เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Analyse With Meวงการฟันเฟิง
God is a woman- Ariana Grande's Masterpiece

  • God is a woman by Ariana Grande

    Directed by: Dave Meyers


    เกริ่นกันนิส

    God is a woman คือซิงเกิ้ลที่สองจากสตูดิโออัลบั้มที่สี่อย่าง Sweetener ของ Ariana Grande (ซึ่งปล่อยออกมาแล้วนะคะ ไปฟังกันได้เลย) เธอได้ปล่อยมิวสิควิดีโอนี้มาเมื่อวันที่ 13 กรกฎาและแสดงให้ทุกคนเห็นถึงความคิดแนวเฟมินิสต์ของเธอและการผสมผสานศิลปะและตำนานจากยุคต่างๆให้เข้ากับความโมเดิร์นในวันปัจจุบัน

    ในเอ็มวีเธอใช้ symbolism เยอะมากๆเพื่อที่จะแทรกความหมายต่างๆเข้ามาแถมยังมี references เยอะมากด้วย คราวนี้แอดจะมาตีความให้ดูในแบบฉบับของตัวเองว่าแต่ละฉากหมายความว่าอะไร

    1. Ariana และฮูลาฮูปทางช้างเผือกของเธอ


    ในฉากนี้ Ariana ยืนอยู่บนโลกซึ่งสื่อถึงสำนวน on top of the world ซึ่งแปลว่าการมีความสุขมากๆ (ตัวอย่าง: I feel on top of the world today- วันนี้ฉันมีความสุขมากๆ) นอกจากนี้เธอยืนอยู่ตรงกลางของทางช้างเผือกสื่อถึงการอยู่  centre of the universe ซึ่งแปลว่าการเป็นคนที่สำคัญที่สุด คนที่อยู่ศูนย์กลางของจักรวาลนั่นเองค่ะ

    นอกจากนี้สามารถตีความฉากนี้ได้ว่า Ariana สร้างโลกของตัวเองขึ้นมา คอนโทรลโลกนั้นเองและเป็น God ของจักรวาลใหม่นี้

    2. Ariana และบ่อสีของเธอ

    ในฉากนี้ Ariana นอนอยู่ในบ่อสีที่เป็นรูปอวัยวะเพศหญิง สื่อถึงการ
    embrace sexuality ของตัวเองและเป็นสัญลักษณ์ของพลังหญิง แถมยังเป็น reference ถึงภาพวาดของ Georgia O'Keeffe ที่ใช้ดอกไม้เป็น metaphor สำหรับอวัยวะเพศหญิง โดย Georgia มีฉายาว่า Mother of Modernism และมีผลงานที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใคร 

    โดยรวมแล้วฉากนี้เป็นการแสดงถึงความสวยงามของการเป็นผู้หญิงและเชิดชู the female form ค่ะ


    ตัวอย่างผลงานของ Georgia O'Keeffe

    3. Ariana และเตียงโฟมของเธอ

    ในฉากนี้ Ariana เปรียบเสมือน
    Aphrodite เทพธิดาแห่งความรักและความงดงามของกรีก (หรือ Venus ในฉบับโรมัน) Aphrodite เกิดมาจาก seafoam และอวัยวะเพศของ Uranus ที่โดนชำแหละและโยนลงทะเลโดย Cronus ลูกชายของเขา

    นอกจากนี้การที่ Ariana อยู่สูงขึ้นมาบนแท่นโดยมีผู้ชายอยู่ข้างล่างสื่อถึงอำนาจที่มากกว่าและความ God is a woman ค่ะ

    4. Ariana และท่านั่งของเธอ

    คราวนี้ Ariana นั่งเลียนแบบรูปปั้นชื่อดังอย่าง The Thinker ของ Auguste Rodin ซึ่งหลายๆครั้งก็ represent ปรัชญานั่นเอง และเมื่อเธอนั่งท่านี้ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงก็สามารถเป็นตัวแทนของปรัชญาได้เช่นกัน เป็นการ denounce the conflation of intelligence and masculinity และเป็นการให้เกียรติผู้หญิง

    นอกจากนี้ยังมีผู้ชายต่อว่าเธอด้วยถ้อยคำที่ misogynistic แต่เธอก็โนสนโนแคร์ สื่อถึงการที่เธอไม่สนใจว่าคนจะ slut-shame เธอยังไง แถมเธอตัวใหญ่กว่าผู้ชายทั้งหมด นอกจากจะสื่อถึงการเป็น God แล้วก็สามารถหมายถึงสำนวน the bigger person ที่แปลว่าการมีสปิริตและไม่ทำอะไรแย่ๆกลับเวลาคนอื่นมาทำตัวแย่ใส่เราค่ะ

