ปี 2013วันนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนัก ระหว่างทางกลับบ้านผมแวะร้านสะดวกซื้อใกล้ๆโรงเรียน เทียนสำหรับปักเค้กคือสิ่งที่ผมตั้งใจมาซื้อ"แย่จริงๆ" เสียงจากด้านข้างเรียกให้ผมหันไปมอง ผู้ชายข้างๆตัวเล็กกว่าผม กำลังมองไปด้านนอกที่ฝนตกหนักและเหมือนว่าจะไม่หยุดลงในเร็วๆนี้"80 เยนจ้ะ" หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จ ผมออกมายืนรอฝนหยุดที่ด้านหน้าของร้าน หลังคาที่ยื่นออกมาจากตัวร้านช่วยให้ผมตัวเปียกน้อยลง แต่เพราะมีลมพัดละอองฝนมา เสื้อของผมจึงเปียกไปบ้าง "นี่ สุขสันต์วันเกิดนะ" เสียงที่ดังขึ้นใกล้ๆมาพร้อมกับร่างของใครบางคนที่ผมเพิ่งเห็นในร้าน ผมก้มไปมองเขา ส่วนเขาเงยขึ้นมามองและยิ้มให้ ตอนเห็นในร้านไม่คิดว่าจะตัวเล็กกว่าตัวเองขนาดนี้ แต่รอยยิ้มนั้นเขาตั้งใจส่งมาให้ผมอย่างนั้นเหรอ"ผมเหรอ" ผมชี้ตัวและถามออกไป"ใช่ ถ้านายคือคิงโจ สุไก ห้อง5 ฉันบอกนายนั้นแหละ" "นายชื่ออะไร" ผมถามชื่ออีกคนไป เพราะนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าเราเคยคุยกันตอนไหน"ใจร้ายจังนะ" "ผมจำไม่ได้จริงๆ ขอโทษนะ""ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอก ปกติน่ะ ไม่ค่อยมีใครจำฉันได้อยู่แล้ว " ประโยคที่ได้ยินทำให้ผมรู้สึกผิดกว่าเดิม ตาที่เพิ่งเป็นประกายเมื่อกี้ ตอนนี้กำลังหม่นลง"คิมาตะ โชยะ เรียกโชยะอย่างเดียวก็ได้" ผมพยักหน้ารับรู้ เราสองคนยังคงยืนรอให้ฝนหยุด บรรยากาศแปลกๆที่ถ้าปล่อยให้เงียบต่อไป ผมคิดว่ามันไม่ดีสักเท่าไหร่ "โชยะ รู้ได้ยังไงเหรอ ว่าวันนี้วันเกิดของผม" ผมตัดสินใจถามอีกคน เพื่อให้บรรยากาศไม่เงียบจนเกินไป "ได้ยินเพื่อนนายร้องเพลงแฮปปีเบิร์ดเดย์ตอนเดินผ่านห้องห้า ดูสนุกกันดีนะ" "เจ้าพวกนั้นมันแกล้งต่างหาก น่าอายชะมัด" วันนี้ในตอนพักเที่ยง เพื่อนในห้องต่างร้องเพลงให้ผมเมื่อรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิด แต่เสียงที่ร้องค่อนข้างดังเกินความจำเป็นทำให้ผมรู้ว่าโดนเพื่อนแกล้งเข้าให้แล้ว "แต่ก็ ขอบคุณครับ" โชยะหัวเราะหลังจากผมเล่าเรื่องในตอนพักเที่ยงจบนอกจากตอนยิ้มแล้ว ผมคิดว่าเวลาเวลาโชยะหัวเราะ น่ามองเป็นบ้า "ไปล่ะ ขืนรอให้ฝนหยุดคงไม่ได้กลับบ้าน" โชยะพูดขึ้นแล้วตั้งท่าจะวิ่งผ่าฝนออกไป "เดี๋ยวสิ ไปแบบนั้นเดี๋ยวเป็นหวัดหรอก" ผมจับไหล่อีกคนเอาไว้ บอกอีกคนว่าให้ยืนรอแล้วเข้าไปในร้านอีกครั้ง ร่มสีใสถูกกางออกหลังจากที่หยิบออกมา โชยะยังคงทำหน้างงๆ "เอาไปสิ" ผมยื่นร่มให้ "จะบ้าเหรอ ซื้อมาก็ใช้เองสิ" อีกคนยืนกรานว่าให้ผมเอาไปใช้เอง เพราะผมก็ไม่มีเหมือนกัน ที่จริงแล้วผมมีร่มพับที่ซื้อไว้ แต่วันนี้ดันลืมไว้ที่บ้าน