เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
REVIEWกีอัลลาร์
【BL】すみれびより (sumirebiyori) | tsukimura kei
  • すみれびより (sumirebiyori)

    author: tsukimura kei
    illustrator: kusama sakae


    เล่มนี้ได้มือสองมาจากร้าน bookoff เห็นเป็นงานอาจารย์สึกิมุระ หน้าปกก็สวยดีเลยหยิบมาแบบไม่ได้คิดอะไร แต่พออ่านแล้วปรากฏว่ามันดีกว่าที่คิดมาก!


    เรื่องย่อมีอยู่ว่าน้องฟุโยตัวเอกของเราเป็นเด็กที่ถูกแม่เลี้ยงแบบทิ้งๆ ขว้างๆ ชื่อฟุโยที่จริงเป็นชื่อดอกหญ้าชนิดหนึ่ง แต่ดันไปพ้องเสียงกับคำว่าฟุโยที่แปลว่า 'ไม่ต้องการ' เลยถูกเพื่อนบุลลี่มาตลอด จนกระทั่งขึ้นป.6 มีเด็กใหม่ชื่อนิชิซาวะย้ายมาเรียนห้องเดียวกัน เป็นคนเจิดจ้าเปล่งประกาย หน้าตาดีเรียนเก่ง เป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนฝูง เอาว่าตรงกันข้ามกับฟุโยทุกอย่าง

    แต่นิชิซาวะคนนี้กลับเอ็นดูน้องฟุโยของเราอย่างน่าประหลาดค่ะทั่นผู้ชมม ในคาบเรียนเวลาต้องจับคู่กับเพื่อนแล้วไม่มีใครยอมคู่กับฟุโย นิชิซาวะก็เสนอตัวมาจับคู่ด้วย คอยมาคุย พาไปเที่ยวบ้าน พฤติกรรมแบบไม่รู้ว่าจีบหรือเฟรนด์ลี่เกินไปกันแน่ (...) สุดท้ายคือน้องฟุโยก็ตกหลุมรักเขาจนได้

    แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขก็อยู่ไม่นาน เพราะมีคนไปแจ้งว่าแม่น้องฟุโยดูแลน้องไม่ดี ฟุโยเลยถูกแยกจากแม่ ต้องไปอยู่กับยายซึ่งทำแชร์เฮาส์อยู่ที่โตเกียว

    6 ปีผ่านไป ฟุโยเรียนจบม.6 และตัดสินใจไม่เรียนต่อเพื่อมาช่วยยายดูแลแชร์เฮาส์ แต่แล้วฟุโยก็พบว่าหนึ่งในผู้เช่าใหม่เป็นนักศึกษาปี 1 ที่เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนในโตเกียว--นิชิซาวะผู้เป็นรักแรกนั่นเอง


    ในเล่มเป็นเรื่องสั้น 3 เรื่องต่อกัน

    • เรื่องที่ 1 เล่าถึงตอนที่ฟุโยกับนิชิซาวะมาพบกันอีกครั้งที่แชร์เฮาส์
    • เรื่องที่ 2 เล่าถึงความว้าวุ่นใจของคู่รักใหม่ที่ยังไม่เข้าใจกันในบางเรื่อง
    • เรื่องที่ 3 เล่าถึงการเผชิญหน้ากับความทรงจำในวัยเด็กของฟุโย

    เนื้อเรื่องที่จริงแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรให้เล่าเพราะเป็นแนว slice of life เรียบๆ เนิบๆ คนเคยแอบชอบกันสมัยเด็กมาเจอกันใหม่ตอนโตแล้ว จีบกันกุ๊กกิ๊กจนได้เป็นแฟนกัน มีเรื่องไม่เข้าใจกัน ปรับความเข้าใจกัน แล้วก็จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ไม่ได้มีคอนฟลิกท์อะไรหนักหน่วง แต่ผิดคาดตรงที่พออ่านจบแล้วกลับรู้สึกว่านี่เป็นนิยายของอาจารย์สึกิมุระที่เราชอบที่สุดตั้งแต่อ่านมาเลย!

    ที่ชอบเพราะจังหวะการเล่าเรื่องลงตัวมาก รายละเอียดต่างๆ มันดูอบอุ่นฟลัฟฟี่ไปหมด ที่สำคัญคือปูพื้นหลังของตัวละครหลักที่เป็นคนเล่าเรื่องอย่างฟุโยได้ดี ทำให้เรารู้สึกอินและอยากเอาใจช่วย ถึงจะแอบรำคาญน้องอยู่บ้างในบางฉากที่คิดเยอะจนทำให้เรื่องไม่เป็นเรื่องกลายเป็นเรื่องขึ้นมา แต่ด้วยแบคกราวด์ชีวิตที่เป็นคนถูกทิ้งถูกบุลลี่มาตลอดก็ทำให้เข้าใจได้ว่าน้องเป็นคน self-esteem ต่ำ คบกับคนอย่างนิชิซาวะก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ กลัวไปหมดว่าจะทำอะไรให้อีกฝ่ายไม่พอใจ

