แสงจันทร์นวลส่องเปรียบดังดวงไฟนำทาง สาดสว่างกระทบดวงหน้าเด็กสาวปริศนา
เธอยืนลำพังเงียบอึงใต้ความมืดสงัด นิ่งงันเช่นนั้นเนิ่นนาน
ใบหน้าเรียบเฉยไม่ปรากฏความรู้สึก แต่คล้ายว่าเธอกำลังรอบางสิ่ง
ซึ่งเธอเอง…ก็ไม่แน่ใจว่าคืออะไร
เธอได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับดาวดวงอื่น ผู้คนต่างกล่าวขานว่าที่นั่นทั้งสวยและน่าตื่นเต้น
ทุกอย่างบนนั้นเจิดจรัสสว่างจ้า พรมด้วยสีสันประดับประดาทั่วถ้วน
แลดูเป็นดินแดนในฝัน ทว่าช่างไกลเกินเอื้อมและน่าพิศวง
หลายคนออกเดินทางไปดินแดนดังว่าแล้วไม่มีใครกลับมาอีกเลย
เมื่อคิดเช่นนั้น เธอสลัดภาพฝันออกจากภวังค์ทันใด
ในเมื่อความเป็นจริง เธอมีหน้าที่ที่ต้องทำทุกวันเหมือนเดิม
เรื่องนักแสวงโชคที่บรรดาผู้คนพูดกันเข้าหูเธอเป็นระยะ
และมักพ่วงด้วยคำเตือนแกมตำหนิว่า
“อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องใส่ตัว”
“จุดจบก็รู้ๆกันอยู่”
ผู้คนที่นี่แทบไม่มีใครหลงเหลือตัวตนของเจ้าของ
ยกเว้นเหล่าเด็กชายหญิงที่ยังไม่กลายเป็นโดยสมบูรณ์ ...รอแค่เวลาเท่านั้น
นับแต่วันที่พวกเขาเดินทางมาถึงดินแดนแห่งนี้
พวกเขาได้ถูกสอน สั่งให้ทำ และเป็น
ถอดสลายตัวตนไปอย่างช้าๆจนหมดสิ้น
กระทั่งพวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ความคิดที่มีก็ไม่ใช่ตัวเขาอีกต่อไป
โลกของเด็กสาวหมุนเวียนแต่ละวันไปอย่างช้าๆเหมือนนาฬิกาที่ไม่หยุดเดิน
เธอถูกสอน สั่งให้ทำ และกำลังจะกลายเป็น
เธอทำตามทุกอย่างที่ควรทำอย่างว่าง่าย
มิอาจหาญกล้าขบถ ด้วยกลัวจุดจบที่เขาว่ากัน
การออกมาดูจันทร์จึงเป็นสิ่งเดียวที่เยียวยาหัวใจดวงน้อยของเธอ
ก่อนความรู้สึกเปี่ยมหวังเช่นนี้จะค่อยๆมลายหายไป
ในขณะที่ความหวังเล็กๆถึงดินแดนพิศวงนั้นดูเลือนรางไปทุกขณะ
เธอก็ตระหนักว่า หรือบางสิ่งที่เธอกำลังเฝ้ารอนั้น…อาจไม่มีอยู่จริง
คิดได้เช่นนั้นแล้ว เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วหันหลังกลับเข้าสู่คูหานิทราดังเดิม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in