละวัน)
ความหลังสำหรับหนังสือเล่มนี้ หลังจากเล่มก่อนที่เราบอกเพื่อนๆค่ะว่า เราตามหาได้แค่ 3 เล่มเท่านั้นก็คือเล่ม 2-4 และนี่ก็คือเล่ม 3 ที่อ่านแล้วก็ยังอบอุ่นหัวใจเหมือนเดิมค่ะ และเล่มนี้จะมีเรื่องน่าสนใจของการละเล่นญี่ปุ่นที่คล้ายๆประเทศไทยมาก และยังมีเรื่องผีๆน่ารักมาทำให้ใจเจ้าแมวมิเกะกับชิบาวังโกะต้องเรียนรู้กันต่อไป |
เรื่องราวน่ารู้ถัดไป
“ความทรงจำของคนเราอยู่ที่นี้ก็คือ ใจ นั้นเอง”
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับทุกคนที่อยากรู้เรื่องราวของวัฒนธรรมญี่ปุ่น การละเล่นและการใช้ชีวิตรวมถึงประวัติศาสตร์เล็กน้อยของญี่ปุ่นค่ะ
“การละเล่นหลายอย่างที่ไม่มีแล้ว
นั้นได้แคล้วหายไปจากโลกนี้
เมื่อมีเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่
เด็กเดี๋ยวนี้คงไม่รู้จักแล้ว”
วิธีการพับหมวกนักรบและเล่นปลาคราฟในหน้าร้อน
เจ้าหมาชิบาวังโกะพร้อมเจ้าแมวเหมียวมิเกะพาเรื่องราวมาเขย่าหัวใจให้สั่นเต็มไปด้วยความอบอุ่นอีกครั้ง เมื่อพาไปดูเทศกาลในหน้าร้อน โดยมีการเล่นปลาคราฟและพับหมวกนักรบเพื่อเล่นฟันดาบสู้กัน
เมื่อพูดถึงหน้าร้อนก็ต้องมีเรื่องผีๆมาเล่าสู่กันฟัง หรือเล่นทดสอบความกล้า เช่นเดียวกันที่เจ้ามิเกะเจอเจ้าแมวตัวหนึ่งที่ชวนทั้งสองไปเล่นทดสอบความกล้า และเมื่อทั้งคู่ไปพบเจ้าแมวตัวนั้น ก็ได้พบกับเจ้าของแมวตัวนั้นมาบอกว่า เจ้าแมวตัวนั้นตายไปแล้ว แต่ยังอยู่ในความทรงจำของเธออยู่ ซึ่งทั้งสองเลยรู้ว่า “ดันเจอผีจริงเข้าไปแล้ว”
การละเล่นในญี่ปุ่นที่มีหลากหลาย
เราอยากลองเล่นวิ่งไล่จับเหยียบเงามาก คือ เป็นการละเล่นว่า ถ้าคนตามจับไปเหยียบโดนเงาใคร คนนั้น ก็ต้องเป็นคนวิ่งไล่จับต่อ แถมยังมีเป่ายิ่งฉุบ และเล่น “ดารุมะซังงะโครนดะ” เป็นการที่เล่นว่า คนจะหันหลังให้ต้นไม้ และพูดจบก็จะทำหน้าตลกให้คนที่หยุดหลุดขำและแพ้ในที่สุด เหมือนกับการละเล่นของไทยตอนที่เล่นเด็กๆมาก
อาหาระและขนมของญี่ปุ่น
หลังจากนั้น เจ้าชิบาวังโกะพาไปเที่ยวเล่นขับไล่ปีศาจร้าย แต่จริงๆในบรรดาปีศาจก็ยังมีปีศาจดีที่มอบความสวยงามให้กับโลกนี้ แถมยังพาไปศึกษานักกษัตริย์ที่มีพูดถึงปีเกิดเราด้วย และทำให้เราตื่นเต้น สนุกสนานไป ก่อนที่จะพามาทานอาหารอร่อยๆกัน
กวาดลานให้สะอาดเหมือนกวาดใจให้สว่าง
และปิดท้ายที่เจ้าชิบาวังโกะและเจ้าแมวมิเกะพาไปท่องดูลวดลายในผ้าของญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องกับวรรณกรรมเรื่องดังและยังเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ เพื่อจะบอกว่า “มนุษย์เราควรอาศัยอยู่กับธรรมชาติอย่างสมดุล”
หนังสือหลังปกของเรื่องชิบาวังโกะเล่ม 3
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่อ่านง่ายและเข้าใจง่าย แถมเมื่ออ่านก็รู้สึกสนุกสนานตลอดเวลาเหมือนกับมีส่วนร่วมอยู่ในเทศกาลนั้นๆ ทำให้นึกถึงเวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น
ฤดูร้อนครั้งนี้กับทดสอบความกล้า
“วันทุกวันมีแต่ความสนุกสนาน”
หนังสือเรื่องชิบาวังโกะ หมาน้อยหัวใจญี่ปุ่น 4 (วันนี้วันดี)