    ส่วนนิชิซาวะก็เป็นพระเอกแสนดีแบบดี๊ดีย์ โลกนี้มีคนแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ เจิดจ้าอบอุ่นมีแต่คนเข้าหาเหมือนดวงอาทิตย์ แถมไม่มองข้ามดอกหญ้าริมทางอย่างน้องฟุโย แต่ก็มีจุดที่ดูสมกับเป็นเด็กอายุไม่ถึงยี่สิบตรงที่พอเป็นเรื่องของคนที่ตัวเองชอบก็แอบหลุดความไม่เท่ออกมาบ้าง

    คู่นี้อยู่ด้วยกันแล้วให้ความรู้สึกว่าน่ารัก ออกแนวฮีลใจให้กัน อ่านแล้วไม่รู้สึกอึดอัดกับความสัมพันธ์ จุดที่ชอบมากเลยคือไดอะล็อกเลี่ยนๆ เพ้อๆ สไตล์เกมจีบหนุ่มที่เอาดอกไม้ใบหญ้ามาเป็นสื่อแทนความรู้สึก เช่นตอนที่นิชิซาวะรู้สึกว่าฟุโยไปสนิทกับลูกบ้านอีกคนก็พูดกับฟุโยว่า "รู้มั้ยว่าภาษาดอกไม้ของดอกอะจิไซคืออะไร" (แปลว่านอกใจ เปลี่ยนใจ) คือเป็นไดอะล็อกที่คนธรรมดาคงไม่พูดกันหรอก แต่พอมาอยู่ในโทนเรื่องแบบนี้กับการบรรยายแบบนี้มันก็ดูกลมกลืนดี 5555 รู้สึกว่ามันไม่ใช่ไดอะล็อกที่ถูกยัดใส่ปากตัวละครแบบไม่มีที่มาที่ไปอะ อย่างบทของฟุโยคือเป็นคนไม่ค่อยพูด พอเขินก็ไม่รู้จะทำอะไรเลยได้แต่พูดเรื่องดอกไม้ใบหญ้าที่ตัวเองสนใจไปเรื่อยๆ เลยมีเกร็ดความรู้พวกนี้สอดแทรกมาเป็นระยะ


    โทนเรื่องของ 2 พาร์ทแรกจะกุ๊กกิ๊กหน่อย อ่านตอนเครียดๆ จะรู้สึกโลกกลายเป็นสีชมพูตุ่นๆ ขึ้นมาทันที แต่พาร์ท 3 จะหม่นขึ้นมาอีกนิด ทำเราแอบเสียน้ำตา คือไม่ได้เศร้าแบบฟูมฟายแต่มีความ bittersweet เล็กๆ

    เนื้อเรื่องพาร์ทนี้คือฟุโยกับนิชิซาวะกลับไปเยี่ยมบ้านเก่าสมัยประถม เจอเพื่อนที่โรงเรียนเก่า แล้วก็ย้อนคิดถึงสมัยเรียนที่ตัวเองถูกเพื่อนๆ บุลลี่ แต่บทสรุปเรื่องในอดีตของฟุโยก็ดีมากๆ ตรงที่บอกว่าสถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ไม่ดีในอดีต พอกลับไปจริงๆ ก็พบว่าความทรงจำเลวร้ายมันจางหายไปจนไม่ได้ทำร้ายเราขนาดนั้นแล้ว บ้านเกิดที่ไม่อยากกลับ พอกลับไปก็นึกออกแต่ความทรงจำดีๆ ที่เคยมีร่วมกับนิชิซาวะ

    เนื้อเรื่องมันอาจจะตรงกับประสบการณ์ส่วนตัวเราด้วยส่วนหนึ่งเลยรู้สึกอินมาก เรามีความทรงจำที่ไม่ดีเท่าไรตอนเรียนป.ตรี เรียนจบมาคือไม่เฉียดกรายไปแถวนั้นเลย แค่เห็นป้ายชื่อคณะก็รู้สึกแย่ แต่ปีก่อนมีเหตุให้ต้องไปเอาเอกสาร พอได้กลับไปจริงๆ ได้ไปนั่งเล่นนั่งคุยอาจารย์ก็รู้สึกว่าความทรงจำแย่ๆ พวกนั้นมันไกลตัวมากจนแทบจำอะไรไม่ได้แล้ว เลยไม่รู้สึกกลัวการกลับไปที่คณะอีก เหมือนได้ปลดล็อก achievement ในชีวิตไปอีกอย่าง

    โอเค กลับมาที่นิยาย 5555 สรุปคือเป็นเรื่องที่เราแนะนำให้อ่านมากๆ สำหรับคนที่ชอบแนว slice of life แบบฟุ้งๆ ละมุนๆ แต่ไม่เบาหวิวจนเกินไป จบดี ฮีลลิ่ง อ่านแล้วรู้สึกหัวใจพองโต
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in