หนังสือฟีลกู๊ดแนวแฟนตาซีสไตล์ให้กำลังใจของเคโงะ
“เมื่อถึงทางเลือกนี้
ชีวิตดีไม่ดีอยู่ที่เรา
ไม่ใช่อยู่ที่ใครหรือเขา
เพราะเราเป็นผู้เลือกเอง”
เราอ่านหนังสือเล่มนี้เมื่อ 4 ปีก่อน และรู้สึกชอบ แถมหยิบมาอ่านหลายครั้ง และอ่านแต่ละครั้งก็มีความคิดที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะเกี่ยวกับ “ทางที่เลือก” จะเป็นทางที่ถูกหรือผิด ย่อมขึ้นอยู่กับที่เราเลือก และถึงแม้ทางที่เลือกจะมีอุปสรรคเพียงใด ทางเหล่านั้น ย่อมมีทางออกรอเราอยู่เสมอ
หนังสือเล่มนี้เป็นแนวแฟนตาซีสุดแหวกแนวมากในสมัยก่อน แต่สมัยนี้ก็ถือว่า มีหนังสือทำมาแบบนี้หลากหลายรูปแบบ ดังนั้น ถ้าหากใครหลายคนมาอ่านสมัยนี้ก็อาจจะไม่ชอบเป็นได้ แต่เรื่องนี้ไม่ทิ้งคอนเซปเรื่องของ “ทางเลือก” และไม่เพียงเท่านั้น หนังญี่ปุ่นทีทำออกมาก็สนุกไม่แพ้กัน
“หากเราเลือกเดินทางที่ถูก เราก็ไปทางที่ถูก
หากเราเลือกเดินทางที่ผิด เราก็ไปทางที่ผิด”
ร้านชำของคุณนามิยะเมื่อสมัยก่อน เพราะสมัยนี้เป็นบ้านร้าง
โจรสามคนจำเป็นต้องเข้ามาหลบข้างในบ้านร้างแห่งหนึ่ง เพราะทั้งสามหลบหนีเข้ามาอยู่ที่นี้ เนื่องจากทั้งสามไปขโมยของ และ ทั้งสามพบกับสิ่งมหัศจรรย์ในบ้านหลังนี้ว่า “จดหมายจากอดีตที่ส่งมาให้คุณนามิยะ สามารถส่งมาในปัจจุบัน และปัจจุบันส่งไปถึงอดีตได้เช่นกัน”
ผู้หญิงคนหนึ่งส่งจดหมายมาหาคุณนามิยะที่เครียดระหว่างทางเลือกที่จะไปโอลิมปิกกับดูแลแฟนป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย และโจรทั้งสามก็มีการโต้ตอบจดหมายกันจนถึงทางที่ผู้หญิงต้องเลือก ก็โปรดติดตามในหนังสือค่ะ และหลังจากนั้น จดหมายถัดไปก็ถูกส่งมาว่า ผู้ชายคนหนึ่งเองเริ่มรักดนตรี แต่ต้องลาออกจากกลางทางมาสืบทอดกิจการของพ่อ และพ่อเขาดันป่วยเป็นโรคหัวใจ ซึ่งผู้ชายคนนี้ทะเลาะกันกับพ่อ แต่สุดท้าย เขาต้องเลือกระหว่างฝันกับการสืบกิจการของพ่อ
เรื่องราวถัดไปเป็นเรื่องราวของคุณนามิยะกับลูกชายที่เป็นตอนที่เศร้าและซึ้งมาก เพราะถึงแม้ คุณนามิยะจะไม่สบายก็ขอกลับมาทำหน้าที่ๆตัวเองรักมากที่สุด คือ เป็นที่ปรึกษาปัญหาให้กับคนทุกคน และนี่ก็คือ จุดเริ่มต้นของเรื่องราวสุดแสนวิเศษนี้ และหลังจากนั้น จดหมายฉบับที่มาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับว่า จะหนีตามพ่อแม่ที่หนีหนี้ดีไหม ซึ่งโจรทั้งสามให้คำตอบไปว่า ควรตามครอบครัวไป ซึ่งคนนั้นได้ทำตามคำแนะนำจนชีวิตดีขึ้น
“ตราบใดที่ครอบครัวลงเรือลำเดียวกัน
ก็ยังมีโอกาสที่จะกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องด้วยกันได้”
และเหตุการณ์ก็กลับมาถึงปัจจุบันที่ได้ตอบจดหมายทางเลือกระหว่างเด็กนั่งดริงค์กับเด็กทำงานเบ็ดเตล็ด ว่า เด็กจะเลือกเส้นทางไหน
“ไม่ว่าใครจะเลือกทางไหน ทางนั้นก็ย่อมถูก
ถึงแม้ทางที่เราเลือกนั้น เราไม่ชอบเท่าไรก็ตาม
แต่เราต้องเคารพการตัดสินใจของตัวเองในวันนั้น
เพราะทางที่ดีที่สุด คือ ทางที่เราเลือกในวันนั้นด้วยสติ”
และสุดท้าย โจรทั้งสาม (คนเล่น น่ารักทุกคนเลย แต่เราไม่เคยดูค่ะ) ส่งกระดาษเปล่าไปหาคุณนามิยะ และคุณนามิยะเขียนตอบกลับมาว่า “เมื่อคุณมีกระดาษเปล่า คุณจะวาดแผนที่อย่างไรได้ ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง” ซึ่งสุดท้ายเมื่อทั้งสามได้คำตอบจากคุณนามิยะแล้ว เพื่อนๆคิดว่า ทั้งสามคนจะตัดสินอย่างไรกับชีวิต ก็ไปหาอ่านในหนังสือเล่มนี้ได้เลยค่ะ
หนังสือหลังปกของเรื่องปาฏิหาริย์ร้านชำขอคุณนามิยะ
เราชอบเรื่องราวที่เคโงะผูกมา ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา และไต่ความอยากรู้อยากเห็นของเราต่อเรื่องราวนี้มากขึ้น จนพีคถึงบทสุดท้ายที่โจรทั้งสามส่งกระดาษเปล่า และเราคิดว่า คุณนามิยะจะตอบโจรทั้งสามยังไงนะ พอตอบแบบนี้ ทำให้เรารู้สึกตื้นตันใจในตัวคุณนามิยะที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาที่ดีตลอดไป
“ทุกคนในชีวิตเกิดมาต้องพบกับ
ความยากลำบากใจในการเลือก
และทางที่เราเลือกก็คงมีความคิดว่า
เราเลือกถูกหรือเลือกผิด
ถ้าเราเลือกทางนี้ ชีวิตจะดีกว่านี้ไหม
ถ้าเราเลือกทางนั้นล่ะ ชีวิตจะดีกว่านี้ไหม
แต่ในไม่ช้า เราต้องเป็นผู้เลือก
เส้นทางชีวิตของเราด้วยตัวเราเอง
ไม่มีใครตัดสินหรือเป็น
ผู้เลือกเส้นทางชีวิตของใครได้”
Look A Breathe
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in