เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Fav-Song〆♡sth.aroundmuse
[trans-แปลเพลง] i’d Do it Again - VioletteWautier


  • _____________________________________________

    เนื้อเพลงเล่าถึงวันที่ความสัมพันธ์นี้ได้จบลงแล้ว มองย้อนกลับไป ความทรงจำในความสัมพันธ์นี้มันช่างหวานชื่นและขมขื่นในคราวเดียวกันเพราะทั้งสองคนต่างเข้ากันไม่ได้เลย ในเนื้อเพลงเปรียบคนหนึ่งเป็นไฟ คนหนึ่งเป็นพายุ เมื่อเวลาไฟกำลังโชตช่วงลมพายุก็โหมกระพือให้มอดไหม้วอดวายกว่าเดิม แต่รักครั้งนี้ก็มีความสุขและมีค่ามากๆจนเธอยังคงจำเรื่องราวดีๆต่างๆได้ตั้งแต่วันแรก

    และรักครั้งนี้ยังคงงดงามมาก ขนาดที่ว่า

    “ ถึงจะรู้ว่ารักครั้งนี้จะจบลงแบบนี้ เธอก็จะทำมันอีกครั้ง(เช่นเดิม) ”

    _____________________________________________


    I'd Do It Again. - ฉันจะทำมันอีก


    I recall when you were mine
    You used to teach me how to drive
    You used to make fun of me when I'd cry

    ฉันหวนระลึกถึงตอนที่เธอยังเป็นของฉัน เธอเคยสอนฉันขับรถและหัวเราะฉันยามฉันร้องไห้


    And I remember how we met
    3rd of July I wore a white dress
    And your hand was broken you were in a cast

    และฉันยังจำได้ว่าเราพบกันได้อย่างไร 3กรกฎาคม ฉันสวมเดรสสีขาว และมือของเธอที่หัก เธอสวมเฝือกอยู่


    And we fell in love
    But we both messed it up
    You were a storm and I was fire
    Yeah we both had enough
    Of Things broken on the floor
    What were we fighting for

    และเราก็ตกหลุมรักกัน แต่เราทั้งคู่ทำมันพัง
    เธอคือพายุและฉันก็คือไฟ
    ใช่ เราทั้งคู่ต่างหมดความอดทนกับสิ่งที่แตกสลายอยู่บนพื้น
    เราทะเลาะกันเพื่ออะไร?


    It was bitter sweet
    You were like a dream
    And I was your girl on the passenger seat
    Right next to you
    We were unstoppable
    We thought we had it all

    มันช่างเป็นเรื่องหวานปนขม(ทั้งสุขและเศร้า)
    เธอช่างเป็นเหมือนความฝัน
    และฉันก็เป็นเคยผู้หญิงของเธอบนที่นั่งผู้โดยสารนั้น…ข้างๆเธอ
    ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งเราได้
    เราต่างคิดว่าเรามีครบแล้วทุกสิ่ง


    We used to laugh about the things
    That no one else would find funny
    Just you and me when nobody's around

    เราเคยหัวเราะให้กับเรื่องต่างๆที่ไม่มีใครเห็นความขบขันของมัน
    มีเพียงแค่เธอและฉันเท่านั้น(ที่เห็น)ยามไม่มีใครอยู่รอบกาย


    And I remember every second
    When we broke up in your car
    I held a smile and held you in my arms

    และฉันจำได้ทุกวินาทียามที่เราเลิกกันในรถของเธอ
    ฉันฝืนยิ้มและโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน


    We were so in love
    But we both messed it up
    You were a storm and I was fire
    Yeah we both have given up
    It's not working anymore (no)
    Don't want to fight no more

    พวกเรารักกันเหลือเกินแต่เราต่างทำมันพัง
    เธอก็คือลมพายุและฉันก็คือไฟ
    ใช่ เราทั้งคู่ต่างยอมแพ้แล้ว
    มันไปต่อไม่ได้อีกแล้ว
    ไม่อยากทะเลาะกันอีกต่อไปแล้ว


    It was bitter sweet
    You were like a dream
    And I was your girl on the passenger seat
    Right next to you
    We were unstoppable
    We thought we had it all

    มันช่างหวานปนขม(ทั้งสุขและเศร้า)
    เธอเป็นดั่งความฝันและฉันคือผู้หญิงของเธอบนที่นั่งผู้โดยสาร…ข้างๆเธอ
    ไม่มีอะไรมาหยุดพวกเราได้
    เราคิดว่าเรามีโลกทั้งใบ


    Even if I knew this would end , I'd do it again
    Even if I knew this would end , I'd do it again
    Even if I knew this would end , I'd do it again
    Even if I knew this would end , I'd do it again

    I'd do it again
    I'd do it again
    I'd do it again

    แม้ฉันรู้ว่ามันจะต้องจบลงแต่ฉันก็จะทำมันอีก
    แม้ฉันรู้ว่ามันจะต้องจบลงแต่ฉันก็จะทำมันอยู่ดี
    แม้ฉันจะรู้ว่ามันต้องจบลงแต่ฉันก็จะทำมันอีก
    แม้ฉันจะรู้ว่ามันต้องจบลงแต่ฉันก็จะทำมันอยู่ดี


    We were so in love
    But we both messed it up
    (I'd do it again)

    พวกเราโคตรรักกันเลยแต่เราทั้งคู่ก็ทำมันพัง
    (ฉันคงทำมันอีก)

    Storm and fire
    Yeah we both had enough
    (I'd do it again)

    พายุและไฟ ใช่พวกเราพอแล้ว
    (ฉันคงทำมันอีก)

    Bitter sweet
    You were like a dream
    (I'd do it again)

    หวานและขม เธอช่างเป็นเหมือนความฝัน
    (ฉันคงทำมันอีก)


    I'd do it again
    Yeah I'd do it again

    ฉันจะทำมันอีก

    ใช่ ฉันก็ยังจะทำมันอยู่ดี


    __________________________________________

    Note :


    > bittersweet แปลตรงตัวได้ว่า หวานปนขม ซึ่งในเพลงเปรียบเทียบได้กับความทรงจำทีทั้งสุขและเศร้าในคราวเดียวกัน เมื่อเวลามองย้อนกลับไปมีทั้งความสุขหวานล้ำและความขมขื่นอยู่ร่วมกัน

    (คนจะชอบเอามาเทียบได้กับรสชาติช็อคโกแลตที่ทั้งหวานและขมแต่ก็อร่อย)


    > make fun of someone เป็นสำนวนแปลว่า ล้อเลียน หรือ หัวเราะเยาะ ความหมายเป็นได้ทั้งแง่บวกและลบ


    > ท่อน we both had enough
    Of Things broken on the floor
    ในความเข้าใจของเรา Things broken on the floor สามารถสื่อได้ 2 ความหมาย

    ทั้ง “สิ่งของ” จริงๆที่โดนปาแตกหรือพังเสียหายกองอยู่บนพื้นจากการทะเลาะกัน

    และ “ความรู้สึก” ที่เสียหายพังทลาย ร่วงหล่นจากแรงอารมณ์ของทั้งสองคน

    ___________________________________________


    ก็คืออินมากกกก ทำเพลงออกมาได้ดีมาก ฟังแล้วก็เห็นภาพความพังของความสัมพันธ์ เรื่องราว และความเข็มแข็ง ยอมรับความเป็นจริงของผู้หญิงสมัยนี้ได้ดีมาก 


    เพราะมากๆเลย อดไม่ไหว อยากแปลตามภาษาของเราที่เราฟังและแอบแปลในใจตามตลอดการฟัง


    ผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยค่ะ


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in