สวัสดีค่ะ เรารู้สึกขอบคุณรีลัคคุมะที่เป็นเพื่อนกัน
รีลัคคุมะเป็นเพื่อนที่น่ารัก มองกี่ทีก็หายเครียด เพราะเจ้าหมีจอมขี้เกียจนี้ แค่ทำท่าขี้เกียจ นอนตลอดเวลา กินตลอดไป ก็มีความสุขแล้ว
แล้ววันหนึ่งเราก็รู้ว่ามีซีรีย์ใน Netflix แถมยังมีหนังสืออีก เราตัดสินใจทั้งดูและอ่าน
เราขอพูดถึงเรื่องซีรีย์ก่อนค่ะ โดยที่เริ่มต้นจากรีลัคคุมะอยู่กับคาโอรุพร้อมผองเพื่อน มันขี้เกียจแต่เป็นที่รักของทุกคน และในทุกๆวัน มันจะมีสร้างเรื่องราวกวนชวนน่ารัก ขบขันให้กับคนดูได้ทุกตอนจริงๆ จนถึงตอนจบที่ต้องเปลี่ยนที่อยู่ใหม่
ส่วนหนังสือเป็นหนังสือที่ให้กำลังใจในสไตล์แถมอ่านแล้วรู้สึกขบขันกับความน่ารักแสนกวนของเจ้าหมีและผองเพื่อน
โดยส่วนของหนังสือได้แบ่งหลักๆออกเป็น 5 เล่ม ได้แก่
ตามติดชีวิตรีลัคคุมะ 1
"ชีวิตของคนเราไม่ว่างเปล่าอีกต่อไป เมื่อมีหมีน่ารักอยู่ข้างๆ
เรียนรู้ที่จะพบเจอโชคดีที่เล็กน้อยก็มีความสุขเมื่อเราเพียงพอแล้ว
ถึงแม้วันเวลาที่ผ่านไป วันวานเก่าๆก็ผ่านไป แต่ความทรงจำดีๆที่มีอยู่ร่วมกันก็ยังอยู่กับเราเสมอ
ชีวิตคนเราไม่ควรรีบร้อนเกินไป ลองทำดูในสิ่งที่ไม่เคยทำหรือลองทำตามความฝันเรา และหัดปล่อยวางสิ่งไม่ดีออกไปบ้าง
บางทีเราควรลืมความกังวลทั้งปวงโดยการเรียนรู้ที่จะทิ้งบ้าง"
เพื่อนๆทุกคนอย่าลืมว่า เดี๋ยวความทุกข์ทุกอย่างก็ผ่านไป แล้วความสุขก็มาแทนที วนเวียนอยู่แบบนี้"
ยกตัวอย่างเช่น
เราเทน้ำเต็มแก้ว
เอาน้ำเหล่านั้นไปตากแดด
ผ่านไปหลายชั่วโมง
น้ำนั้นก็เหือดแห้งไป
จนกลายเป็นแก้วที่ว่างเปล่า
จากตัวอย่างนี้ที่ได้เรียนรู้
"ไม่มีอะไรที่อยู่ถาวร สุดท้ายแล้วทุกอย่างจะกลับไปสู่ธรรมชาติของมันคือว่างเปล่า เพราะฉะนั้น อย่าไปทุกข์หรือดิ้นรนอะไรมากเลย เดี๋ยวทุกอย่างก็หายไปแล้ว"
ตามติดชีวิตรีลัคคุมะ 2
"เราเริ่มต้นที่จะทำตามฝันโดยลงมือทำก่อนอย่างพิถีพิถัน รู้จักแก้ไขปัญหา ระวังคำพูดและการกระทำ โดยที่ไม่ลืมคุณค่าของตัวเอง
เราเรียนรู้ชีวิต โดยเป็นที่พึ่งของตนเองและสามารถเป็นที่พึ่งพิงของคนอื่นได้ ดังนั้น เราจะเป็นอิสระในชีวิต
ไม่มีปัญหาใดจะอยู่กับเราตลอดไป เราควรจะปล่อยวาง และอย่าลืมว่า ไม่ว่าจะล้มหรือเลิก คนที่ตัดสินใจคือตัวเราเองเท่านั้น"
