ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ผมไม่รู้จักชื่อ ไม่สิ ไม่รู้จักจำชื่อต่างหาก (เพราะผมเคยถามจากเพื่อนอยู่สองสามครั้งแต่ผมก็จำไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ) ผมมักจะนั่งพักผ่อนที่นี่คนเดียวเสมอ บางครั้งเพื่อนแว่นตัวดีของผมก็ติดสอยห้อยตามมาด้วย—แม้ผมไม่ค่อยเต็มใจจะอยู่ด้วยก็ตาม—ด้วยเหตุผลว่า “ไม่มีอะไรทำ” หรือ “ขี้เกียจทำงาน” บางครั้งผีเสื้อก็แวะเวียนมาที่นี่ ต่างสีสันกันไปในแต่ละวัน หากมาที่นี่ในตอนเช้าหน่อยจะได้ยินเสียงนกร้องเพลงชวนให้เช้าวันใหม่ของผมมีชีวิตชีวากว่าเช้าวันใหม่ของเมื่อวาน ผมเคยนั่งดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ จิบชาไปพลางตบยุงไปพลาง แหงล่ะ ตกเย็นทีไรยุงชุมทุกที วันนั้นผมจึงได้ตุ่มพระอาทิตย์มาเชยชมเต็มแขน ดีแค่ไหนที่ไม่เป็นไข้เลือดออก ผมยังนึกสงสัยจนถึงทุกวันนี้ว่าอะไรดลใจให้ผมยอมโดนยุงกัดแลกกับการดูพระอาทิตย์อัสดงกันนะ แต่ช่างมันเถอะ
ผมมองถ้วยชาขึ้นไอร้อน กลิ่นของมันทำให้ผมรู้สึกปล่อยวาง ชาเป็นเครื่องดื่มประเภทเดียวที่ผมอุทิศทั้งใจและกายเพื่อดื่มมันตลอดชีวิต ถ้าให้ผมเลือกระหว่าง ‘งาน’ หรือ ‘ชา’ ผมคงเลือกดื่มชาตลอดการทำงาน ผมเป่าไอร้อนออกและยกดื่ม จะเกินจริงไปหรือเปล่านะถ้าผมบอกว่าผมรู้สึกถึงรสชาไปทั่วร่าง (หากคุณหลงใหลในรสชาติของอะไรบางอย่างคุณจะรู้ว่าที่ผมกล่าวไปนั้นไม่เกินจริงสักนิด) เชื่อผมเถอะ เครื่องดื่มรสโปรดกับใต้ต้นไม้ใหญ่นี้น่ะ ไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้แล้ว
สายลมพัดเอื่อยๆ ความเฉื่อยเข้าครอบคลุมตัวผม ผมพิงต้นไม้ เผลอคิดว่าถ้าหากเป็นหนึ่งในสายลมที่พัดผ่านก็คงดี—เพราะมันอิสระและไร้รูปร่าง ผมเห็นแมวดำเดินมาแต่ไกล มันเข้ามาคลอเคลียทั้งยังนั่งตักผมอีกต่างหาก ผมส่งเสียงเตือนเมื่อมันยื่นหน้าจะดมชาในมือของผม แมวดำตัวนี้มีปลอกคอ มิน่าล่ะ เชื่องเชียว สงสัยมันคงเดินเที่ยวนอกบ้านจนมาถึงที่นี่ ผมเกาคอเพราะหมั่นเขี้ยว ได้ยินเสียงร้องเบาๆจากบนตัก จู่ๆมันก็กระโดดลง วิ่งไปทางหน้าต่างหอพัก ปีนไปเกากระจกของห้องๆหนึ่ง—ห้องที่ผมคุ้นเคยกับมันดี—ส่งเสียงเหมียวๆจนเจ้าของห้องเปิดหน้าต่างให้มันเข้าไป นั่นทำให้เขาสังเกตเห็นการมีอยู่ของผม เขาส่งยิ้มทักทาย ผมเพียงมองตอบนิ่งๆเหมือนอย่างเคยจนกระทั่งเขาปิดหน้าต่าง
ผมชำเลืองมองเขาให้อาหารแมว ลมพัดแรงขึ้น อุณหภูมิรอบกายลดลง ดอกหญ้าและต้นไม้พริ้วไหว แรงจากสายลมส่งผลให้ใบไม้สีส้มร่วงหล่นลงบนพื้น ผมหยิบใบไม้บางใบที่ตกลงบนหัวออก ว่ากันว่าเมื่อใดก็ตามที่ใบไม้ทั้งต้นเปลี่ยนสีและร่วงหล่นลงพื้นตามแรงโน้มถ่วง—เพียงแค่ใบเดียวก็ตาม—เมื่อนั้นแหละที่ฤดูใบไม้ร่วงได้มาเยี่ยมเยือนแล้ว หากเปรียบหัวใจของผมเป็นใบไม้ล่ะก็ ผมคิดว่ามันคงร่วงหล่นสู่พื้นดินเป็นจำนวนนับอนันต์ กองสูงขึ้นเรื่อยๆจนผมเก็บกวาดไม่หมด—ไม่สิ ผมไม่เคยคิดเก็บกวาดมันเลยต่างหาก ณ เวลานี้ หัวใจของผมกำลังร่วงหล่นให้กับใครบางคน แหม ช่างเหมาะกับชื่อฤดูเสียจริง
TALK: สวัสดีเดือนตุลาคมค่า เรื่องนี้เป็นแฟนฟิคเอรุริเรื่องแรก(อย่างเป็นทางการ)ของเรา+ตั้งใจจะเขียน #fictober ให้ครบ 31 วันแต่ไม่รู้จะรอดมั้ย(ฮ่า) หวังว่าฟิคของเราจะทำให้ใครบางคนยิ้มหรือรู้สึกจอยได้บ้าง สามารถติชมหรือทักท้วงคำผิดได้ทุกเมื่อเลยค่ะ สุดท้ายแล้วขอให้เดือนนี้เป็นเดือนที่น่ารักสำหรับทุกคนนะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in