เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
REVIEWกีอัลลาร์
【BL】もういいかい、まだだよ (mou ii kai, mada da yo) | kuriki shinobu
  • もういいかい、まだだよ (mou ii kai, mada da yo)
    author: kuriki shinobu
    illustrator: ogura muku


    เรื่องนี้เป็นภาคแยกของเรื่อง te no naru hou e ตัวเอกของเรื่องชื่อชุนโช เป็นเพื่อนผู้ยื่นหน้ากากจิ้งจอกให้คุซามาคุระเมื่อสองร้อยปีก่อน

    ชุนโชเป็นภูตคอยาวที่ชอบกลั่นแกล้งผู้คนในเอโดะ วันหนึ่งเขาพบกับฮิโนะ ยาอิจิโร่ซึ่งเป็นทายาทร้านขายผ้า ยาอิจิโร่ไม่เพียงแค่ไม่กลัวชุนโชที่ยืดคอจนเหลือแต่หัว แต่ยังชมว่าเขามีใบหน้างดงาม ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกัน แต่แล้วอาการป่วยของยาอิจิโร่กลับทรุดหนัก ชุนโชไม่อยากเสียเพื่อนจึงไปขอให้มิสึระซึ่งเป็นผู้ปกครองภูตในแถบนั้นช่วย มิสึระทำให้ยาอิจิโร่กลายเป็นภูตที่ไม่แก่ไม่ตาย ทว่าเมื่อยาอิจิโร่รู้ความจริงว่าชุนโชเป็นคนขอพรให้ตนกลายเป็นภูต เขาก็ด่าทออีกฝ่ายอย่างหนักและตัดขาดความสัมพันธ์

    หลายร้อยปีผ่านไป เข้าสู่ช่วงต้นยุคเฮเซ ชุนโชอาศัยอยู่ในเมืองมนุษย์ ทำงานในมหาวิทยาลัย เป็นผู้ช่วยของศาสตราจารย์อันโด วันหนึ่งเขาได้พบกับนักศึกษาที่หน้าตาคล้ายยาอิจิโร่โดยบังเอิญ เมื่อสอบถามก็พบว่าอีกฝ่ายชื่อฮิโนะ มานาบุ ชุนโชเชื่อว่าฮิโนะมีความเกี่ยวข้องกับยาอิจิโร่ จึงติดตามไปทำงานพิเศษบนภูเขาด้วยกันและพยายามตีสนิท แต่แล้วก็เกิดเหตุบังเอิญให้ฮิโนะสารภาพออกมาว่าตัวเองเป็นเกย์ ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองเปลี่ยนแปลงไป


    ชุนโชเป็นคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นมาตั้งแต่เล่มก่อนแล้ว พอมาเป็นตัวเอกของเรื่องบ้างก็เป็นตัวละครที่ทำให้คนชื่นชอบได้ไม่ยาก เราชอบชุนโชตรงที่เป็นตัวละครที่มีความขัดแย้งในตัวเองแบบลงตัว ภายนอกดูเป็นคนหนุ่มร่าเริงมีเสน่ห์ แต่ความจริงเป็นคุณปู่ที่บางครั้งก็มีเรื่องไม่ประสีประสาเกี่ยวกับมนุษย์ และภายใต้ท่าทีที่ดูง่ายๆ สบายๆ ชุนโชก็มีแผลใจที่ไม่เคยได้รับการเยียวยามาตลอดสองร้อยปีเช่นเดียวกับคุซามาคุระ

    เรื่องนี้ไม่มีการสลับมุมมองของตัวเอง ชุนโชเป็นคนเล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ (ยกเว้นในตอนพิเศษที่เป็นมุมมองของฮิโนะ) ข้อดีของการเล่าเรื่องแบบนี้คือมีความเป็นลำดับขั้นตอน เส้นเรื่องตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อน แต่ข้อเสียคือเราจะไม่ค่อยได้สัมผัสถึงความคิดความรู้สึกในฝั่งของฮิโนะเท่าไหร่ และนี่เป็นจุดอ่อนที่สุดของเรื่องเลย เพราะมันทำให้เราไม่อินกับความสัมพันธ์ของคู่ตัวเอก จู่ๆ ฮิโนะก็สารภาพรักทั้งที่เพิ่งเลิกกับแฟนเก่าได้ไม่นาน ทำเอางงว่าไปชอบกันตอนไหน จู่ๆ ก็ชวนทะเลาะในเรื่องไม่เป็นเรื่อง รู้สึกเสียดายตรงจุดนี้เพราะการที่ทั้งสองอายุห่างกันหลายร้อยปีมันมีความโมเอะในตัวอยู่แล้ว น่าจะเป็นจุดที่ใช้ดึงเสน่ห์ของตัวละครอย่างฮิโนะออกมาได้มากกว่าเอามาเป็นประเด็นในการทะเลาะกัน