แต่ถึงยังไงผมก็แน่ใจว่าไม่ป่วยแน่นอนหากต้องวิ่งตากฝนกลับบ้าน แต่กลับอีกคนที่ดูตัวเล็กแบบนั้น ผมเป็นห่วงว่าถ้าตากฝนไปจะต้องเป็นหวัดแน่ๆ"บ้านนายอยู่ไหน" เราสองคนตัดสินใจกันว่าจะเดินกลับด้วยกัน ถึงร่มใสจะบังให้ไม่หมด แต่หากผมไม่ยอมเดินออกมาด้วย โชยะยืนยันเสียงแข็งว่าจะวิ่งออกไปเอง ฤดูฝนปี2013 จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของเราคือหน้าร้านสะดวกซื้อในวันฝนตกปี 2014ผ่านมาหนึ่งปีแล้วตั้งแต่วันที่เราสองคนคุยกันครั้งแรก สิ่งที่ชัดในความทรงจำคือรอยยิ้มตาหยีนั้น ภาพโชยะที่ส่งยิ้มมาให้ตอนปีที่แล้ว ซ้อนทับกับภาพตรงหน้า เหมือนเดิมทุกอย่าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไป"นี่สุไก ฉันว่าเอาเป็นตัวเลขแล้วไปปักมันน่ารักกว่านะ"คิมาตะ โชยะที่กำลังยืนเลือกเทียนหลากหลายแบบหันมาบอก พร้อมหยิบเทียนที่เป็นตัวเลข1 กับ เลข8 ยื่นมาให้ผมดู "อืม เอาตามที่โชยะว่าเลย""นายอย่าตามใจฉันให้มากนักสิ""ขอโทษที่ผมเป็นคนชอบตามใจแฟนนะ"เราสองคนคบกัน หลังจากที่รู้จักกันประมาณสามเดือน โชยะมาสารภาพว่าจริงๆแล้วตัวเองแอบชอบผมมาสักพักแล้ว แต่หาโอกาสมาคุยด้วยไม่ได้ จนวันนั้นเจ้าตัวได้ยินว่าเป็นวันเกิด เลยรวบรวมความกล้าเข้ามาบอก โชยะในวันที่มาสารภาพกับผม แก้มแดงๆนั้น น่ารักจนผมอดที่จะใช้มือจับเบาๆไม่ได้ แน่นอนว่าการปฏิเสธอีกคนไม่เคยมีอยู่ในหัว เพราะผมก็รู้สึกกับอีกคนไม่น้อยเลย"ไปเป่าเทียนที่สวนสาธารณะกันเถอะ ฝนน่าจะหยุดตกแล้ว"เราสองคนเดินมาที่สวนสาธารณะใกล้ๆร้านสะดวกซื้อ เค้กก้อนเล็กถูกยกขึ้นมาวางบนกล่อง โชยะจัดแจงทุกอย่าง ก่อนจะเริ่มร้องเพลงแฮปปีเบิร์ดเดย์ อีกคนอวยพรให้ผมมีความสุข ผมยิ้มกลับไปแล้วบอกอีกคนว่าความสุขก็ผมก็คือคนตรงหน้านั้นแหละ โชยะหน้าแดงอีกครั้ง แต่ยังคงไม่พูดอะไร เราตักเค้กก้อนเล็กกินกันจนหมดแล้วจึงกลับบ้านฤดูฝนปี2014 เราสองคนจูบกัน เป็นจูบที่หวานเหมือนเค้กที่เพิ่งกินไปเมื่อครู่
ปี 2016
บรรยากาศที่ค่อนข้างเย็นเพราะฝนที่ตกลงมา คนตรงหน้าที่กำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคนที่ผมไม่รู้จัก ตั้งแต่เราสองคนเข้ามหาวิทยาลัย โชยะที่จากเป็นคนชอบเก็บตัว กลายเป็นคนที่สนุกกับการทำกิจกรรม ในตอนแรกผมดีใจที่อีกคนมีสังคมใหม่ๆ แต่นานๆเข้า กลับรู้สึกว่าความสำคัญของผมถูกลดลงกลายเป็นที่สองรองจากการไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนของอีกคนไปซะแล้ว
"สามวันเลยเหรอ"
"อืมๆ ได้"
"เก็บของแปปเดียว"
เสียงคุยโทรศัพท์เงียบไปแล้ว ผมมองคนตัวเล็กในห้องที่เดินไปเดินมา ในมือถือกระเป๋าเป้ไว้ เหมือนกำลังแพ็คของจะไปไหนอย่างนั้น
"โชยะ" ผมเรียกอีกคน
"ว่าไง" คนโดนเรียกขานรับ แต่ยังไม่หยุดเดินไปมา