ยกตัวอย่างเช่น
เราไปบ้านคุณยาย
เรานั่งรถแท็กซีไปใช้เวลา 30 นาที
เรานั่งรถเมล์ไปใช้เวลา 1 ชั่วโมง
เราใช้เวลาเดินเท้า 4 ชั่วโมง
เราจะเลือกทางไหน ทุกอย่างอยู่ที่เราเลือกเอง ไม่มีใครเลือกแทนเราได้
จากตัวอย่างนี้ที่ได้เรียนรู้
"เราเป็นผู้เลือกเส้นทางชีวิตด้วยตัวของเราเอง ไม่ว่า เราจะเลือกทางไหน ทางนั้นก็เป็นทางที่เราเลือก ไม่ว่าเราจะตัดสินใจไปต่อหรือล้มเลิกไม่ไป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเราเอง และเวลาในทางที่จะไปถึงอาจจะเร็วหรือช้าก็ถึงอยู่ดี
บางทีถ้าเวลายังไม่ถึงของทางเรา มันก็ไม่ถึงอยู่ดี เพียงแค่ใจเย็นๆ เดี๋ยวมันก็ถึงเราเลือกเอง"
"เรารู้จักขอบคุณ ขอโทษ ให้อภัยตัวเอง และอย่ายอมแพ้กับความทุกข์เข้ามา เพราะเมื่อไหร่ที่ไม่ยอมแพ้ ความสุขก็ใกล้เข้ามาแล้ว
เรียนรู้ที่จะปล่อยวางความลำบากและเรียนรู้ความจริงจากการสังเกตผ่านการกระทำและคำพูดของตัวเองและคนอื่น
การสังเกตตัวเองให้มากกว่าคนอื่นสิ ตัวเองจะได้เห็นใจของตัวเอง เมื่อเรียนรู้ เมื่อระลึกรู้ ก็ไม่ต้องทุกข์"
ยกตัวอย่างเช่น
เขาว่าเราว่า "ไม่ดี"
เราสังเกตใจเราว่า "โกรธ"
เรานึกดูว่าเราไม่ได้เป็นแบบนั้น
คำพูดนั้นเราก็ไม่ได้รับมา
คนฟังรอบข้างมองเขาว่า "ไม่ดี" ตามคำพูดของเขา
จากตัวอย่างนี้ที่ได้เรียนรู้
"ถ้าเราลองไตร่ตรองดูสักนิด คำพูดที่เขาพูดว่าเรา นั้นเป็นตัวตนของเราหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ เราควรปล่อยวางเสีย หลังจากนั้น คำพูดร้ายของเขามันก็แสดงออกถึงตัวตนจริงของเขาให้คนอื่นเห็นเอง เพียงแค่เราสังเกตใจตัวเอง ไม่ไปเต้นตามเขา เราก็สุข เขาก็ทุกข์ ทุกอย่าง แค่นั้นเอง"
รีลัคคุมะ อยู่นี่ไงล่ะ
"เมื่อเราหันมาใส่ใจตนเอง ไม่ว่าวันฝนตก วันแดดออก เราก็จะมีเรื่องราวดีๆปลอบตัว คุยกับตัวเองได้อย่างสนุกสนาน
และเมื่อเราเหนื่อยก็ควรพักกาย พักใจ หายใจเข้าออกยาวๆ ใจก็โล่ง
เราสามารถเติบโตในทิศทางที่ถูกอย่างสบายแบบช่างมันเถิดเวลาช่างมันไม่ดีและเก็บไว้ในยามปกติ
เรื่องมันจบไปแล้ว มันทำร้ายเราไม่ได้แล้ว มีแต่ตัวเรานี่ละที่นำมันกลับมาทำร้ายเราอีก และสิ่งสำคัญสุดคือ เราไม่ลืมที่จะคิดถึงตัวเอง"