    ในด้านของชุนโช ช่วงแรกๆ ที่พยายามตีสนิทฮิโนะก็เพราะเห็นเงาของยาอิจิโร่ในตัวฮิโนะ ทำเอางงเหมือนกันว่าสรุปแล้วชอบฮิโนะตั้งแต่เมื่อไร แล้วชอบเพราะเป็นตัวแทนของยาอิจิโร่รึเปล่า ถึงช่วงไคลแม็กซ์ตอนท้ายจะคลายปมในใจของชุนโชไปได้บางส่วน แต่เราก็อดรู้สึกไม่ได้ว่ายังมีปมที่ไม่เคลียร์ อ่านจนจบเรื่องก็ยังรู้สึกว่าความรักระหว่างสองคนนี้เบาบางเหลือเกิน ฝั่งฮิโนะยังพอรู้สึกได้ว่าพอคบกันไปแล้วก็เริ่มรักชุนโชขึ้นมาจริงๆ แต่ชุนโชกลับดูลังเลเหมือนยังคลายปมในใจไม่หมด จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ยอมรับฮิโนะเต็มร้อย พูดง่ายๆ ก็คือเคมีคู่ตัวเอกไม่ค่อยเข้ากันเท่าไร กับยาอิจิโร่หรือศาสตราจารย์อันโดยังจะดูเป็นธรรมชาติกว่า

    แต่นอกจากความน่ารำคาญเป็นช่วงๆ ของฮิโนะและความสัมพันธ์ที่อ่านแล้วไม่ค่อยอิน จุดอื่นในเรื่องถือว่าค่อนข้างโอเคอยู่ การดำเนินเรื่องในพาร์ทเอโดะถึงจะเป็นแค่บทเปิดเรื่อง แต่ชุนโชกับยาอิจิโร่ก็ดูเข้ากันได้ดีมาก ชุนโชในตอนนั้นไร้เดียงสาและไม่คิดว่าความปรารถนาดีที่มีให้เพื่อนจะกลายเป็นการทำร้ายเพื่อน ตอนที่ถูกยาอิจิโร่ตัดขาด อ่านแล้วก็รู้สึกเจ็บตามชุนโชไปด้วย ตอนท้ายเรื่องที่ปมเรื่องนี้ได้รับการคลี่คลายก็เป็นฉากที่ซึ้งจนน้ำตาซึมเลยทีเดียว (แต่คิดว่ามันยังสุดได้มากกว่านี้ถ้าไม่ทิ้งบางประเด็นไว้ให้คนอ่านคิดต่อเอง)

    ส่วนพาร์ทปัจจุบัน เราก็ชอบมิตรภาพระหว่างศาสตราจารย์อันโดกับชุนโชมาก ศาสตราจารย์อันโดเป็นมนุษย์ที่เข้าใจและหวังดีกับชุนโชจริงๆ บางทีก็นึกเสียดายว่าทำไมคู่นี้ไม่คบกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย 5555 ในเรื่องมีทั้งฉากสกินชิพ เล่าความหลัง ถูกล้อว่าเป็นแฟนกัน ฯลฯ ชวนให้คิดว่าศาสตราจารย์อันโดก็คงชอบชุนโชนั่นแหละ แต่ติดเฟรนด์โซนเพราะชุนโชไม่ได้คิดกับอีกฝ่ายไปในทางนั้น


    ถ้าพูดถึงความประทับใจในภาพรวม เราชอบเรื่องนี้มากกว่า te no naru hou e ด้วยคาแรกเตอร์ของชุนโชและตัวประกอบอื่นๆ การผูกปมและคลายปมที่ตรงไปตรงมา ให้ความสำคัญกับเส้นเรื่องเดียว เราเลยรู้สึกว่าเนื้อเรื่องเข้มข้นและน่าติดตามกว่า te no naru hou e แต่ถ้าแยกเป็นส่วนๆ กลับรู้สึกว่ามันมีจุดที่น่าขัดใจเยอะกว่า

    ปัญหานี้ที่จริงแอบรู้สึกมาตั้งแต่ตอนอ่าน te no naru hou e ว่าสไตล์การเขียนของอาจารย์คุริกิอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับโทนเรื่องเรียบๆ แบบนี้เท่าไร คือพอเรื่องมันเรียบแล้วไม่ได้สำรวจจิตใจของตัวละครมากพอที่จะมีประโยคเด็ดๆ มาเป็นหมัดฮุค มันเลยทำให้เรารู้สึกว่าเรื่องมีความขาดๆ เกินๆ ไปพอสมควร คือโทนเรื่องมาดี คาแรกเตอร์โอเค แต่อ่านแล้วไม่อินอย่างบอกไม่ถูก
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in