    5. Ariana และความ unique ของเธอ

    ฉากนี้แสดงถึง
    individuality หรือความเป็นตัวของตัวเอง Ariana ยืนอยู่ท่ามกลางผู้หญิงหลายๆคนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันและยืนหันหลัง แต่เธอโดดเด่นด้วยในแบบของเธอเองและไม่ต้องทำตามใคร เป็นการส่งเมสเสจว่าการ stand out ออกมามัน powerful มากแค่ไหน นอกจากนี้ฉากนี้ตรงกับท่อน "And I can be all the things you told me not to be" แปลว่าฉันสามารถเป็นทุกสิ่งที่คุณบอกว่าฉันเป็นไม่ได้ เป็นฉากที่เรียบง่ายแต่ก็มีความหมายมากๆ

    6. Ariana และหมาสามหัวของเธอ


    หมาสามหัวที่เห็นก็คือ Cerberus ซึ่งเป็นหมาของ Hades (เทพเจ้าแห่งความตาย) ที่เฝ้าประตูนรก (underworld) ตามเทพนิยายกรีกเพื่อป้องกันไม่ให้มีวิญญาณหลุดออกไปและตอนนี้พวกมันก็ปกป้อง Ariana อยู่ ตรงกับท่อน "When you try to come for me, I keep flourishing" แปลว่า เมื่อคุณพยายามโจมตีฉัน ฉันก็จะประสบความสำเร็จต่อไป

    อีกอย่างที่น่ารักมากๆคือ Ariana เป็น Potterhead ตัวยงและในภาค The Philosopher's Stone เราได้เจอ Fluffy เจ้าหมาสามหัวของแฮกริดด้วย


    แถมในฉากนี้ Ariana ใส่บราโคนที่คล้ายกับของ Madonna ซึ่งหลายคนยกให้เป็นหนึ่งในตัวแทนของ female empowerment อีกด้วยค่ะ


    7. Ariana และเทียนของเธอ


    Ariana ยืนอยู่ท่ามกลางแสงเทียน ซึ่งแน่นอนว่าเทียนสื่อถึงแสงสว่างโดยเฉพาะในด้านศาสนาแสงเทียนสื่อถึง God (the light of the candle) และเมื่อเธอยืนอยู่ตรงกลางแบบนี้เธอจึงเป็น God

    8. Ariana และโลกของเธอ

    Ariana กลับมาอยู่บนโลกอีกครั้งตามสำนวน on top of the world ครั้งนี้มีการเอานิ้วแหย่พายุและหมุนด้วย หมายความว่าบนโลกนี้เธอควบคุมทุกอย่างรวมถึงอากาศเพราะว่าเธอเป็น God นั่นเอง

    9. Ariana และท้องของเธอ

    ส่วนในฉากนี้เราจะเห็นว่า Ariana ตั้งครรภ์ท่ามกลางธรรมชาติสื่อถึงการเป็น Mother Nature เป็นพลังธรรมชาติที่ส่งผลถึงมนุษย์ เป็นการบอกว่าผู้หญิงคือผู้ให้กำเนิดเหมือน God และผู้หญิงทุกคนก็เป็น God ได้ค่ะ นอกจากนี้ Mother Nature ตามเทพนิยายกรีกก็คือ Gaia เธอคือ Mother Earth และเป็นมารดาของเทพเจ้ากรีกตนอื่นค่ะ

    10. Ariana และลูกชายทั้งสามของเธอ

    ฉากนี้สื่อถึงเทพนิยายโรมันอย่าง Romulus และ Remus ที่ถูกสั่งฆ่าและถูกทิ้งที่แม่น้ำไทเบอร์ตั้งแต่เป็นทารกจนกระทั่งมีแม่หมาป่าหรือ she-wolf มาพบเข้าและเลี้ยงดูทั้งสองจนโต เมื่อ Romulus โตขึ้นเขาเป็นผู้ก่อตั้งกรุงโรมและเป็นกษัตริย์องค์แรกอีกด้วย she-wolf จึงเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของความเป็นแม่ เป็นการบอกว่าผู้ชายก็ต้องพึ่งพาผู้หญิงเหมือนกันค่ะ

    Romulus และ Remus กับ she-wolf

    11. Ariana และความอลังการของเธอ

    ในฉากนี้ Ariana ท่องบทจากหนัง Pulp Fiction ในฉบับที่ Madonna เป็นคนพูดค่ะ
                 
                 "And I will strike down upon thee with great vengeance and furious anger those who would attempt to poison and destroy my sisters. And you will know my name is the Lord when I lay my vengeance upon thee."