ยกตัวอย่างเช่น
เมื่อวานเราทำของหาย และเราหามันแต่ไม่เจอ
วันนี้เราหามันอีกก็ไม่เจอ
วันถัดไปเราหามันอีกก็ไม่เจอ
ถ้าเรายืนยันจะหาต่อไป เราก็วนเวียนอยู่กับของที่หายนี้ไม่มีที่สิ้นสุด
เราลองนั่งลงสักพัก คิดสักหน่อย ว่า ของหายนั้น ครั้งสุดท้ายเจอเมื่อไหร่
ที่แท้เราไปวางทับไว้กับหนังสือนี่เอง
เราเดินไปและพบว่า ของอยู่ตรงนั้นนี่เอง
จากตัวอย่างนี้ที่ได้เรียนรู้
"เมื่อไหร่ที่เราพักใจ พักกาย พักสมองให้ปลอดโปร่ง เราค่อยๆทบทวนตัวเอง ทบทวนการกระทำ ทบทวนจิตใจ เราจะพบว่า ทางออกอยู่แค่ใกล้นี้เอง"
รีลัคคุมะ อยู่ด้วยกันเสมอ
"การเริ่มต้นจากความเข้าใจในความรู้สึกอย่างสบาย สงบสุข เพลิดเพลิน แบบเข้าไปถึงหัวใจของการพักผ่อนกายใจอย่างแท้จริง
เรียนรู้ที่รักษาระยะห่างของกันไว้เพราะแต่ละคนมีความลับของแต่ละคนเองที่ยังไม่เปิดเผย
มีแต่เรื่องที่เราไม่รู้ล่วงหน้าเต็มไปหมดเลย ดังนั้น เราไม่ควรคิดถึงสิ่งที่ยังไม่มาก่อนนะ เปรียบเหมือนว่า เรื่องที่เราไม่เข้าใจมีมากกว่าเรื่องที่เราเข้าใจนะ"
ยกตัวอย่างเช่น
เราสอบถามคนถึงเส้นทางไปดวงดาว
ทุกคนบอกว่า จะไปดวงดาวไหน
เราบอกว่า อยากไปดาวเสาร์
ทุกคนบอกว่า ต้องไปฝึกฝนเป็นนักอวกาศ
เราไปลองฝึกแล้ว เราก็รู้ว่า ร่างกายเราไม่สามารถเป็นได้
วันหนึ่งดาวเสาร์มาใกล้โลก
เราหยิบกล้องดูดาวมาส่องดาวเสาร์
เราจับดาวเสาร์
เราสามารถไปดาวเสาร์ได้แล้ว
จากตัวอย่างนี้ที่ได้เรียนรู้
"มีหลายสิ่งที่เราทำไม่ได้ มีหลายสิ่งที่เราเป็นไม่ได้ แต่มีบางสิ่งที่เราสามารถทำได้ เพียงทำใจสบายๆ ใช้จินตนการสัมผัสความเป็นจริง เรารู้สึกสนุกสนานกับชีวิตที่อยู่ข้างหน้า"
มารีลัคคุมะกันเถิด
"ขอบคุณรีลัคคุมะที่น่ารัก
ไม่โดนลักใจนั้นไปไหน
เพราะใจนั้นอยู่กับเราที่ใจ
เปรียบดั่งไหมอยู่ในรังของมัน
อย่าพามันไปไหนไกลเดี๋ยวไม่กลับ
เปรียบดังพลับพลาที่ว่างเปล่า
ใจไม่เศร้าไม่เคล้าน้ำตานั้น
เพราะใจฉันเรียนรู้ชนะใจ
ใจไม่ยอมแพ้เหมือนรีลัค
ใจคิดรักตัวเองมากกว่านี้
ใจไม่ดีไม่ยอมให้พ่ายไป
ใจคือใจดวงนี้ของเราเอง"
-- Look a Breathe --
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in