"จะไปไหนเหรอ"
"รุ่นพี่ชวนไปแคมป์น่ะ " เหมือนว่าของทุกอย่างจะอยู่ในกระเป๋าครบแล้ว เจ้าตัวจึงเดินมาหาเขาได้
"ตอนนี้เลยเหรอ" ผมถามออกไป
"ใช่"
"แต่วันนี้เราคุยกันแล้วนี่ ว่าจะอยู่ด้วยกัน" สองวันก่อนผมและโชยะคุยกันว่าเราจะดูหนังและกินเค้กกันในวันเกิดของผม เพราะช่วงนี้อย่างที่บอกว่าโชยะมักมีกิจกรรมอะไรเยอะมาก ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน แต่เจ้าตัวยืนยันว่ายังไงวันเกิดผมก็จะอยู่ด้วยกันแน่ๆ
"ก็มันฉุกละหุก"
"การไปแคมป์ของโชยะมันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ" ความน้อยใจที่สะสมมานานพักใหญ่ มันอัดแน่นจนทำให้ความอดทนเขาหมดไปในที่สุด
"ทำไมพูดแบบนั้น" อีกคนมองเขานิ่ง สายตาที่มีความความโกรธหน่อยๆนั้นทำให้ผมแค่นหัวเราะออกมา
"รู้มั้ยว่าช่วงนี้เราแทบไม่ได้เจอกันเลย เพราะกิจกรรมบ้าๆนั้น ผมยังสำคัญสำหรับโชยะอยู่มั้ย หรือการออกไปหาคนอื่นมันสำคัญกว่าการมีผมอยู่ด้วยไปแล้ว"
"พูดอะไรออกมา" อีกคนมีน้ำตาคลอ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงเข้าไปกอดปลอบอีกคน แต่ในตอนนี้ผมได้แค่ยืนเฉยให้อีกคนผลัก และมองอีกคนเดินออกจากห้องไป
ฤดูฝนปี2016 เราทะเลาะกัน ปีนี้เป็นปีแรกตั้งแต่คบกันที่วันเกิดเขาไม่มีเสียงเจื้อยแจ้วของอีกคนมาร้องเพลงวันเกิดให้
ผมปิดสมุดบันทึกลง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูข้อความที่เข้ามาใหม่
[สุขสันวันเกิด คินโจ สุไก โชคดีเรื่องงานนะ! 2020แล้ว ปีนี้ก็น่าจะหนาวเหมือนเดิม ดูแลสุขภาพด้วย จาก โชยะ]
ข้อความที่คนจากอเมริกาส่งมาให้ทำให้ผมยิ้ม ความคิดถึงตีขึ้นมา ผมหวังว่าคนทางนั้นจะกำลังสนุกกับหิมะ และก็สุขภาพแข็งแรงนะ
เสียงข้อความเข้าดังขึ้นอีกครั้ง หน้าจอปรากฏชื่อคนส่งเป็นโชยะเหมือนเดิม ผมกดเปิดข้อความแล้วหัวเราะออกมา
[แล้วก็ มีแฟนสักทีเจ้าบื้อ เดี๋ยวก็เหงาตายหรอก จาก โชยะคนเดิม ]
ทำงานเป็นบ้าแบบนี้คงหาได้หรอกนะ ผมส่งกลับไปแบบนั้น
หยิบสมุดบันทึกมาดูอีกครั้ง ผมบังเอิญเจอมันตกอยู่ระหว่างซอกโต๊ะ ผมเลยหยิบขึ้นมาอ่าน เป็นบันทึกประจำวันที่มีแค่ข้อความสั้นๆ ชื่อของตัวเองดูเหมือนน้อยกว่าชื่อของอีกคนด้วยซ้ำ คำที่ผมเขียนนอกจากชื่อโชยะ ก็น่าจะเป็นคำว่ามีความสุข นึกย้อนกลับไปแล้วผมมีความสุขมากขนาดไหนกันในระหว่างที่เราคบกัน
ในตอนนี้คิมาตะ โยชะก็ยังคงเป็นความสุขของผมอยู่ เพียงแต่เขาอาจจะไม่ใช่ความสุขของผมเพียงคนเดียวแล้ว ผมได้แค่หวังว่าใครคนนั้นที่กำลังมองรอยยิ้มสวยๆนั้น จะดูแลความสุขของเขาเป็นอย่างดี
ผมปิดสมุดบันทึกเล่มเก่าลง แล้วออกไปซื้อเทียนวันเกิด
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in