    เนื้อหาคร่าวๆก็คือ ฉันจะโกรธและแค้นใครก็ตามที่บังอาจมาทำร้ายสาวๆของฉันและมีการบอกว่า My name is the Lord ซึ่งก็คือ God นั่นเอง โดย passage นี้มาจากคัมภีร์ไบเบิ้ล (Ezekiel 5:17) และจริงๆแล้วเป็นคำว่า brothers ไม่ใช่ sisters ด้วยค่ะ

    นอกจากนี้เธอยืนอยู่ในสถานที่ที่เรียกว่า the Pantheon (มหาวิหารแพนธีออน) ซึ่งก็คือโบสถ์ที่เป็นบ้านของเทพเจ้าโรมันทุกองค์อีกด้วย เพิ่มความยิ่งใหญ่เข้าไปอีก


    หลังจากนี้เธอก็โยน gavel หรือค้อนผู้พิพากษาที่อยู่ในมือขึ้นไปพังเพดานกระจก เป็นการ "break the glass ceiling" หมายถึงการทำลายอุปสรรคที่กันไม่ให้ผู้หญิง (และ people of colour หรือคนผิวสี) ประสบความสำเร็จในด้านการทำงานหรือมีตำแหน่งสูงในสังคม แปลเป็นอังกฤษก็คือ an unseen or unacknowledge barrier that prevents women, people of colour and other non-dominant groups from advancing (usually regarding their careers and social status)

    การที่เธอใช้ค้อนผู้พิพากษาก็มีความหมายเช่นกันเพราะสามารถหมายถึงการที่ความยุติธรรมและการเปลี่ยนแปลงจะช่วย empower ผู้หญิง ฉากนี้เป็นหนึ่งในฉากที่ส่งเมสเสจที่ powerful ที่สุดในเอ็มวีเลยเพราะเป็นการบอกผู้หญิง

    12. Ariana และหน้าแมวของเธอ

    การที่ Ariana มีตาแบบ
    แมวนั้นมี symbolism ที่ชัดอยู่ซึ่งก็คือความเชื่อที่แมวมีเก้าชีวิตสื่อถึงความ
    สตรองและฆ่าไม่ตายของผู้หญิงค่ะ แถมหลายครั้งเลยที่แมวเป็นสัญลักษณ์ของ femininity และตามลักษณะทั่วไปของแมว แมวเป็นสัตว์ที่ฉลาดมีความ cunning และ independent ซึ่งเป็นสิ่งที่ Ariana กำลังบอกว่าผู้หญิงก็เป็นได้ นอกจากนี้แมวยังเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอียิปต์โบราณบูชาอีกด้วยค่ะ

    13. Ariana และลูกโป่งของเธอ

    Ariana เดินอยู่บนเชือกพร้อมกับถือลูกโป่งแต่เมื่อมองใกล้ๆแล้วจะเห็นว่าลูกโป่งเหล่านั้นคือ
    ดาวเคราะห์ต่างๆค่ะ หมายถึงว่าแม้เธอจะสตรองขนาดถือทั้งจักรวาลอยู่ในมือแต่ชีวิตคนเราก็ต้องมีความสมดุลเช่นกัน


    14. Ariana และความเป็น God ของเธอ

    ชอบฉากนี้มากกก Ariana เลียนแบบภาพ
    The Creation of Adam ของ Michelangelo แต่เธอเป็น God และอดัม (ผู้ชายคนแรกบนโลก) เป็นผู้หญิงผิวสี แถมผู้หญิงคนอื่นๆที่อยู่รอบ Ariana มีผู้หญิงหลากหลายเชื้อชาติด้วยค่ะ God is a woman จริงๆ
    ภาพ The Creation of Adam ของ Michelangelo

    ก็จบแล้วนะคะการหาความหมายแฝงในเอ็มวี God is a woman ของ Ariana Grande ถ้าผิดพลาดอะไรก็ขอโทษด้วย ทั้งหมดเป็นความเข้าใจของแอดซึ่งบางทีอาจมองลึกไปรึเปล่าก็ไม่รู้ ถ้างงตรงไหนบอกได้เลยนะคะ แอดอธิบายเป็นไทยไม่เก่งอาจงงๆ ขอบคุณที่ตามอ่านนะคะ

    ติดตามแอคทวิตเตอร์ได้นะคะ เป็นแอคอัพเดตข่าวบันเทิงสากล ทั้งเพลงหนังและซีรีส์ต่างๆ แวะมาคุยกันได้นะ <3 @moviesmusic_th https://twitter.com/moviesmusic_th?lang=en
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in