* เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์*

บางครั้งชีวิตของคนเราก็ไม่มีโอกาสได้เลือกมากนักและที่สำคัญหลายต่อหลายครั้งชีวิตของเรามีคนตัดสินใจแทนให้

เช่นเดียวกับมิเชลล์ในเรื่องในคืนแห่งภัยพิบัติวันนั้นโฮเวิร์ดได้ช่วยเหลือเธอจากอุบัติเหตุรถยนต์และพาเธอมายังใน"ที่ปลอดภัย" เป็นเชลเตอร์หลบภัยใต้ดินที่เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมสรรพสามารถอาศัยอยู่ได้นานนับปี

ในเมื่อไม่สามารถติดต่อกับคนอื่นได้ ข่าวสารภายนอกที่มิเชลล์รับรู้นั้นมาจากทางโฮเวิร์ดเพียงคนเดียวเขาบอกว่าที่เขาพาเธอไปก็เพื่อช่วยเธอ ข้างนอกมันอันตรายที่พาเธอมาอยู่ที่นี่เพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง

และไม่ทันไร โฮเวิร์ดก็มีสภาพเป็น"เจ้าของดินแดน" และดำรงตำแหน่ง "ผู้ปกครอง" ขณะที่มิเชลล์และเอลเมตต์ชายหนุ่มอีกคนที่เข้ามาขออาศัยกลายสภาพเป็นผู้อยู่อาศัยไม่ว่าจะเข้ามาอย่างสมัครใจหรือไม่สมัครใจ ทั้งคู่ก็อยู่ในสภาพของ"ผู้อยู่ใต้การปกครอง" ที่ไม่สามารถมีปากมีเสียงใดๆ กับ"ผู้มีบุญคุณ"

น่าขันตรงที่แม้ว่าเอลเมตต์เหมือนจะเป็น"ผู้สร้างร่วม" ที่ช่วยสร้างเชลเตอร์แห่งนี้จนสำเร็จก็ไม่อาจมีปากเสียงใดๆเพราะถือว่าเป็นคนที่ถูกจ้างวานให้สร้างที่นี่มากกว่าจะเป็นเจ้าของดังนั้นภายในเชลเตอร์นี้คืออาณาจักรของโฮเวิร์ดโดยสมบูรณ์

มิเชลล์ต่างจากเอลเมตต์ตรงที่ไม่ได้เข้ามาอย่างสมัครใจเธอถูกพามาโดยที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะขัดขืน อย่างไรก็ดี โฮเวิร์ดก็พยายามเกลี้ยกล่อมเธอให้ยินยอมที่จะอยู่ที่นี่โดยสิ่งที่เขายกมาพูดใส่เธอมากที่สุดก็คือ "บุญคุณ" นั่นเอง

ใช่แล้ว โฮเวิร์ดตั้งใจทำให้มิเชลล์รู้สึกผิดที่ต่อต้านเขาด้วยการทวงบุญคุณตั้งแต่บุญคุณที่เขาช่วยเธอจากอุบัติเหตุ บุญคุณที่ให้ที่พักอาศัย ทุกครั้งที่เธอแสดงการต่อต้านเขาจะผรุสวาทถ้อยคำมากมายที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาเพื่อหวังจะให้เธอสำนึก

แต่เมื่อไม้แรงไม่ได้ผล โฮเวิร์ดก็เปลี่ยนมาใช้ไม้อ่อนยกความผิดของตัวขึ้นนำว่าที่เธอต้องมาอยู่ที่นี่เป็นเพราะเขาขับรถชนรถเธอเองเขาพาเธอมาที่นี่เพราะความรู้สึกผิดที่เขาไม่อาจปล่อยเธอให้อยู่ที่นั่นได้ในที่สุดมิเชลล์ก็ยอมรับในเหตุผลนี้ แม้ว่ามันอาจจะไม่เป็นความจริงเลยก็ตามและที่สำคัญข้อแก้ตัวเหล่านั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่เขาทำกับเธอแต่การต่อต้านของเธอก็อ่อนแรงลง เพราะโฮเวิร์ดพูดจริง (อยู่บ้าง)และเธอก็เริ่มเชื่อแล้วว่าเขาคือผู้มีบุญคุณของเธอจริงๆ

ทว่า ในตอนนั้นก็ไม่มีใครที่อาจจะรู้ได้เลยว่า โฮเวิร์ดผู้ปกครองดินแดนแห่งความปลอดภัยนี้มีจุดประสงค์อย่างอื่นที่ไม่เปิดเผยให้ใครได้รู้ผู้มีบุญคุณแสนดีกำลังสร้างความดีเรื่อยๆ และวันหนึ่งโฮเวิร์ดเองก็อาจจะบรรลุจุดประสงค์นั้นโดยที่มิเชลล์ไม่มีความเคลือบแคลงสงสัยถ้าไม่ใช่เพราะว่ามีเอลเมตต์ อาศัยอยู่ด้วย โฮเวิร์ดคงทำอะไรได้ง่ายกว่านี้

ถ้าเปรียบเชลเตอร์แห่งนี้เป็นอาณาจักรเอลเมตต์ก็เหมือนกับทูตจากอาณาจักรข้างๆ ที่รู้อะไรดีหลายอย่างและมีความสัมพันธ์กับอาณาจักรโฮเวิร์ดมาเนิ่นนานและถ้ามีคนคนนี้อยู่ โฮเวิร์ดก็ไม่อาจทำอะไรได้สะดวกนัก แน่ล่ะ ว่าเขาจะต้องหาทาง"กำจัด" แต่จะกำจัดยังไงให้ไม่กระโตกกระตากและเป็นที่ชอบธรรมไม่อย่างนั้นการต่อต้านก็ต้องเกิดขึ้นแน่นอน

ถ้าใครที่ดูหนังแล้วก็จะรู้ ว่าสุดท้ายโฮเวิร์ดก็มีเหตุผลอันชอบธรรมในการกำจัดเอลเมตต์หลังจากกำจัดเอลเมตต์ได้แล้วสิ่งที่เขาทำคือปลอบประโลมมิเชลล์ผู้สั่นไหวและกล่อมให้เธอฟังว่าจริงๆ แล้วเอลเมตต์สมควรได้ด้วยเหตุผลที่เขาเชื่อ แน่ล่ะว่ามิเชลล์รู้ทุกอย่างแล้วทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังแต่สิ่งที่เธอจะเลือกคือการอยู่ที่อย่างปลอดภัยตามคำกล่าวอ้างของเจ้าบ้านหรือจะถึงเวลาดูแลตัวเองมีชีวิตด้วยการตัดสินใจของตัวเองแม้ว่าข้างนอกจะมีอะไรก็ไม่รู้

และสุดท้าย มิเชลล์ก็แสดงให้เราเห็น(ถึงจะโอเวอร์ไปหน่อย) ว่าสุดท้ายเธอก็ไม่จำเป็นที่จะอยู่ภายใต้การปกครองใดๆไม่จำเป็นต้องให้ใครมาขีดเส้นของความปลอดภัยให้ มันคือชีวิตอิสระที่มนุษย์ควรจะได้รับไม่ว่าจะเป็นหนทางที่ปลอดภัยหรือเสี่ยงตายอย่างน้อยเธอก็ควรที่จะเป็นคนเลือกเองจริงๆ ไม่จำเป็นต้องมีใครมาเป่าหูเธออีกต่อไป #