Meg Jay นักจิตวิทยาคลินิกชื่อดังได้ศึกษาและวิจัยพัฒนาการของมนุษย์ในช่วงวัยต่างๆและค้นพบว่า
วัย 20 เป็นวัยที่กำหนดอนาคตของคนเรามากที่สุด ชีวิตหลังจากนี้จะดีหรือร้ายขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตในระยะนี้
Meg Jay พบว่าสิ่งที่น่าสนใจกว่าการให้คำปรึกษาคนวัย 20 ที่กำลังดิ้นรนและสับสนกับชีวิต คือการให้คำปรึกษาคนที่เคยทำตัวไม่เป็นโล้เป็นพายที่ตอนนี้อายุเข้าเลขสามหรือเลขสี่แล้ว ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ได้แต่นึกเสียใจและอยากกลับไปแก้ไขอดีต แต่ก็ไม่ทันกาลเสียแล้ว
ในบทความนี้เราจะมาอธิบายว่าทำไมวัย 20 จึงสำคัญและส่งผลต่อชีวิตมากขนาดนั้น
ช่วงวัยแบ่งตามพัฒนาการ
โดยทั่วไปแบ่งคร่าวๆได้ออกเป็น 6 ช่วง ดังนี้
⓵วัยทารก 0 - 2 ปี
⓶วัยเด็ก 2 – 12 ปี
⓷วัยรุ่น 12 – 21 ปี
⓸วัยผู้ใหญ่ 21 – 40 ปี
⓹วัยกลางคน 40 – 60 ปี
⓺วัยสูงอายุ ตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป
ช่วงอายุ 20 - 30 ปี (Personal Power: How do I establish myself in the world?)
วัย 20 คือ ช่วงอายุระหว่าง 20 -29 เป็นวัยแห่งการก่อร่างสร้างตัวตน การค้นหา การลองผิดลองถูก เผชิญความผิดพลาดล้มเหลว การเริ่มต้นใหม่ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ เป็นวัยเปลี่ยนผ่านจากวัยรุ่นสู่วัยผู้ใหญ่ เข้าสู่สังคมการทำงานและสนามแข่งขันของจริง เริ่มใช้ชีวิตด้วยตัวเอง พึ่งพาและรับผิดชอบตัวเอง เราได้ล้มจริง เจ็บจริง เราจะเจอเหตุการณ์ "ครั้งแรก" มากมายในช่วงวัยนี้ แต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกนี้จะค่อยๆหล่อหลอมตัวตน รวมถึงบ่มเพาะนิสัยติดตัวเราไป จึงอาจกล่าวได้ว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ในระยะนี้อาจเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของเราโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นด้านอาชีพการงาน การเงิน ความรัก ครอบครัว ความสุข สุขภาพ
วัยนี้สำคัญเพราะเป็นช่วงเวลาที่เรากำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เปลี่ยนช่วงเปลี่ยนผ่านของวัย ถือเป็น
"ระยะวิกฤต" ของชีวิต หากได้รับการกระตุ้นจากภายนอกที่เหมาะสม เราจะพัฒนาความสามารถได้อย่างเต็มที่ภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่ถ้าเป็นช่วงก่อนหรือหลังระยะนี้ การพัฒนาแบบนั้นอาจเป็นไปได้ยาก ด้วยที่เหตุผลที่ว่า ในวัย 30 จู่ๆประวัติการทำงานลุ่มๆดอนๆหลังจากเรียนจบก็ดูไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป ประวัติการชำระหนี้บัตรเครดิตที่ผ่านมาไม่มีเครดิตพอที่ธนาคารจะให้กู้ยืม และอีกหลายๆเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหากเราใช้ชีวิตวัย 20 ไปอย่างสูญเปล่า หรือไม่ลงมือทำอะไรในวัย 20
หลายคนคิดไปเองว่าพออายุ 30 แล้ว ชีวิตจะเข้าที่เข้าทางไปเอง บางครั้งก็อาจเป็นเช่นนั้น แต่ก็ไม่เสมอไป จริงอยู่ที่เรายังคงทำทุุกอย่างได้ในวัย 30 แต่การเริ่มต้นทุกอย่างพร้อมๆกัน อาจจะใช้พลังงานและแรงกดดันมหาศาลกว่าการเริ่มในวัย 20 และที่สำคัญพลังขับเคลื่อนหรือไฟในตัวของเราในวัย20 ย่อมพลุ่งพล่านและเหลือล้นกว่าวัย 30 แน่นอน นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่เราไม่ควรเสียเวลาวัย 20 ไปอย่างสูญเปล่า
ยิ่งเราตระหนักและให้ความสำคัญถึงช่วงเวลาต่างๆในชีวิตเร็วมากเท่าไร เราก็จะยิ่งกำหนดและควบคุมชีวิตได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ก็อย่าลืมว่าอายุไม่ใช่ตัวกำหนดทุกสิ่งของชีวิต ไม่มีอะไรสายเกินไปเสมอที่จะเร่ิ่มลงมือทำบางอย่าง
Gary Vaynerchuk, Self-made Millionaire (เศรษฐีที่สร้างฐานะขึ้นมาได้ด้วยตนเอง) เจ้าพ่อออนไลน์ที่ใช้โซเชียลฯเปลี่ยนธุรกิจครอบครัวให้กลายเป็นธุรกิจพันล้านภายใน 5 ปี กล่าวว่า
"ผมทิ้งชีวิตช่วงอายุ 20 ทั้งหมด ไม่ได้ทำอะไรสนุกๆหรือไปเที่ยวไกลๆตลอด 8 ปี รวมทั้งเสาร์อาทิตย์
ช่วงอายุ 22-23 ผมอยู่ในร้านขายเหล้า 15 ชั่วโมงทุกวัน
คุณใช้เวลากับการอู้ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามากกว่าที่ผมอู้ตลอดช่วงอายุ 20 รวมกันซะอีก"
และให้คำแนะนำแก่นักศึกษาหลังเรียนจบว่า
"I'm scared that you don't realize that you're entering the greatest 5 years window of your life.
This is not the time to get the job mom wanted you to do.
This is not the time to try to maximize as much money so you can buy a fat whip.
But this is the 5 years window for you to attack the life you want to win.
This is the best and earliest 5 years of your life because this is when you need to attack what you love and what you want to do.
You get to live life one time and this is the time right now to understand what's actually happening and actually map your behavior to something that will impact you for the next 80 years!"
The defining decade, Meg Jay
https://sites.google.com/site/psychologybkf1/home/citwithya-phathnakar/phathnakar-khxng-mnusy
https://inlpcenter.org/six-stages-of-human-growth-and-development/
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in