ความหลังสำหรับหนังสือเล่มนี้ นี่เป็นเล่มสุดท้ายแล้วค่ะ สำหรับชุดนี้ที่ยังคงเส้นคงวาในการเสนเอถึงเรื่องราวที่สุดแสนน่ารักว่า “แต่ละวันมีอะไรบ้าง” และยังมีพาเราไปท่องเที่ยวเกียวโต ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เมืองหลวงเก่าที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา และสีสันในชีวิตค่ะ ซึ่งเราอ่านกี่รอบก็อิ่มเอิบหัวใจ |
มาปลูกข้าวกันเถิด
“ผู้ใดมีความสำนึกผิดชอบชั่วดี
ก็รักษาความดีของตัวได้”
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับทุกคนที่หลงใหลในญี่ปุ่น และอยากจะรู้ว่า แต่ละวันของญี่ปุ่นมีอะไรดีและสำคัญบ้าง รวมถึงความเป็นมาของแต่ละเรื่องของญี่ปุ่นด้วย
“เมื่อถึงวันที่สำคัญนี้
คือวันดีเหมาะกับงานแต่งนั้น
ชีวิตคู่สวยงามกันและกัน
และตามนั้นทั้งคู่อยู่เย็น”
กินโซบะเพื่ออะไรรู้ไหม
เมื่อใกล้ถึงสิ้นปีแล้วก็จะมีเจ้าหุ่นไล่กานำข้าวมาตอบแทนคุณเจ้าเหมียวมิเกะที่วาดปากให้มันพูดได้ ซึ่งเจ้าเหมียวอยากได้ปลา แต่พอรู้จักความเป็นมาของข้าวญี่ปุ่นก็สนใจมากขึ้น
เมื่อใกล้มาถึงวันส่งท้ายปีเก่าแล้วที่ ทุกคนมาร่วมกันต้อนรับปีใหม่ และก่อนจะส่งท้ายปีเก่า ทุกคนต้องทานโซบะกัน เพราะมีความเชื่อว่า ทานโซบะจะทำให้อายุยืน
กลอนที่บ่งบอกถึงความสำคัญของชีวิตคู่
ในหนังสือเรื่องนี้มีการบรรยายถึงยูกิถูกขอหมั้นและเตรียมตัวจะแต่งงาน โดยที่ชิบาวังโกะพาเพื่อนๆไปดูงานแต่งงานสมัยก่อน ว่า สมัยโบราณ หญิงสาวที่จะเข้างานแต่งงานจะต้องสวมชุดสีขาวบริสุทธิ์ พร้อมเตรียมของมงคลต่างๆในการแต่งงานแบบนี้ ซึ่งปัจจุบัน งานแต่งงานแบบนี้ถือว่า มีน้อยมากแล้วค่ะ
งานแต่งงานแบบสมัยโบราณ
หลังจากเจ้าสาวยูกิแต่งงานเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางมาถึงลมสบายๆเดือนมิถุนายนเริ่มพัดผ่านเข้ามาแล้ว ฝนก็เริ่มตก และถึงเวลาที่ต้องทำขนม อาหาร ให้ทานพร้อมดื่มยากับดมกลิ่นฝนและฟังเสียงฝนอย่างสบายใจ
เรื่องราวของคนสมัยก่อน
เจ้าหมาชิบาวังโกะและเจ้าเหมียวมิเกะพาไปรู้จักหญิงสูงศักดิ์ที่ชอบอ่านนิยายเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะเรื่อง เก็นจิ (เราเคยรีวิวเรื่องราวนี้ให้ฟังในเรื่อง “Uji” ที่เป็นที่ท่องเที่ยว เพื่อนๆย้อนกลับไปดูกันได้ค่ะ) และมีนิทานมากมายของญี่ปุ่นที่น่าสนใจ ก่อนจะปิดท้ายพามาเที่ยวเกียวโต และทำให้เราเพิ่งรู้ว่า ที่วัดมีขนมพร้อมชาให้ดื่ม เพื่อให้คนที่มาถึงวัดได้พักผ่อนจากเดินทางไกลและเหนื่อย เพื่อจะได้ชมสวนและสงบใจ
หนังสือหลังปกของเรื่องชิบาวังโกะ เล่ม 4
หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องปิดท้ายของหนังสือชิบาวังโกะทุกอย่างสมบูรณ์แล้วค่ะ เพราะถือว่า ให้เราได้เรียนรู้ชีวิต ความเป็นอยู่ของญี่ปุ่น และประวัติความเป็นมาอย่างย่อแต่ครบถ้วนจนอิ่มใจ แล้วเพื่อนๆละค่ะ ตกหลุมรักญี่ปุ่นมากขึ้นไหม
ปิดท้ายด้วยใบไม้ร่วงที่สวยงาม
“ซาโยนาระ (さよなら)”
Look A Breathe
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in